ผบ.ตร.สั่งตำรวจอารักขา “หมัก” เข้าทำเนียบพรุ่งนี้

ผบ.ตร.สั่งตำรวจอารักขาเข้ม สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เข้าทำเนียบรัฐบาลพรุ่งนี้ เชื่อไม่มีเหตุการณ์วุ่นวาย เนื่องจากแกนนำพันธมิตรฯ ยันไม่บุกทำเนียบ แต่หากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รอง ผบ.ตร พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.และนายตำรวจระดับผู้บังคับการ-รองผู้บังคับการ ประชุมสรุปสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล และประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยและอำนวยการจราจร เพื่อกำหนดแนวทางการปฎิบัติและทบทวนแผนการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สอดคล้องกับสถานการณ์โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวถึงกรณีการอำนวยความสะดวกให้กับ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่จะเข้าไปทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 23 มิถุนายน ว่า นายกฯคงมาทำงานตามปกติที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตนได้มอบหมายให้ ผบ.เหตุการณ์ (พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต) ประชุมวางแผนอยู่ ส่วนที่มีการปราศรัยและตะโกนพูดจาหยาบคายได้ถ่ายภาพเหตุการณ์ไว้ดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายแล้ว ในสัปดาห์นี้จะมีการเปิดประชุมสภา ทางตำรวจก็เตรียมรับมือการเคลื่อนขบวนไปที่หน้ารัฐสภาของกลุ่มพันธมิตรฯแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจเน้นหนักเรื่องการดูแลความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก และมีการวางแผนอีกอย่าง คือ การเข้าทำเนียบ เราคิดว่าจะใช้มาตรการเด็ดขาด และกำลังต้องพอเพียงเพื่อรับมือการบุกเข้าทำเนียบ ซึ่งเราไม่ยอมแน่

“ถ้าบุกเข้าทำเนียบต้องใช้มาตรการเด็ดขาดไม่มีการเจรจาแล้ว เข้าทำเนียบไม่เจรจา ตอนนี้กำลังวางแผนอยู่ เป็นมาตรการทางกฎหมาย ผู้ชุมนุมต้องเข้าใจว่าเข้าทำเนียบมันผิดกฎหมาย และผู้นำการชุมนุมต้องรับผิดชอบ” ผบ.ตร.กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก.ในฐานะ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า ตำรวจได้ประเมินสถานการณ์ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ยอดสูงสุดประมาณ 13,000 คน และกลุ่มต่อต้านที่สนามหลวงประมาณ 1,500 คน ไม่มีกลุ่มรถจักรยานยนต์ ไม่มีเหตุปะทะหรือก่อกวนระหว่างกันแต่อย่างใด โดย บช.น.ได้ย้ายศูนย์ สปก.สน.ที่อยู่หัวมุมด้านกระทรวงศึกษาธิการ มาอยู่ที่บริเวณทางเข้าทำเนียบรัฐบาลริมคลองกรุงผดุงกรุงเกษม ร่วมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทำเนียบ โดยใช้ชื่อว่า กอ.รปภ.ทำเนียบรัฐบาล เพื่อดูและรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการเคลื่อนขบวนของกลุ่มพันธมิตร ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจจำนวน 4 ราย ออกจากโรงพยาบาลแล้ว 2 ราย คือ ส.ต.ต.คมสัน ศรีดำ สังกัด สน.บางนา และ จ.ส.ต.ศราวุฒิ เลิศพรมาดุลี สังกัด สน.ลุมพินี ส่วน ส.ต.ต.หญิง พรพิรุณ โตวังจร สังกัด ตชด.และ ส.ต.ต.หญิง พจนา แก้วเกตุสี สังกัด ตชด. ยังต้องนอนพักรักษาตัวอยู่

พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า เนื่องจากในคืนวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯและผู้ที่ขึ้นปราศรัยบนเวที ได้ประกาศข้อความที่สอดคล้องกันว่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 3-7 วัน และทุกอย่างจะจบสิ้น ซึ่งประเด็นดังกล่าว ทางตำรวจได้วิเคราะห์แล้วพิจารณาได้สองประเด็น ประเด็นแรก มองในแง่ดี คือ อาจเป็นการประกาศชัยชนะของกลุ่มพันธมิตรฯที่ได้เดินทางมาปักหลักยังทำเนียบรัฐบาลได้สำเร็จ และสามารถกดดันจนหลายเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมของวุฒิสภาแล้ว ประเด็นที่สอง อาจเกิดเหตุรุนแรงขึ้นจนนำไปสู่วิกฤตในการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง เปลี่ยนวิธีการได้มาซึ่ง ส.ส.ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน เป็นการเปลี่ยนแปลงตามที่แกนนำได้ปราศรัยไว้ โดยเหตุการณ์อาจเริ่มขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาลซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์กลางการบริหารราชการประเทศ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมจัดการชุมนุมบนถนนพิษณุโลกด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการบุกรุกหรือสร้างสถานการณ์ใดๆ จากกลุ่มต่างๆ จึงมีความจำเป็นต้องส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ปจ.ใช้อัตราการจัดอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนครบถ้วนเต็มอัตราอนุญาต เข้าไปประจำการณ์ในทำเนียบรัฐบาล และพื้นที่เปราะบางอาทิ ประตูทางเข้าทั้ง 9 ประตู พร้อมจัดอุปกรณ์ป้องกันพิเศษ เช่น แนวกั้น ลวดหีบเพลง เพื่อป้องกันผู้ชุมนุมบุกรุกเข้ามา

พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า นอกจากนี้ ตำรวจจะต้องอำนวยความสะดวกให้นายกรัฐมนตรี เข้าทำงานในทำเนียบรัฐบาลและกลับบ้านด้วยความปลอดภัย โดยกำลังประชุมหาวิธีว่าจะทำอย่างไร บริเวณท้องถนนที่ผู้ชุมนุมฝ่าด่านตำรวจเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ตำรวจยอมได้ แต่ถ้าบุกเข้าทำเนียบรัฐบาลเป็นความผิดชัดเจนต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ต้องบังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้องตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด การบุกเข้าทำเนียบคือการบุกรุก ปล่อยให้ฝ่าฝืนเข้ามาไม่ได้ แกนนำพันธมิตรเคยพูดหลายครั้งว่าจะไม่บุกเข้าทำเนียบ อาจเป็นบุคคลที่สามซึ่งไม่ทราบจุดประสงค์แฝงตัวมาก่อเหตุ ตำรวจก็จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษควบคุมฝูงชน

“ขณะนี้มีการนำถุงดำมาปิดกล้องวงจรปิดซีซีทีวีของกรุงเทพมหานครที่ติดตั้งบริเวณต่างๆ ใกล้ที่ชุมนุมพันธมิตรฯและทำเนียบรัฐบาล แสดงเจตนาไม่ดีไม่ต้องการให้เห็นการกระทำไม่ดีแน่ ถ้าเจตนาดีคงไม่ปิดกล้อง ตอนนี้กำลังตรวจสอบและแจ้ง กทม.ให้ดำเนินการเปิดถุงที่ครอบกล้องวงจรปิด เพื่อให้เป็นหูเป็นตาแล้ว” รองโฆษก ตร.กล่าวและว่า ผบ.ตร.ให้ใช้แผนเด็ดขาดทำทุกอย่างให้นายกรัฐมนตรีเข้าไปทำงานในทำเนียบให้ได้ แม้จะใช้ความเข้มแข็งแต่ก็ต้องละมุนละม่อม เป็นขั้นเป็นตอน ทางตำรวจอาจจะขอร้องผู้ชุมนุมก่อน เพราะที่ผ่านมาเคยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรฯหลายครั้ง