ตำรวจพลับพลาไชย 2 จับกุม “ทองสุข นามวงษ์” สาวใหญ่อ้างเป็นนายตรวจตั๋วรถเมล์หลอกเหยื่อสาวห้างบิ๊กซี ลาดพร้าว มีความสามารถพิเศษดูหมอแม่นยำ หลังตีสนิทแล้วหลอกให้ผ่อนทอง ก่อนหอบเงินวางมัดจำหนีเหยียบ 5 หมื่น ขณะที่ ตร.วอนผู้หลงกลถูกสาวใหญ่รายนี้หลอกลวงให้เข้าแจ้งความได้ทุกเมื่อ
วันนี้ (30 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ สน.พลับพลาไชย 2 พ.ต.อ.ธีระพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 พ.ต.อ.สุรวิทย์ โยนจอหอ สว.สส.สน.พลับพลาไชย 2 ร.ต.อ.สายันต์ ดีมี รอง สว.จร.ช่วยราชการงานสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว น.ส.ทองสุข นามวงษ์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 8 ต.ป่ามะนาว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงปทุมวัน ที่ 56/2551 ลงวันที่ 20 มี.ค.51 ในข้อหาฉ้อโกง โดยมีเจ้าทุกข์จำนวน 8 รายเดินมาชี้ตัวยืนยัน
พ.ต.อ.ธีระพงษ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 12.30 น.ของวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา นางปาริชาติ ไกรสุขกาย อายุ 37 ปี พนักงานห้างบิ้กซี สาขาลาดพร้าว พร้อมเพื่อนอีก 4 คน เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ว่า ถูกหญิงคนหนึ่งที่อ้างชื่อ พะเยาว์ นามวงศ์ เป็นนายตรวจรถเมล์ของรถร่วมบริการ ขสมก.ได้เข้ามาตีสนิทกับพนักงานภายในห้างช่วงต้นเดือน ก.พ.พร้อมอ้างว่า เป็นหมอดูและหลอกให้ผ่อนทองที่ร้านทองบ้วนฮั่วเล้ง ถนนเจริญกรุง แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ ทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อ เสียเงินให้หญิงคนดังกล่าวไป 45,000 บาท ก่อนจะหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงออกสืบหาตัวคนร้าย จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ขณะกำลังหลอกผู้เสียหายรายใหม่อยู่ที่บริเวณป้ายรถประจำทางหน้าห้างเซ็นทรัล สาขาชิดลม ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จึงนำตัวมาสอบปากคำ
ด้าน นางปาริชาติ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาได้เข้ามาตีสนิทกับพวกพนักงานในห้าง พร้อมอ้างว่าเป็นนายตรวจตั๋วและมีความสามารถดูหมอได้ ทำให้มีพนักงานจำนวนประมาณ 30-40 คน หลงเชื่อมาดูดวงกับผู้ต้องหา โดยเสียเงินค่าดูดวง 39 บาท และเสียค่าสะเดาะห์เคราะห์จำนวน 299 -399 แล้วแต่เคราะห์ นั้นๆ นอกจากนี้บางคนยังถูกทักว่าจะถูกหวย แล้วก็ถูกจริงๆ จึงทำให้พนักงานหลายคน หลงเชื่อศรัทธาเรียกว่า “แม่หมอ”
นางปาริชาติ กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาได้หากินด้วยการดูดวงอยู่ประมาณ 1 เดือน ก็เริ่มออกลาย โดยมาออกอุบายหลอกพวกตน ว่า มีลูกสะใภ้นายพลตำรวจ ที่เป็นเจ้าของร้านทองแห่งหนึ่งขายทองแบบผ่อนราคาถูกให้ โดยแต่ละคนจะต้องวางเงินดาวน์ 9,000 บาท ต่อทองหนัก 3 บาท และให้ผ่อนเพียงงวดละ 500-1000 บาท ซึ่งตอนแรกทุกคนก็กลัวว่าจะถูกหลอก แต่ก็ลองตกลงซื้อทองแบบผ่อนดังกล่าว หลังจากนั้น ผู้ต้องหาก็พาพวกตนไปที่ร้านทองดังกล่าว ก่อนจะบอกให้เข้าไปเลือกทองในร้าน โดยผู้ต้องหาจะนั่งวางมาดรออยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ ขณะนั้นตนก็แอบถามพนักงานขายในร้านว่า รู้จักกับผู้ต้องหาหรือไม่ เมื่อพนักงานบอกว่า เคยเห็นเข้ามาที่ร้านบ่อยๆ พวกตนจึงหลงเชื่อ คิดว่าไม่ถูกหลอกแน่นอน เลยมอบเงินให้ไปทั้งหมด 45,000 บาท
