xs
xsm
sm
md
lg

7 นักเรียนหญิงเก็บกระเป๋าเงิน 21,020 บาทคืนเจ้าของ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

กลุ่มนักเรียนหญิงมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเจ้าพระยาวิทยาคม 7 คน ขึ้นรถแท็กซี่พบกระเป๋าบรรจุเงินสดกว่า 2 หมื่นบาท ภายในไม่พบเอกสารระบุตัวเจ้าของ นำเรื่องเข้าปรึกษาอาจารย์ ประสานงานผ่านวิทยุ FM 91 กระทั่งพบตัวเจ้าของเงิน ซึ่งมีการแจ้งเรื่องไว้ที่สถานีฯ ตั้งแต่ 2 กรกฎาคม

วันนี้ (9 ก.ค.) นางสาวไจตนย์ ศรีวังพล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิไลเซ็นเตอร์ แอนด์ ซันส์ จำกัด ผู้ร่วมดำเนินงาน สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM 91 Traffic Pro คลื่นเพื่อข่าวสารความปลอดภัยและจราจร กองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 14.00 น.วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม 2551 ทางสถานีฯ ได้รับโทรสาร (แฟกซ์) บันทึกข้อความ ซึ่งมีหัวกระดาษ เป็นส่วนราชการ ตราครุฑ ระบุสังกัดโรงเรียนเจ้าพระยาวิทยาคม ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2551 เรื่องนักเรียนเก็บกระเป๋าสตางค์ได้ ในบันทึกข้อความ ส่วนราชการดังกล่าว มีใจความว่า ด้วยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 จำนวน 7 คน ประกอบด้วย (1.เด็กหญิงกุลยา ณรัมย์ รหัส 20765 (2.เด็กหญิงจิตรลดา จิตรภัคดี รหัส 20766 (3.เด็กหญิงวรัญรัตน์ กลิ่นแก้ว รหัส 20775 (4.เด็กหญิงสุธิดา ฮวดหุ่น รหัส 20779 (5.นางสาวสุภัตรา บรรณกิจ รหัส 20780 (6.เด็กหญิงไอรดา วรนาม รหัส 20783 และ (7.เด็กหญิงรังษิยา สุขสังวร รหัส 20773 ได้โดยสารรถแท็กซี่จากหน้าโรงเรียนเจ้าพระยาวิทยาคม เพื่อไปลงที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พระราม 3 แต่ขณะที่ขึ้นรถได้เหลือบไปเห็นกระเป๋าสตางค์ตกอยู่ที่เบาะหน้ารถ เด็กหญิงสุธิดา ฮวดหุ่น จึงเก็บเอาไว้

ต่อมา นักเรียนทั้ง 7 คนได้ปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรดี เพราะในกระเป๋าสตางค์มีเงินสดจำนวน 21,020 บาท (สองหมื่นหนึ่งพันยี่สิบบาทถ้วน) จากนั้นได้โทรศัพท์กลับมาหา นางอัญชลี ป้านทอง ครูของนักเรียนทั้ง 7 คน และได้รับคำแนะนำให้นำกระเป๋ากลับมาที่โรงเรียน เพื่อเก็บรักษาไว้ จากนั้นนางอัญชลี ได้แจ้งข่าวมายังสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM 91 เพื่อประชาสัมพันธ์ ติดตามหาเจ้าของ

ภายหลังจากได้รับบันทึกข้อความ ทางสถานีฯ ได้ประสานงานกลับไป และได้พูดคุยกับเด็กหญิงสุธิดา ฮวดหุ่น ซึ่งเป็น 1 ใน 7 นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนเจ้าพระยาวิทยาคม ที่เก็บกระเป๋าสตางค์ พร้อมเงินสด 21,020 บาท ได้บนรถแท็กซี่

