รักษาการ ผบก.ทล.เผย ได้ประสานกองปราบ คดี “เจ๊เพ็ญ” จาบจ้วงเบื้องสูง คาดสรุปสำนวนส่ง บช.ก.พิจารณาก่อนสิ้นเดือนนี้ จากนั้นส่งต่อให้ “วงกต” ลงความเห็นต่อไป ยัน ไม่เลือกปฏิบัติกับผู้ถูกกล่าวหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกับใครเป็นพิเศษ
วันนี้ (16 ก.ค.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.สมยศ พรหมนิ่ม รักษาการผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว (รรท.ผบก.ทล.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดี นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่า ขณะนี้ได้ประสานและสอบถามความคืบหน้ากับทางพนักงานสอบสวน กองปราบปรามอยู่ในระหว่างการสรุปสำนวน คาดว่า จะสามารถสรุปสำนวนได้ก่อนสิ้นเดือนนี้ หลังจากนั้น จะทำการส่งสำนวนไปยังคณะกรรมการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กลั่นกรองอีกครั้ง ก่อนจะนำเสนอผู้บังคับบัญชาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มี พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายกฎหมายลงความเห็นคดีตามขั้นตอน ซึ่งความเห็นจะเป็นอย่างไรนั้นจะต้องให้ทางคณะกรรมการกลั่นกรองอีกชั้นหนึ่ง
“อยากฝากไปยังประชาชนและสื่อมวลชนให้เชื่อมั่นในความยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่หรือผู้มีอำนาจในบ้านเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยวหรือมากดดันเรื่องคดี” พ.ต.อ.สมยศ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีทั่วไปเมื่อพนักงานสอบสวนสามารถสรุปคดีได้แล้วตามขั้นตอนก็สามารถส่งให้อัยการได้เลยไม่ต้องผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองระดับ กองบัญชาการสอบสวนกลางและ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่คดี นายจักรภพ ทำไมถึงต้องมีการตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองหลายขั้นตอน พ.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เนื่องจากทาง สตช.ได้มีคำสั่งที่ 330/2550 กรณีที่มีการหมิ่นเบื้องสูงตามมาตรา112 ไม่ว่าจะผู้ใดที่ถูกดำเนินคดีตามมาตราดังกล่าวจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและกลั่นกรองเช่นเดียวกับนายจักรภพ
