จับโจรขโมยของบ้าน “วินัย ทองสอง”

กองปราบตามรวบหนุ่มปทุมฯ ตระเวนลักทรัพย์ตามหมู่บ้านกว่า 100 ครั้ง ยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เจ้าตัวรับนำเงินไปเล่นพนัน เผย พล.ต.ต.วินัย หลานเขยแม้วยังโดนล้วงคอ

วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิชิต ปักษา ผกก.ฝป.2 บก.ป. แถลงข่าวจับกุม นายไพศาล ไทรแก้ว อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/60 หมู่ 3 หมู่บ้านทรัพย์ธานี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมของกลาง รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า โคโรลล่า สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ศข-4628 กทม.และป้ายทะเบียนปลอมหมายเลข ศข-4949 กทม. และหมายเลข ศข-7797 กทม. คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ทองรูปพรรณ พระเครื่อง กล้องถ่ายรูปดิจิตอล โทรทัศน์สีจอยักษ์ อาวุธปืน รวม 46 รายการ มูลค่า 3 ล้านกว่าบาท โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 101/60 หมู่ 3 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

พ.ต.อ.ประยนต์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของบ้านพักตามหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่งในพื้นที่ อ.ธัญบุรี อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ฝป.2 บก.ป.ว่า มีคนร้ายได้เข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินภายในบ้านพักเป็นจำนวนมาก ต่อมาชุดสืบสวน ฝป.2 บก.ป.ได้ลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามคนร้าย กระทั่งพบข้อมูลเป็นที่แน่ชัดว่าผู้ต้องหาซึ่งเคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์และคดีต่างๆ มาถึง 6 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 1587/2550 ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2550 ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น ศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 1511/2546 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2546 ข้อหาทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาล ศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 68/2546 ลงวันที่ 24 มกราคม 2546 ข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 378/2545 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2545 ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานเวลากลางคืน
จากนั้นจึงขออนุมัติหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี เข้าตรวจค้นบ้านพักและจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด

สอบสวน นายไพศาลรับสารภาพว่าได้เข้าไปลักทรัพย์ในหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่งในพื้นที่ จ.นครนายก และในบริเวณใกล้เคียง โดยลงมือก่อเหตุเพียงลำพังอาศัยวิธีการปลอมบัตรประชาชนใช้แลกกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านต่างๆ ก่อนเข้าไปขโมยทรัพย์สินตามบ้านพักต่างๆ กว่า 100 ครั้ง ซึ่งทรัพย์สินที่ได้มาบางส่วนก็จะนำไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่า บางส่วนก็จะให้นายอนุชา ไม่ทราบนามสกุล น้องภรรยา นำไปขายที่ตลาดปฐวิกรณ์ ย่านมีนบุรี รวมทั้งนำทรัพย์สินไปจำนำที่ย่านคลองเตย กม.8 และ บางกะปิ โดยนำเงิน ไปใช้จ่ายและเล่นการพนัน ตำรวจจึงควบคุมตัวส่ง สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนึ่งในบ้านที่ผู้ต้องหาลงมือก่อเหตุ เป็นบ้านพักของ พล.ต.ต.วินัย ทองสอง รอง ผบช.ส. อดีต ผบก.ป. และเป็นหลานเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ กลุ่มผู้เสียหายหลาย 10 ราย ได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบทรัพย์สินของตนเอง พร้อมกับชี้ตัวยืนยัน ซึ่งบางรายไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาลงมือเพียงคนเดียวเนื่องจากก่อเหตุมาหลายครั้งและทุกครั้งก็จะรอดพ้นการจับกุมได้ตลอด