“หลังจากนั้น เขาก็ทำทีให้พวกฉันเลือกลายสร้อยทองก่อน ส่วนเขาจะไปเอาสมุดมาลงชื่อการซื้อทองแบบผ่อน แต่กลับหายตัวไปเลย พวกฉันนั่งรออยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ไม่กลับมา เลยถามกับพนักงานในร้านว่า ที่ร้านเปิดให้ผ่อนทองด้วยหรือ แต่พนักงานกลับบอกว่าไม่รู้เรื่องเลย พวกฉันจึงรู้ตัวว่าถูกหลอกแล้ว เลยพากันมาแจ้งความ จนกระทั่งวันนี้ ตำรวจตามจับตัวเขาได้ ขณะที่เข้ามาหลอกเหยื่อรายใหม่ที่ร้านทองด้วย ซึ่งพวกฉันสอบถาม เหยื่อที่กำลังถูกหลอกอยู่ก็ทำให้รู้ว่า หลังจากเขาหลอกพวกฉันแล้ว ก็ยังมีพนักงานห้างเซ้นทรัลลาดพร้าวอีกหลายราย ที่ถูกหลอกแบบนี้ด้วย” นางปาริชาติ กล่าว
จากการสอบสวน นางทองสุข ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ที่ทำไปเพราะต้องการหาเงินไปรักษาพ่อที่นอนป่วยอยู่บ้านต่างจังหวัด ส่วนตนเองก็ถูกเจ๊หมวยนายทุนใหญ่หักหลังอีกทีหนึ่ง ทำให้ต้องหลบหนีไป
พ.ต.อ.ธีระพงษ์ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฉ้อโกง และขอประชาสัมพันธ์ด้วยว่า หากผู้เสียหายรายใดที่สงสัยว่า จะถูกนางทองสุข หลอกเชิดเงินไป ก็ให้มาตรวจสอบพร้อมทั้งชี้ตัวได้ที่ สน.พลับพลาไชย 2 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
วันนี้ (30 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ สน.พลับพลาไชย 2 พ.ต.อ.ธีระพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 พ.ต.อ.สุรวิทย์ โยนจอหอ สว.สส.สน.พลับพลาไชย 2 ร.ต.อ.สายันต์ ดีมี รอง สว.จร.ช่วยราชการงานสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว น.ส.ทองสุข นามวงษ์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 8 ต.ป่ามะนาว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงปทุมวัน ที่ 56/2551 ลงวันที่ 20 มี.ค.51 ในข้อหาฉ้อโกง โดยมีเจ้าทุกข์จำนวน 8 รายเดินมาชี้ตัวยืนยัน
พ.ต.อ.ธีระพงษ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 12.30 น.ของวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา นางปาริชาติ ไกรสุขกาย อายุ 37 ปี พนักงานห้างบิ้กซี สาขาลาดพร้าว พร้อมเพื่อนอีก 4 คน เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ว่า ถูกหญิงคนหนึ่งที่อ้างชื่อ พะเยาว์ นามวงศ์ เป็นนายตรวจรถเมล์ของรถร่วมบริการ ขสมก.ได้เข้ามาตีสนิทกับพนักงานภายในห้างช่วงต้นเดือน ก.พ.พร้อมอ้างว่า เป็นหมอดูและหลอกให้ผ่อนทองที่ร้านทองบ้วนฮั่วเล้ง ถนนเจริญกรุง แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ ทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อ เสียเงินให้หญิงคนดังกล่าวไป 45,000 บาท ก่อนจะหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงออกสืบหาตัวคนร้าย จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ขณะกำลังหลอกผู้เสียหายรายใหม่อยู่ที่บริเวณป้ายรถประจำทางหน้าห้างเซ็นทรัล สาขาชิดลม ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จึงนำตัวมาสอบปากคำ
