ตำรวจแจงคดีหมิ่นเบื้องสูงของแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง “สมเกียรติ-สนธิ-จำลอง” ที่ถูกกล่าวหาต้องรวบรวมพยานหลักฐานแล้วนำเข้าสู่คณะกรรมการพิจารณาคดีก่อนว่าเข้าข่ายหรือไม่ ส่วนคดีของ “เจ๊เพ็ญ” อยู่ระหว่างตรวจพยานหลักฐาน คาดจะแล้วเสร็จสัปดาห์หน้า เผยพร้อมรับมือทัพพันธมิตรฯ ที่จะบุก สตช.วันจันทร์นี้
วันนี้ (4 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. รองโฆษกประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าของการดำเนินการกรณีนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคพลังประชาชน นำหลักฐานซีดีบันทึกภาพและเสียงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ให้ดำเนินคคีต่อนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.แบบสัดส่วนพรรคประชาธิปปัตย์ และเป็นหนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ในข้อหาหมิ่นประมาท ตามมาตรา 112 กรณีใช้ถ้อยคำจาบจ้วงเบื้องสูง โดยระบุว่าอาจารย์โรงเรียนราชวินิตเป็นพวกเขมร และโรงเรียนราชวินิตเป็นของสมเด็จฯ ฮุนเซน ว่า กรณีดังกล่าวนี้เบื้องต้นเมื่อมีคนมาร้องทุกข์กล่าวโทษ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีก็ต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นก่อน หากพบว่ามีมูลความผิดก็นำเข้าคณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่นพระบรมราชานุภาพของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่โดยตรง
สำหรับการจะเรียกผู้ถูกล่าวหามาชี้แจงหรือไม่นั้น พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า พนักงานสอบสวนก็ต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานระดับหนึ่งก่อน ดูว่าเข้าข่ายกรณีความผิดฐานหมิ่นตามมาตรา 112 หรือไม่ หากเข้าข่ายก็ตรวจสอบต่อว่าใครเป็นคนหมิ่นจึงจะทำการเรียกมาชี้แจงข้อกล่าวหา นำข้อเท็จจริงมาหักล้าง แต่หากออกหมายเรียกแล้วไม่มาก็จะดำเนินการเสนอศาลออกหมายจับต่อไป ซึ่งคาดว่าน่าจะเร็วๆ นี้ พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จ ก่อนนำเข้าคณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่นพระบรมราชานุภาพของกองบัญชาการตำรวจนครบาลต่อไป
ส่วนกรณีที่มีแกนนำพิราบขาวเดินทางเข้าแจ้งความที่กองปราบฯ ให้ดำเนินคดีต่อนายสนธิ ลิ้มทองกุล กับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ที่กล่าวบนเวทีจาบจ้วงเบื้องสูง กรณีปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.ในข้อหาหมิ่นตามมาตรา 112 โดยนำหลักฐานเป็นซีดีบันทึกภาพและเสียงให้เข้าตรวจสอบนั้น พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า ในกรณีของกองปราบปรามนั้นก็เช่นกัน ซึ่งก็ต้องมีการตรวจสอบพยานหลักฐานก่อน ก่อนนำเข้าคณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่นพระบรมราชานุภาพของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง คล้ายกับกรณีของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐานที่นำมาให้เมื่อวานนี้อยู่ คาดว่าสำนวนจากพนักงานสอบสวนน่าจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวอีกว่า สำกรับกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะเดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อเร่งรัดการดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่ม นปก.ในวันจันทร์นั้น ก็ได้มีการเตรียมกำลัง บช.น.ก็ใช้แผนและกำลังของ บก.น.6 ดูแล ส่วนพื้นที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีสันติบาลดูแล ส่วนจะมีการปิดถนนหรือไม่นั้นต้องประเมินกลุ่มผู้ชุมนุมอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ แต่คาดว่าคงไม่มากไปกว่าที่ไปกระทรวงการต่างประเทศ หรือ กกต. สำหรับคดีแกนนำ นปก.คงไม่มีอะไรแล้วเพราะขั้นตอนอยู่ที่อัยการสูงสุด แต่น่าจะป็นการมาหารือเรื่องการปิดถนนตามคำสั่งศาลแพ่งที่ตีความไม่ตรงกัน ซึ่งหากจะมาพบก็ยินดีที่จะมาพบและพบกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยตนเอง
