ศาลสั่งจำคุก “อดีตนักมวยคาดเชือก” พลเมืองดี หลังช่วยแม่ค้าพระเครื่อง จากคนเก็บขยะกำลังข่มขืน แต่พลาดเตะจนตาย พิพากษาจำคุก 3 ปี สารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือ 1 ปี 6 เดือน แม่ค้าพระเครื่องโดนด้วยฐานร่วมฆ่าผู้อื่นจำคุก 1 ปี 1 เดือน
วันนี้ (9 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี ที่ 714 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาความผิดต่อชีวิตในคดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นส.อรุณี ทองพรม และนายอัศวิน วงค์วิทยา เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น พาอาวุธ ไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยโดยไม่มีเหตุอันควร
จากกรณี เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 29 ส.ค.2548 นายอัศวิน 'อดีตนักมวยคาดเชือก” ได้เข้าให้การช่วยเหลือ น.ส.อรุณี อดีตแม่ค้าขายพระเครื่อง ย่านสนามหลวง ถูกนายยะ ไม่ทราบนามสกุล อาชีพ เก็บขยะขาย ที่อยู่ในอาการเมาเหล้าสุราได้พยายามเข้ามาปลุกปล้ำข่มขืน แต่ น.ส.อรุณี จึงตะโกนร้องให้คนช่วยและรีบวิ่งหนีมาขอความช่วยเหลือจากนายอัศวิน ที่ขายเชือกสายร่ม สำหรับแขวนพระมีแผงตั้งขายอยู่ใกล้เคียงกันและเล่าเรื่องให้ฟัง นายอัศวินจึงวิ่งเข้าไปเตะผู้ตายหลายทีจนล้มฟุบลง จากนั้น น.ส.อรุณีเป็นผู้หยิบมีดคัตเตอร์ที่วางอยู่บนโต๊ะขายของกรีดที่หน้าใบหน้าของนายยะไปหลายทีจนเลือดไหลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า น.ส.อรุณี จำเลยที่ 1 รู้จักกับผู้ตายมาเป็นเวลานาน และเหตุที่ทำลง เพราะถูกทำร้ายร่างกายและถูกล่วงละเมิดทางเพศ เห็นว่าเป็นการบันดาลโทสะ พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ลงโทษจำคุก 2 ปี ความผิดฐาน พาอาวุธ ไปในเมืองหรือ ทางสาธารณะโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุอันควร ปรับ 100 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลย 1 ปี 1 เดือน ปรับ 50 บาท ส่วนจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นให้ถึงแก่ความตาย ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 1 ปี 6 เดือน ส่วนคำขออื่นให้ยก