นครบาล 5 จับกุม 3 ผู้ต้องหาปล้นทรัพย์เหยื่อหน้าตู้เอทีเอ็ม และร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ย่านคลองตัน สารภาพยกแก๊งปล้นหาเงินเที่ยวเตร่ แต่ยังปากแข็งอ้างทำครั้งแรกตำรวจไม่เชื่อคาดก่อเหตุมาแล้วโชกโชน
วันนี้ (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.5 แถลงผลการจับกุม นายมาโนช ทับทิมทอง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 ซ. นาคภาษิต แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม., นายอนุชา รักษากูล อายุ 20 อยู่บ้านเลขที่ 158 ม.10 ต.สระพระ อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา และนายเชษฐา รักษากูล 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158 ม.10 ต.สระพระ อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาคดีปล้นทรัพย์ นายสุชาติ ทองวิสัย ขณะกดเงินบริเวณหน้าตู้ ATM ซอยพัฒนาการ 50 ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดมูลค่า 5,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และตามเข้าไปปล้นทรัพย์ในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ใกล้ที่เกิดเหตุได้เงินสด 350 บาท และบุหรี่ 3 ซอง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต สาโรจน์ กล่าวว่าการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน สามารถสืบสวนและจับกุมนายมาโนช ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ ส.1418/2551 ส.1419/2551และ1420/2551 ได้ที่บริเวณหน้าเจโมทาวน์ แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. พร้อมของกลางเสื้อยืดโปโลสีน้ำเงินลายขาวที่ใส่วันก่อเหตุ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโซนิค ทะเบียน ลพค 150 กทม.ที่ใช้ในการหลบหนี จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและให้การซัดทอดว่าผู้ต้องหาอีก 2 คนคือ นายเชษฐาและนายอนุชา รักษากูล ซึ่งเป็นพี่น้องกัน จากนั้นนายเชษฐาได้ติดต่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนน้องชายเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันปล้นทรัพย์ผู้เสียหายจริง เนื่องจากต้องการหาเงินไปเที่ยวเตร่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ตระเวนหาเหยื่อพบผู้เสียหายกำลังกดเงินสดอยู่ที่ตู้เอทีเอ็มเพียงคนเดียวจึงเข้าไปก่อเหตุแต่เนื่องจากผู้เสียหายวิ่งหลบหนีเข้าไปในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น จึงตามเข้าไปและถือโอกาสปล้นเงินและบุหรี่จากพนักงานในร้าน โดยยืนยันว่ากระทำผิดเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากมีคดีลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นในละแวกใกล้เคียงมาแล้วหลายครั้ง จึงขอให้ผู้เสียหายที่จำหน้าคนร้ายกลุ่มนี้ได้เข้ามาชี้ตัวและแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ที่ สน.คลองตัน