เด็กหญิงสุธิดา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2551 หลังเลิกเรียนพร้อมเพื่อน รวม 7 คน เรียกใช้บริการรถแท็กซี่ สีชมพู จำทะเบียนรถไม่ได้ จากบริเวณหน้าโรงเรียนเจ้าพระยาวิทยาคม ไปห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พระราม 3 เพื่อไปเลือกซื้อของเพื่อเป็นของขวัญสำหรับเด็กหญิงกุลยา ณรัมย์ เพื่อนในกลุ่มที่จะมีอายุครบ 15 ปี ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2551 ระหว่างที่ก้าวขึ้นไปนั่งเบาะด้านหน้าข้างคนขับพร้อมเพื่อนอีกคน ได้พบกระเป๋าสตางค์สีน้ำตาล สภาพเก่า 1 ใบตกอยู่บริเวณล่องข้างเบาะนั่งจึงเก็บใส่กระเป๋า และเมื่อลงจากรถแท็กซี่ ตนพร้อมด้วยเพื่อนๆ ได้เปิดกระเป๋าสตางค์ใบดังกล่าวดู พบว่ามีเงินสด 21,020 บาท พร้อมด้วยนามบัตรอีกจำนวนเกือบ 50 ใบ โดยนามบัตรแต่ละใบมีชื่อไม่ตรงกัน ตอนนั้นไม่ทราบว่าเจ้าของกระเป๋าและเงินสดทั้งหมดเป็นใคร ตนพร้อมเพื่อนๆ ได้ปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรดี โดยทุกคนมีความเห็นตรงกันว่าควรโทรศัพท์ไปปรึกษา อาจารย์อัญชลี ป้านทอง ครูสอนภาษาไทย ซึ่งเป็นอาจารย์ที่สนิทและสามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง จากนั้นอาจารย์ครูอัญชลีได้แนะนำให้ตนและเพื่อนนำกระเป๋าพร้อมเงินสดกลับมาฝากไว้อาจารย์ และประชาสัมพันธ์ข่าวดังกล่าวไปยังสถานีวิทยุฯ

“เราทุกคนไม่คิดที่จะแบ่งเงิน หรืออยากได้เงินจำนวนดังกล่าว เราอยากให้เจ้าของเงินได้เงินคืนเร็วๆ เพราะคิดว่าเขาต้องเดือดร้อน ตั้งแต่วันที่เก็บเงินได้ เวลาพักรับประทานอาหารกลางวัน และเลิกเรียน อาจารย์อัญชลีจะบอกกับพวกเราทุกวันว่ายังไม่ได้รับการประสานงานจากเจ้าของเงิน” เด็กหญิงสุธิดา กล่าว

ระหว่างที่มีการประชาสัมพันธ์ข้อความเหตุการณ์เด็กนักเรียนหญิง 7 คน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเจ้าพระยาวิทยาคม เก็บกระเป๋าสตางค์พร้อมเงินสดกว่า 2 หมื่นได้บนรถแท็กซี่ ผ่านทางสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM 91 อยู่นั้น เด็กนักเรียนหญิงที่เก็บกระเป๋าสตางค์ได้ระบุว่าผู้ขับขี่รถแท็กซี่คันดังกล่าวอายุประมาณ 40-45 ปี ไว้ผมยาวประบ่า จากนั้นนายวีระยุทธ์ ยิ่งยวด ซึ่งทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการได้พบข้อมูลการแจ้งข้อความของนายลำใย ยอดหวาย อายุ 64 ปี ที่อยู่ 643 หมู่ 5 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งแจ้งผ่านทางหมายเลข 1644 “โทร.ฟรี” ไว้ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่าใช้บริการรถแท็กซี่ สีส้ม จำรายละเอียดหมายเลขทะเบียนรถไม่ได้ จากซอยลาซาล สุขุมวิท ไปลงที่วัดพิชัย ใกล้โรงรับจำนำ แล้วทำกระเป๋าสตางค์พร้อมเงินสดประมาณ 21,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่เตรียมไปซื้อเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้าที่หลุดจำนำให้บุตรสาว หล่นอยู่บนรถคันดังกล่าว โดยลักษณะรูปพรรณ ของผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่คุณลำใยใช้บริการตรงกับรถแท็กซี่ที่เด็กนักเรียนหญิงทั้ง 7 คน ใช้บริการ

