“ดีเอสไอ” สรุปสำนวนแชร์ก๋วยเตี๋ยวบางกอก ส่งอัยการฟ้องผู้ต้องหา 7 ราย อายัดบัญชีเงินฝากแค่ 6 แสน พร้อมประสาน ปปง.สอบธุรกรรมการเงินขณะที่วงเงินเสียหายสูงกว่า 223 ล้านบาท
วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ เปิดเผยว่า ดีเอสไอได้สรุปสำนวนคดีแชร์ก๋วยเตี๋ยวบางกอก ของบริษัท สยามฟูดซ์แฟรนไซส์ จำกัด โดยในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ พนักงานสอบสวนจะนำหลักฐานพร้อมสำนวนคดีส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหา 7 ราย ที่ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนจากการหลอกลวงให้นำเงินมาร่วมลงทุนทำธุรกิจแชร์ก๋วยเตี๋ยวบางกอก จนทำให้ผู้เสียหาย 1,054 ราย ต้องสูญเสียเงินลงทุนให้กับบริษัทมูลค่าความเสียหายสูงถึง 223,431,850 บาท นอกจากนี้ ดีเอสไอยังได้ประสานให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ตรวจสอบธุรกรรมการเงินของผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย เพื่อยึดอายัดทรัพย์ และนำเงินมาชดใช้ความเสียหายให้กับประชาชนที่ถูกฉ้อโกง เนื่องจากที่ผ่านมาสามารถยึดอายัดเงินจากบัญชีธนาคารจาก 20 บัญชีธนาคารของบริษัท สยามฟูดซ์แฟรนไซส์ และผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ได้เพียง 623,015.47 บาท
ด้าน พ.ต.ท.ฐากูร นิ่มสมบุญ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8 เปิดเผยถึงการจัดทำโครงสร้างใหม่ดีเอสไอ ว่า ดีเอสไอมีภารกิจงานคดีเพิ่มขึ้นดังนั้น จึงต้องปรับโครงสร้างภายในเพื่อรองรับงานคดี โดยเฉพาะคดีบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์และทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งโครงสร้างใหม่จะแยกสำนักคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกจากสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภค ที่แยกออกไปรับผิดชอบดูแลคดีฉ้อโกงประชาชนในลักษณะแชร์ลูกโซ่ให้มากขึ้น เพื่อให้สำนักคดีทรัพยากรฯดำเนินคดีบุกรุกป่าและทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งมีข้อมูลว่า มีการบุกรุกถึง 6 ล้านไร่ โดยจะใช้มาตรการการฟอกเงินจัดการกับกลุ่มนายทุนที่อยู่เบื้องหลังการบุกรุกป่า นอกจากนี้ เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้กับงานสอบสวนคดีพิเศษจะเสนอให้จัดตั้งสำนักการข่าว สำนักสืบสวนคดีพิเศษ เพื่อสนับสนุนการทำงานของทุกสำนักคดี โดยโครงสร้างใหม่จะไม่มีการเพิ่มบุคลากรและงบประมาณ