xs
xsm
sm
md
lg

3 รุ่นพี่ “เทคนิคกรุงเทพ” รับน้องโหด รับทราบข้อกล่าวหา

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำสามรุ่นพี่เทคนิคกรุงเทพที่ก่อเหตุรับน้องโหด
คณบดีวิศวกรรมศาสตร์ “เทคนิคกรุงเทพ” พา 3 รุ่นพี่รับน้องโหด เข้ารับทราบข้อกล่าวหา เจ้าตัวรับใช้ไฟแช็กลนปากกระป๋องสีพ่นไฟใส่หลังรุ่นน้องจริง อ้างเป็นประเพณีที่ทำต่อกันมา ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลาย แต่รู้สึกเสียใจที่ทำให้น้องเจ็บ ด้านตำรวจเตรียมรวบรวมหลักฐานส่งอัยการสั่งฟ้อง

จากกรณีที่ นายรณรุจ คำแก้ว อายุ 48 ปี ได้พาตัว นายสุรเดช สุวรรณรัตน์ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพ เข้าแจ้งความที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ว่า ถูกรุ่นพี่ชั้นปีที่ 2 ใช้สีสเปรย์พ่นใส่ไฟแช็กจนเป็นลูกไฟ ใส่แผ่นหลังจนได้รับบาดเจ็บ ระหว่างงานรับน้องใหม่ภายในมหาวิทยาลัย เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (17 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น.ดร.สุกิจ นิตินัย คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพ ได้พาตัวรุ่นพี่ที่ก่อเหตุทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย 1.นายนพพร หรือ นพ เกิดศิริ อายุ 20 ปี 2.นายโอภาส หรือ โอม ทิมครองธรรม อายุ 20 ปี และ นายกีรติ หรือ ต้อม เริงอาจ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์อุตสาหการ เดินทางเข้ามอบตัวแก่ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.5 และ พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ จุนทการ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา

นายโอภาส หนึ่งในรุ่นพี่ที่ก่อเหตุ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนและเพื่อนๆ ได้จัดกิจกรรมรับน้องของคณะ ซึ่งเป็นวันที่ทางมหาวิทยาลัยจัดให้มีการจัดกิจกรรมรับน้องรวมทั้งหมดด้วย แต่ตนและเพื่อนได้พารุ่นน้องประมาณ 30 คนแอบขึ้นไปรับน้องที่อาคาร 14/1 บริเวณชั้น 2 โดยให้รุ่นน้องทำกิจกรรมและร้องเพลงของสถาบัน จากนั้นก็ได้ถามความสมัครใจว่ามีรุ่นน้องคนใดที่พร้อมจะทำกิจกรรมตามฐานที่มีการจัดขึ้นบ้าง ซึ่งมีทั้งหมด 5 ฐาน โดยในฐานวัดใจจะใช้แผ่นกระดาษ ซึ่งฉลุเป็นลายโลโก้ของคณะมาทาบที่กลางหลังก่อนใช้สีสเปรย์พ่นใส่และใช้ไฟแช็กจุดจนเป็นลูกไฟใส่แผ่นหลัง โดยจะให้รุ่นน้องขึ้นไปที่ฐานทีละคน และก่อนเข้าฐานก็จะถามว่าแน่ใจหรือไม่ที่จะปฏิบัติตาม

“ก่อนหน้านี้ ผมก็เคยถูกรุ่นพี่รับน้องด้วยวิธีการแบบนี้เช่นกัน เป็นการทำต่อๆ กันเป็นประเพณี ผมไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายจนถึงขนาดนี้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องยอมรับ ขณะที่เข้าฐานก็เห็นน้องเขามีแผลผุผองจนเป็นถุงน้ำเหลือง จึงให้เพื่อนเอาเข็มมาเจาะน้ำเหลืองออก ไม่คิดว่าน้องจะได้รับบาดเจ็บมากจนเข้ามาแจ้งความ ผมรู้สึกผิดตั้งแต่เห็นแผลน้องแล้ว ถ้าหากย้อนกลับไปแก้ไขได้ก็จะไม่ทำเช่นนี้ และจะระมัดระวังในการจัดกิจกรรมรับน้องให้มากขึ้นไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก และจะคอยดูแลการรับน้องรุ่นต่อๆ ไป อย่างใกล้ชิด ตอนนี้ผมและเพื่อนๆ คงต้องถูกอาจารย์พักการเรียนเอาไว้ก่อน” นายโอภาส กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวว่า ภายหลังจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความกรณีมีการทำร้ายร่างกายจากการรับน้อง เบื้องต้นจากการสอบปากคำให้การ ว่า วันที่รับน้องทั้ง 3 คน คุมฐานวัดใจ มีรุ่นน้อง 33 คน ผู้ชาย 32 คน หญิง 1 คน ก่อนที่จะเข้าฐานก็มีการพูดข่มขู่บอกว่าจะใช้เฟืองลนไฟทาบหลัง เพื่อให้น้องกลัว และถามความสมัครใจ ว่า กล้าเข้าฐานนี้หรือไม่ แต่ก็ไม่ได้ทำอย่างที่พูด มีเพียงการนำเฟืองทาบหลัง และสีสเปรย์พ่น ส่วนครั้งที่ 2 ก็ทำเช่นกัน แต่ใช้ไฟแช็กลนที่ปากกระป๋องให้เกิดเปลวไฟผ่านหลัง และเอาน้ำลูบไม่คิดว่าจะเป็นแผลพุพอง เพราะทำทุกคนสมัยที่ถูกรับน้องก็เป็นอย่างนี้ เบื้องต้นได้ส่งรุ่นพี่ที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำ และแจ้งข้อหาก่อนจะปล่อยตัวไปชั่วคราว โดยหลังจากที่สอบปากคำพยานและรวบรวมหลักฐานเรียบร้อยแล้ว ก็จะเรียกรุ่นพี่ทั้ง 3 คน มาสอบปากคำอีกครั้งก่อนจะสรุปสำนวนส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องคดีต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น