นางอัญชลี ป้านทอง อาจารย์สอนภาษาไทย โรงเรียนเจ้าพระยาวิทยาคม อดีตอาจารย์ที่ปรึกษา เด็กนักเรียนสาว ทั้ง 7 คน กล่าวว่า หลังจากที่ทราบรายละเอียดจากเด็กนักเรียนหญิง ทั้ง 7 คน ตนได้ทำรายงานบันทึกข้อความส่งถึง ดร.บุญธรรม พิมพาภรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ เพื่อแจ้งให้ทราบ พร้อมกับประสานงานไปยังสถานีแห่งหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับจากเจ้าของเงินสด กระทั่งวันนี้ (7 ก.ค.) ได้รับคำแนะนำให้ส่งโทรสาร (แฟกซ์) เข้ามาที่หมายเลข 0-2579-0459 จากนั้นเจ้าหน้าที่สถานีวิทยุ สวพ.FM 91 ได้ประสานงานกลับมายังโรงเรียนฯ พร้อมกับขอพูดคุยกับเด็กหญิงสุธิดา ฮวดหุ่น ซึ่งเป็น 1 ใน 7 นักเรียนหญิงที่เก็บกระเป๋าสตางค์และเงินสดได้ กระทั่งนายลำใย ยอดหวาย เดินทางมาขอรับกระเป๋าคืนจากตน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา

“เนื่องจากกระเป๋าสตางค์ใบดังกล่าวบรรจุเงินสด 21,020 บาท ไม่มีเอกสารระบุชื่อเจ้าของที่ชัดเจน มีเพียงนามบัตรจำนวนกว่า 50 ใบในกระเป๋า ซึ่งนามบัตรแต่ละใบมีชื่อ-สกุล สถานที่ทำงานไม่ตรงกันเลย ระหว่างที่นายลำใยมาติดต่อขอรับกระเป๋าคืนที่โรงเรียนนั้นได้ให้นายลำใยบอกชื่อบุคคลในนามบัตรบางส่วนหนึ่งเท่าที่จำได้ ซึ่งนายลำใยสามารถระบุชื่อทนายความ, เจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสอง เพื่อน และนามบัตรผู้ใหญ่บ้านได้ถูกต้อง ประกอบกับนายลำใย มีการแจ้งข้อความกระเป๋าหล่นหายไว้กับทางสถานีวิทยุ สวพ.FM 91 ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เวลาที่กระเป๋าสตางค์หล่นหาย และรูปพรรณคนขับขี่รถแท็กซี่ ตรงกับที่เด็กนักเรียน ทั้ง 7 คนระบุ จึงเชื่อได้ว่ากระเป๋าสตางค์ และเงินสดจำนวน 21,020 บาท เป็นของนายลำใย ยอดหวาย จริง คณะอาจารย์โรงเรียนเจ้าพระยาวิทยาคม พร้อมนักเรียนได้ส่งมอบกระเป๋าสตางค์และเงินสดคืนให้กับเจ้าของเป็นที่เรียบร้อย

“สำหรับเด็กนักเรียนหญิง ทั้ง 7 คน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 ที่เก็บกระเป๋าพร้อมเงินสดได้นำมาฝากไว้ที่ตน ต่างก็รู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่เห็นคุณลำใย ยอดหวาย ได้เงินคืน โดยเฉพาะหลังจากที่เด็กๆ ทราบว่าเงินจำนวนดังกล่าว คุณลำใยกำลังจะนำไปซื้อเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้าให้ลูกสาวเพื่อใช้ในการเรียน ทำให้เด็กๆ น้ำตาซึม” นางอัญชลี กล่าว
โรงเรียนทำการมอบกระเป๋าเงินคืนเจ้าของ
7 นักเรียนหญิงที่ร่วมกันทำความดี
กำลังโหลดความคิดเห็น