xs
xsm
sm
md
lg

เหยื่อรับน้องโหด ไม่เอาความ 6 รุ่นพี่!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

รุ่นน้องเทคนิคกรุงเทพ ไม่ติดใจเอาความ 6 รุ่นพี่ใช้ไฟแช็กลนขนเพชร-เจ้าโลกจุ่มแกว่งน้ำแช่พริกรับน้อง แจ้งความดำเนินคดีกับ 3 รุ่นพี่ ฐานด่านวัดใจแผลลวกแผ่นหลังเท่านั้น เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย พร้อมนำตัวส่งฟ้องศาลแขวงพระนครใต้พรุ่งนี้


วันนี้ (18 มิ.ย) พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.5 เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี นายสุรเดช สุวรรณรัตน์ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์อุตสาหกรรม ม.เทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ซึ่งถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บจากการรับน้อง ว่า พนักงานสอบสวนได้นำตัวนายสุรเดช ไปตรวจบาดแผลที่โรงพยาบาลจุฬาฯ เพื่อนำใบรับรองแพทย์มาประกอบสำนวนส่งอัยการฟ้องรุ่นพี่ 3 คน ประกอบด้วย นายโอภาส ทิมคลองธรรม อายุ 20 ปี นายนพพร เกิดศิริ อายุ 20 ปี และนายกีรติ เริงอาจ อายุ 20 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์อุตสาหกรรม โดยผลรับรองแพทย์ระบุว่า ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บจริง แต่ไม่ถึงสาหัส เนื่องจากแพทย์ระบุต้องใช้เวลารักษาบาดแผลเพียง 14 วัน

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหารุ่นพี่ทั้ง 3 คน ที่ดูแลด่านรับน้องฐานวัดใจ ข้อหาทำร้ายร่างกาย อันเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย ทางร่างกายและจิตใจ ส่วนรุ่นพี่ 6 คน ที่ถูกกล่าวหาว่าได้เอาไฟแช็กลนขนเพชร และให้ใช้อวัยวะเพศจุ่มลงแกว่งน้ำที่แช่พริกขี้หนู นั้น ไม่ได้เรียกตัวมาสอบปากคำ เพราะไม่มีผู้เสียหายรายใดเข้าแจ้งความเอาผิด แต่ผู้เสียหายที่ถูกรับน้องได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่แผลถูกไฟลวกบริเวณแผ่นหลังเท่านั้น

“ในวันพรุ่งนี้ (19 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนจะส่งตัวรุ่นพี่ 3 คน ไปส่งฟ้องที่ศาลแขวงพระนครใต้ เวลา 10 โมง ทางเราจึงแจ้งข้อหารุ่นพี่ 3 คนข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ มีโทษปรับไม่เกิน 4,000 บาทจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะนำผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติม อีกทั้งผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ” ผบก.น.5 กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 มิ.ย.) รุ่นพี่ทั้ง 3 คน ได้เดินทางเข้าพบอธิการบดีที่มหาวิทยาลัย เพื่อรับทราบความผิด และรับโทษโดยการถูกพักการเรียนเป็นเวลา 1 ปี

3 รุ่นพี่ “เทคนิคกรุงเทพ” รับน้องโหด รับทราบข้อกล่าวหา
เหยื่อรับน้องโหดรับไม่ได้ขอย้าย ตร.ชี้ รุ่นพี่ข้อหาหนักพยายามฆ่า!!
สุดพิเรนทร์!! รุ่นพี่รับน้อง ยิงสีสเปรย์ใส่ไฟแช็กพ่นใส่หลังรุ่นน้องดิ้นพล่าน
พนักงานสอบสวน สอบปากคำ 3 รุ่นพี่รับน้องโหด
แผลด้านหลัง นายสุรเดช สุวรรณรัตน์ อายุ 20 ปี ที่แจ้งความดำเนินคดี 3 รุ่นพี่ฐานวัดใจ
รอลงอาญา 1 ปี รุ่นพี่เทคนิคกรุงเทพรับน้องโหด!
รอลงอาญา 1 ปี รุ่นพี่เทคนิคกรุงเทพรับน้องโหด!
คุก 2 เดือน ปรับ 2 พันบาท รุ่นพี่เทคนิคกรุงเทพรับน้องโหด ศาลให้โอกาสกลับตัวโทษคุกรอลงอาญา 1 ปี วางมาตรการคุมประพฤติรายงานตัว 3 เดือนครั้ง บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชม. วันนี้ ( 29 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ห้องพิจารณาดี 20 ศาลแขวงพระนครใต้ ถ.เจริญกรุง ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวงพระนครใต้ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายโอภาส หรือโอม ทิมคลองธรรม อายุ 20 ปี , นายมานพ หรือนพ เกิดศิริ อายุ 20 ปี และนายกีรติ หรือต้อม เริงอาจ อายุ 20 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นอันตรายแก่กายและจิตใจ โจทก์บรรยายฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.50 จำเลยทั้งสามซึ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ( เทคนิคกรุงเทพ) ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ของสถาบันด้วยวิธีรุนแรงโดยใช้สีสเปรย์ฉีดพ่นรูปกงจักรบนแผ่นหลังของ นายสุรเดช สุวรรณรัตน์ อายุ 20 ปี ผู้เสียหาย นักศึกษารุ่นน้องชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมอุตสาหการ แล้วใช้ไฟแช็คจุดไฟเผาจนเป็นแผลพุพอง เหตุเกิดที่แขวงทุ่งมหาเมฆ แขวงสาธร กรุงเทพฯ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พิเคราะหืพยานหลักฐานประกอบคำรับสารภาพของจำเลยทั้ง 3 แล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดจริงฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นอันตรายแก่กายและจิตใจ พิพากษาให้ลงโทษจำคุก 2 เดือน ปรับ 2 พันบาท อย่างไรก็ดีจากการสืบเสาะประวัติของจำเลยทั้งสาม มีประวัติทางครอบครัว และการเรียนในเกณฑ์ดี หลังจากก่อเหตุได้สำนึกและได้บรรเทาผลร้าย ประกอบกับจำเลยทั้งสาม ได้นำเอกสารที่จำเลยเข้าร่วมการอบรมธรรมะกับมหาวิทยาลัย ในโครงการ “คนดีศรีวิศวะ” มาประกอบการพิจารณา เห็นสมควรให้โอกาสจำเลยทั้งสามได้กลับตัวเป็นพลเมืองดีต่อไป โทษจำคุกให้รอการลงโทษเป็นเวลา 1 ปี ให้รายงานตัวต่อสำนักงานคุมประพฤติ 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง และให้บำเพ็ญประโยชน์ ด้านสาธารณสุข กับ ศาสนาเป็นเวลา 48 ชั่วโมง โดยให้จำเลยทั้งสามปฏิบัติตามคำพิพากษาอย่างเคร่งครัด และหากกระทำผิดซ้ำในระหว่างรอการลงโทษศาลจะให้ลงโทษจำคุกทันที ภายหลังมีคำพิพากษา มีกลุ่มเพื่อนของจำเลยทั้งสาม นำเงินมาชำระค่าปรับ ก่อนจะเดินทางกลับโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น