xs
xsm
sm
md
lg

ตร.พูดชัดพันธมิตรฯ ยึดทำเนียบยืดเยื้อ ฝ่ายการเมืองต้องแก้ปัญหา

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตร.แถลงภาพรวมพันธมิตรฯ เคลื่อนพลยึดทำเนียบ ระบุ ถือเป็นชัยชนะของสังคม ที่ตำรวจ และประชาชนไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง ขณะที่ “พัชรวาท” พอใจที่ตำรวจได้ทำตามคำมั่นที่ให้ไว้ว่าตำรวจจะไม่ทำร้ายประชาชน ไม่เอาเหตุผลทางการเมืองมาเกี่ยวพันกับเหตุผลในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ พร้อมสั่งดูแลการชุมนุมหน้าทำเนียบต่อไป

วันนี้ (20 มิ.ย.) เวลา 15.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก.และรองโฆษก ตร.แถลงสรุปการเคลื่อนขบวนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไปยังทำเนียบรัฐบาลว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเบื้องต้นที่ได้ประเมินมีจำนวน 25,000 คน สามารถฝ่าแนวสกัดกั้นของตำรวจผ่านไปได้ ขณะนี้เหลือเพียงจุดสกัดกั้นที่สะพานมัฆวานฯ เพียงจุดเดียว โดยตำรวจกำลังเจรจาให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้เส้นทางอื่น สำหรับจุดแรกกลุ่มผู้ชุมนุมผ่านไปได้เมื่อเวลา 12.30 น.ผ่านคลองผดุงกรุงเกษม ผ่านวัดโสมฯ เข้ามาสี่แยกนางเลิ้ง ขณะที่กำลังอีกส่วนหนึ่งตามมาสมทบ

ต่อมาเวลา 13.30 น.กลุ่มผู้ชุมนุมอีกกลุ่มเข้ามาทางถนนครปฐม โดยเข้ามาจากแยกวัดเบญฯ ฝ่าด่านเข้ามาจนทะลุสำนักงาน ก.พ. ขณะที่อีกจุดบริเวณแยกมิสกวัน ที่มี นายสมศักดิ์ โกศัยสุข เป็นแกนนำได้พยายามเข้ามาตรงบริเวณแยกมิสกวัน แต่ถูกเจ้าหน้าที่กดดันจนถอยร่น ส่วนกลุ่มที่เหลือพยายามกระจายเข้ามาตามช่องทางต่างๆ จนล่าสุดทั้งหมดเข้ามารวมตัวที่บริเวณถนนพิษณุโลก ข้างทำเนียบรัฐบาล ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณสะพานมัฆวานที่มีนายสุริยะใส กะตะศิลา เป็นแกนนำ คาดว่าจะอ้อมมาสมทบ

พล.ต.ต.สุรพล กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากภาพเหตุการณ์จะเห็นได้ว่า ทั้งตำรวจและผู้ชุมนุมไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง อย่างกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมที่แยกนางเลิ้ง เมื่อมาถึงก็ได้นั่งลงรอดูเหตุการณ์และเมื่อเห็นว่าตำรวจไม่ใช้ความรุนแรง กลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ใช้ความรุนแรงด้วย ทำให้เหตุการณ์ต่างๆ ไม่ลุกลามบานปลาย และผ่านไปด้วยดี ซึ่งพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. รู้สึกพอใจการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในวันนี้ เนื่องจากตำรวจได้ทำตามคำมั่นที่ให้ไว้ว่าตำรวจจะไม่ทำร้ายประชาชน เรายืนยันว่าสามารถนำความคิดและนโยบาย ส่งผ่านถึงกำลังพลทุกระดับ และทำให้ตำรวจของเราเป็นของประชาชนได้ โดยไม่เอาเหตุผลทางการเมืองมาเกี่ยวพันกับเหตุผลในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ

พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า การไม่เกิดเหตุรุนแรงขึ้นในบ้านเมือง ถือเป็นชัยชนะของสังคมที่จะสามารถสร้างความประนีประนอมระหว่างกันได้ ขณะที่คนเรือนหมื่นผ่านแนวสกัดกั้นมา แต่กลับไม่มีการปะทะกันอย่างรุนแรง ขณะเดียวกัน ตำรวจยืนหยัดทำตามหน้าที่ ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาในกรอบที่จะไม่ใช้กำลังที่จะปราบปรามและสลายการชุมนุม ซึ่งหากเราใช้ความรุนแรงตอบโต้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ไม่มีอาวุธ แทนที่จะสามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จด้วยดีในทางการเมือง กลับจะเป็นการสร้างปัญหาทำให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรง ซึ่งอาจจะเปิดช่องให้มือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ได้

"ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องแพ้เรื่องชนะ การที่เราไม่มีชื่อในประวัติศาสตร์ที่ด่างพร้อย เช่นเหตการณ์ 6 ตุลา 14 ตุลา หรือพฤษภาทมิฬ ถือเป็นเรื่องดี เพราะเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าชื่นชมสำหรับสังคมไทย ตำรวจเองก็ยืนยันมาโดยตลอดว่าว่าจะไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ปัญหาทางการเมืองต้องแก้ด้วยวิธถีทางการเมือง หากแก้ไขด้วยวิธีรุนแรงก็จะได้รับความรุนแรงกลับมา รวมถึงปัญหาอื่นๆจะตามมาอีกมากมายด้วย การใช้กำลังแก้ปัญหา มันจะไม่จบ วันนี้เราสามารถปราบปรามการชุมนุมได้ พรุ่งนี้ผู้ชุมนุมก็กลับมาใหม่และอาจจะมากกว่าเดิม"รองโฆษกตรกล่าว

รองโฆษก ตร.กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย จากการกระทบกระทั่งกันที่บริเวณถ.นครปฐมตัดพิษณุโลกและเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ ประกอบด้วย สิบตำรวจตรีหญิงพรพิรุณ โตวังจร สิบตำรวจตรีหญิงพจนา แก้วเกตุศรี ซึ่งทั้ง 2 เป็น ตชด.ได้รับบาดเจ็บแขนหัก สิบตำรวจตรีคมสัน ศรีคำ ตำรวจ สน.บางนา ได้รับบาดเจ็บเล็บหลุดและ สิบตำรวจตรีศราวุธ เลิศธร ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รับบาดเจ็บที่นิ้วมือ ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.ได้ไปเยี่ยมให้กำลังใจ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นการฝ่าด่านและใช้มือดัน ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุผลที่ตำรวจไม่ยอมให้กลุ่มผู้ชุมนุมผ่านจุดสกัดที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการตกลงตั้งแต่แรกแล้วว่าจะไม่ให้มีการผ่านจุดดังกล่าว ซึ่งขณะที่เวลานี้จุดอื่นสามารถเดินทางไปยังทำเนียบได้แล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้เส้นทางนี้

เมื่อถามว่า หากคืนนี้มีการชุมนุมยืดเยื้อจะมีการปรับแผนดูแลอย่างไร พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า จากการดูท่าทีการชุมนุม ต่างฝ่ายต่างไม่ต้องการให้การเกิดความรุนแรงในสังคม ซึ่งหากจะมีการชุมนุมยืดเยื้อ อย่างไรก็ตาม คงเป็นเรื่องของการอภิปรายกันไป ฝ่ายการเมืองก็ต้องแก้ไขปัญหา เชื่อว่าสังคมมีความแตกต่างเรื่องความคิดได้ แต่สังคมก็ไม่แตกแยกซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่างชาติมองสังคมไทย ด้วยความมึนงง เหมือนกับที่เคยเป็นมา ซึ่งอาจเป็นรอยต่อสำคัญในการสมานฉันท์ของคนที่มีความคิดที่แตกต่างกันได้ เป็นการจุดประกายความหวังให้เกิดความสมานฉันท์ในสังคมไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ฝ่าแนวกั้นหรือไม่ พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ปรากฏว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ส่วนกรณีที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บก็ต้องดูเป็นกรณีไปว่าเป็นเรื่องของเจตนา หรือเป็นแค่ผลักดันและมีการล้ม ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดได้มีการบันทึกภาพไว้แล้ว หลังจากนี้ก็ต้องมาพิจารณาดูกันอีกครั้งว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายความผิด หรือมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีมากน้อยแค่ไหน อย่างไร

อย่างไรก็ตาม กรณีนี้เป็นการชุมนุมทางการเมืองซึ่งเป็นสิทธิที่รัฐธรรมนูญให้การรับรอง จึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่หากมีการแจ้งความดำเนินคดี พนักงานสอบสวนก็จะต้องรอบรวมพยานหลักฐานและพิจารณาว่าเข้าองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายมากน้อยแค่ไหน

สำหรับมาตรการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณทำเนียบ พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า ตำรวจไม่ประมาท ขณะนี้กำลังเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งอยู่ในกองทัพภาคที่ 1 เตรียมพร้อมที่จะออกมาดูแลพื้นที่รอบนอกทั้งหมด รวมถึงป้องกันการบุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการและรับมือกับกลุ่มมือที่ 3 ซึ่งขั้นตอนการปฏิบัติทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้










กำลังโหลดความคิดเห็น