ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถือหางออกโรงป้องรองผู้การ ป.เด็กยุทธ ตู้เย็น กรณีออกหมายเรียก คตส.มาดำเนินคดี ย้ำถือเป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนที่จะทำได้ ในขณะที่การประชุมผู้นำ 3 เหล่าทัพกับตำรวจสุดเหลือเชื่อ ไม่มีการพูดถึงเรื่องการเมืองและการชุมนุมของพันธมิตรแม้แต่นิดเดียว
วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก ผบ.ทอ. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร.และผู้บังคับบัญชาระดับสูงทุกเหล่าทัพ เดินทางเข้าร่วมประชุม ผบ.เหล่าทัพครั้งที่ 3/51 โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง โดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ที่เดินทางประชุมร่วมกับคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ได้เดินทางกลับมาร่วมประชุมภายหลังด้วย
พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ซึ่งจะเวียนไปทุกที่ เป็นการประชุมเกี่ยวกับภาระหน้าที่ของแต่ละเหล่าทัพ ในส่วนเรื่องผู้ชุมนุมไม่ได้มีการพูดคุยในที่ประชุม เพราะการประชุมเน้นหนักไปในเรื่องภารกิจของทหาร ตำรวจ ไม่ใช่เรื่องการเมือง ซึ่งการประชุมก็มีหลายเรื่องแล้ว เวลาคงไม่พอ อีกทั้งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง การแก้ปัญหาจึงเป็นหน้าที่ฝ่ายการเมือง ตำรวจ ทหารมีหน้าที่มากมายในการดูแลประชาชนอยู่แล้วคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และยืนยันว่าไม่มีการขอกำลังทหารไปช่วยดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม
ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนกองบังการปราบปรามออกหมายเรียกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) ข้อหาหมิ่นประมาท และแจ้งความผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา ว่า การออกหมายเรียกเป็นขั้นตอนของพนักงานสอบสวนและเป็นดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนซึ่งจะออกกี่ครั้งกฎหมายไม่ได้เขียนเอาไว้เป็นอำนวจของพนักงานที่จะดูว่าข้อมูลในการออกหมายเรียกพร้อมแค่ไหน ซึ่งขั้นตอนจะออกหมายจับหรือไม่ตนเองคงไปสั่งพนักงานสอบสวนไม่ได้เป็นอำนาจของพนักงงานสอบสวน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกหมายเรียกปกติจะออก 2 ครั้ง แล้วออกหมายจับจะทำให้คดีนี้กลายเป็นบรรทัดฐานให้ประชาชนทั่วไปหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ไม่หรอกเป็นดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน ส่วน พ.ต.อ.จารุวัฒน์ ไวศยะ รอง ผบก.ป.หัวหน้าพนักงานสอบสวนนั้นยังไม่ได้พบกัน แต่ได้พูดคุยกันนิดหน่อยแต่เนื้อหาสำนวนยังไม่เห็น
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการออกหมายเรียกครบ 2 ครั้งแล้ว จะมีการออกหมายจับหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า การขออนุมัติออกหมายจับเป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวน แต่คงยังมีมีการออกหมายจับ อย่างไรก็ตามต้องมีการเรียกสำนวนการทำคดีมาดูก่อนมากน้อยแค่ไหน ข้อมูลครบเหรือไม่ การออกหมายเรียกทำอย่างไรมีหลักฐานมีมาตรฐานหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนในคดี และไม่มีฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
“ในที่ประชุมเหล่าทัพ ผมเองไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับทางผบ.ทบ.แต่อย่างใด และคงแนะนำคตส.ไม่ได้ว่าจะทำอย่างไรในเรื่องนี้ เพราะท่านมีหน้าที่ในฐานะประชาชนและในหน้าที่คตส.” พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว
ทั้งนี้ กองปราบปราม กำลังถูก คตส.มองว่า ทำคดีช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะออกหมายจับ คตส.หรือไม่ หลังจากขัดหมายเรียกกองปราบปรามในคดีที่ถูกสำนักงานกฎหมายเดียวกันนี้ แจ้งความจับฐานหมิ่นประมาท และกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา ซึ่งทั้งสองคดีมี พ.ต.อ.จารุวัฒน์ ซึ่งมีความสนิทสนมกับ นายยงยุทธ ติยะไพรัช หรือยุทธ ตู้เย็น แกนนำสำคัญในพรรคพลังประชาชนเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน และมีรายงานว่า ในวันนี้ พ.ต.อ.จารุวัฒน์ จะเรียกประชุมพนักงานสอบสวนที่กองปราบปราม เพื่อหารือว่าจะเสนอศาลเพื่อออกหมายจับ คตส.หรือไม่
วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก ผบ.ทอ. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร.และผู้บังคับบัญชาระดับสูงทุกเหล่าทัพ เดินทางเข้าร่วมประชุม ผบ.เหล่าทัพครั้งที่ 3/51 โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง โดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ที่เดินทางประชุมร่วมกับคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ได้เดินทางกลับมาร่วมประชุมภายหลังด้วย
พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ซึ่งจะเวียนไปทุกที่ เป็นการประชุมเกี่ยวกับภาระหน้าที่ของแต่ละเหล่าทัพ ในส่วนเรื่องผู้ชุมนุมไม่ได้มีการพูดคุยในที่ประชุม เพราะการประชุมเน้นหนักไปในเรื่องภารกิจของทหาร ตำรวจ ไม่ใช่เรื่องการเมือง ซึ่งการประชุมก็มีหลายเรื่องแล้ว เวลาคงไม่พอ อีกทั้งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง การแก้ปัญหาจึงเป็นหน้าที่ฝ่ายการเมือง ตำรวจ ทหารมีหน้าที่มากมายในการดูแลประชาชนอยู่แล้วคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และยืนยันว่าไม่มีการขอกำลังทหารไปช่วยดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม
ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนกองบังการปราบปรามออกหมายเรียกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) ข้อหาหมิ่นประมาท และแจ้งความผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา ว่า การออกหมายเรียกเป็นขั้นตอนของพนักงานสอบสวนและเป็นดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนซึ่งจะออกกี่ครั้งกฎหมายไม่ได้เขียนเอาไว้เป็นอำนวจของพนักงานที่จะดูว่าข้อมูลในการออกหมายเรียกพร้อมแค่ไหน ซึ่งขั้นตอนจะออกหมายจับหรือไม่ตนเองคงไปสั่งพนักงานสอบสวนไม่ได้เป็นอำนาจของพนักงงานสอบสวน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกหมายเรียกปกติจะออก 2 ครั้ง แล้วออกหมายจับจะทำให้คดีนี้กลายเป็นบรรทัดฐานให้ประชาชนทั่วไปหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ไม่หรอกเป็นดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน ส่วน พ.ต.อ.จารุวัฒน์ ไวศยะ รอง ผบก.ป.หัวหน้าพนักงานสอบสวนนั้นยังไม่ได้พบกัน แต่ได้พูดคุยกันนิดหน่อยแต่เนื้อหาสำนวนยังไม่เห็น
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการออกหมายเรียกครบ 2 ครั้งแล้ว จะมีการออกหมายจับหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า การขออนุมัติออกหมายจับเป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวน แต่คงยังมีมีการออกหมายจับ อย่างไรก็ตามต้องมีการเรียกสำนวนการทำคดีมาดูก่อนมากน้อยแค่ไหน ข้อมูลครบเหรือไม่ การออกหมายเรียกทำอย่างไรมีหลักฐานมีมาตรฐานหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนในคดี และไม่มีฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
“ในที่ประชุมเหล่าทัพ ผมเองไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับทางผบ.ทบ.แต่อย่างใด และคงแนะนำคตส.ไม่ได้ว่าจะทำอย่างไรในเรื่องนี้ เพราะท่านมีหน้าที่ในฐานะประชาชนและในหน้าที่คตส.” พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว
ทั้งนี้ กองปราบปราม กำลังถูก คตส.มองว่า ทำคดีช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะออกหมายจับ คตส.หรือไม่ หลังจากขัดหมายเรียกกองปราบปรามในคดีที่ถูกสำนักงานกฎหมายเดียวกันนี้ แจ้งความจับฐานหมิ่นประมาท และกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา ซึ่งทั้งสองคดีมี พ.ต.อ.จารุวัฒน์ ซึ่งมีความสนิทสนมกับ นายยงยุทธ ติยะไพรัช หรือยุทธ ตู้เย็น แกนนำสำคัญในพรรคพลังประชาชนเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน และมีรายงานว่า ในวันนี้ พ.ต.อ.จารุวัฒน์ จะเรียกประชุมพนักงานสอบสวนที่กองปราบปราม เพื่อหารือว่าจะเสนอศาลเพื่อออกหมายจับ คตส.หรือไม่
