“อัศวิน” เรียกประชุมทีมสืบนครบาล วางมาตรการสืบสวนเร่งรัดคดีค้างเก่า หลังเกิดเหคุคนร้ายปล้นร้านสะดวกซื้อ 2 แห่งในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา เชื่อ คนร้ายเป็นคนคนเดียวกันที่ลงมือปล้นทั้ง 2 แห่ง สั่งเร่งหาข่าวติตามคนร้ายที่มีพฤติกรรมก่อเหตุ เพื่อง่ายในการสืบสวน
วันนี้ (16 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. เรียกประชุมนายตำรวจระดับรอง ผบช.น. รับผิดชอบงานด้านสืบสวน หัวหน้าศูนย์สืบสวน บช.น. ผกก. สส.น.1-9 เพื่อวางมาตรการสืบสวนเร่งรัดคดีค้างเก่ารวมถึงวางมาตรการป้องกันอาชญากรรม
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวหลังการประชุมว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมเรื่องคดีค้างเก่า โดยมอบหมาย พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รอง ผบ.ช.ดูแลงานด้านสืบสวนสอบสวน และกำชับการเร่งรัดคดีค้างเก่า และเร่งติดตามคนร้ายเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อ 2 แห่งในตอนกลางคืนที่ผ่านมา หลังจากการสืบสวนพบว่าคนร้ายเป็นคนคนเดียวกัน ซึ่งเมื่อเวลา 23.00 น.เป็นการปล้นในครั้งแรกได้เงินไป 600 บาท และเวลาประมาณ 24.00 น.ได้เงินไป 1,200 บาท ซึ่งการที่ได้เงินไปจำนวนน้อยหรือมากก็ถือว่าเป็นการชิงทรัพย์โดยมีโทษที่เท่ากันซึ่งเป็นความเดือดร้อนของประชาชนและเป็นความก้าวร้าวของอาชญากรรม ตำรวจมีหน้าที่ป้องกันและปราบปราม
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งให้ฝ่ายสืบสวนเร่งรัดหาข่าวติดตาม ส่วนสถานีตำรวจจะต้องการตั้งด่านตรวจ เป็นการตรวจแบบใยแมงมุมเพื่อให้สามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ แม้ขณะนี้ทางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอยู่จำนวนน้อยเนื่องจากจะต้องนำไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนอื่น ก็ไม่ใช่ข้ออ้างเพราะเป็นหน้าที่ของตำรวจ ขอยืนยันว่าอาชญากรรมที่เกิดตำรวจจะต้องรู้ และกระตุ้นให้ตำรวจมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาในการป้องปรามเพื่อมาตรการการป้องกันมิให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อน ขณะนี้ได้มีการปรับให้นำสายตรวจมาช่วยตรวจ เช่น สายตรวจจราจรหรือสายตรวจรถยนต์ และจะเน้นหาข่าวของบุคคลที่คาดว่าจะมีพฤติกรรมในการก่ออาชญากรรมมาทำประวัติ เพื่อที่จะง่ายในการสืบสวน