ด้าน นางปาริชาติ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาได้เข้ามาตีสนิทกับพวกพนักงานในห้าง พร้อมอ้างว่าเป็นนายตรวจตั๋วและมีความสามารถดูหมอได้ ทำให้มีพนักงานจำนวนประมาณ 30-40 คน หลงเชื่อมาดูดวงกับผู้ต้องหา โดยเสียเงินค่าดูดวง 39 บาท และเสียค่าสะเดาะห์เคราะห์จำนวน 299 -399 แล้วแต่เคราะห์ นั้นๆ นอกจากนี้บางคนยังถูกทักว่าจะถูกหวย แล้วก็ถูกจริงๆ จึงทำให้พนักงานหลายคน หลงเชื่อศรัทธาเรียกว่า “แม่หมอ”
นางปาริชาติ กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาได้หากินด้วยการดูดวงอยู่ประมาณ 1 เดือน ก็เริ่มออกลาย โดยมาออกอุบายหลอกพวกตน ว่า มีลูกสะใภ้นายพลตำรวจ ที่เป็นเจ้าของร้านทองแห่งหนึ่งขายทองแบบผ่อนราคาถูกให้ โดยแต่ละคนจะต้องวางเงินดาวน์ 9,000 บาท ต่อทองหนัก 3 บาท และให้ผ่อนเพียงงวดละ 500-1000 บาท ซึ่งตอนแรกทุกคนก็กลัวว่าจะถูกหลอก แต่ก็ลองตกลงซื้อทองแบบผ่อนดังกล่าว หลังจากนั้น ผู้ต้องหาก็พาพวกตนไปที่ร้านทองดังกล่าว ก่อนจะบอกให้เข้าไปเลือกทองในร้าน โดยผู้ต้องหาจะนั่งวางมาดรออยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ ขณะนั้นตนก็แอบถามพนักงานขายในร้านว่า รู้จักกับผู้ต้องหาหรือไม่ เมื่อพนักงานบอกว่า เคยเห็นเข้ามาที่ร้านบ่อยๆ พวกตนจึงหลงเชื่อ คิดว่าไม่ถูกหลอกแน่นอน เลยมอบเงินให้ไปทั้งหมด 45,000 บาท
“หลังจากนั้น เขาก็ทำทีให้พวกฉันเลือกลายสร้อยทองก่อน ส่วนเขาจะไปเอาสมุดมาลงชื่อการซื้อทองแบบผ่อน แต่กลับหายตัวไปเลย พวกฉันนั่งรออยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ไม่กลับมา เลยถามกับพนักงานในร้านว่า ที่ร้านเปิดให้ผ่อนทองด้วยหรือ แต่พนักงานกลับบอกว่าไม่รู้เรื่องเลย พวกฉันจึงรู้ตัวว่าถูกหลอกแล้ว เลยพากันมาแจ้งความ จนกระทั่งวันนี้ ตำรวจตามจับตัวเขาได้ ขณะที่เข้ามาหลอกเหยื่อรายใหม่ที่ร้านทองด้วย ซึ่งพวกฉันสอบถาม เหยื่อที่กำลังถูกหลอกอยู่ก็ทำให้รู้ว่า หลังจากเขาหลอกพวกฉันแล้ว ก็ยังมีพนักงานห้างเซ้นทรัลลาดพร้าวอีกหลายราย ที่ถูกหลอกแบบนี้ด้วย” นางปาริชาติ กล่าว
จากการสอบสวน นางทองสุข ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ที่ทำไปเพราะต้องการหาเงินไปรักษาพ่อที่นอนป่วยอยู่บ้านต่างจังหวัด ส่วนตนเองก็ถูกเจ๊หมวยนายทุนใหญ่หักหลังอีกทีหนึ่ง ทำให้ต้องหลบหนีไป
พ.ต.อ.ธีระพงษ์ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฉ้อโกง และขอประชาสัมพันธ์ด้วยว่า หากผู้เสียหายรายใดที่สงสัยว่า จะถูกนางทองสุข หลอกเชิดเงินไป ก็ให้มาตรวจสอบพร้อมทั้งชี้ตัวได้ที่ สน.พลับพลาไชย 2 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
