ตำรวจ วอนพันธมิตรฯ เปิดเส้นทางจราจรสงสารนักเรียนไปเรียนสาย ย้ำหนักแน่นยังไม่มีมาตรการสลายหรือจับกุมแกนนำ บอกหากเคลื่อนขบวนดูแลลำบาก หวั่นมือที่ 3 สร้างสถานการณ์วุ่นวาย ขณะที่ “อัศวิน” ระบุเหตุที่ต้องเปิดลำโพงประชันกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะจำเป็นต้องการกลบเสียงและถือไม่เหมาะถ้าหันลำโพงไปทางลานพระรูปทรงม้า อุ้ม ตร.ทำการสมควรเหมาะสม
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่รอง ผบ.ตร.(มค.1) พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษกนครบาล พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. ในฐานะรองโฆษก ตร.กล่าวถึงการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินกลาง กรณีรัฐบาลเสนอยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 อันเป็นการกระทำเพื่อเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้อง
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุม เบื้องต้นรับรายงานว่าจะมีการยุติการชุมนุมในช่วงเช้าวันที่ 28 พ.ค. แต่มีการเปลี่ยนแปลงไม่ยุติการชุมนุม อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะยังมีการจับกุมแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน และจะมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉุกเฉินนั้น ตนขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีอย่างแน่นอน
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่ามีการเกณฑ์แม่ค้ารวมถึงประชาชนมาแจ้งความหลังจากได้รับความเดือนร้อนจากการชุมนุ นั้นยังไม่มีการเกณฑ์ แต่ทราบว่ามีประชาชนมาแจ้งความแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป แต่ที่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนคือ นักเรียนที่โรงเรียนตั้งอยู่ในละแวกใกล้เคียงได้รับผลกระทบจากการเดินทาง ซึ่งส่วนนี้จะมีการประสานแกนนำเพื่อเปิดทางจราจรบางส่วน เนื่องจากในช่วงเช้านั้นทราบว่ามีผู้ชุมนุมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มพันธมิตรจะมีการชุมนุมใหญ่ในวันศุกร์ ที่ 30 พ.ค.นี้ และอาจจะมีการเคลื่อนขบวนนั้น พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า ทราบว่าจะมีผู้ชุมนุมมาเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้รับรายงานการเคลื่อนขบวน ซึ่งส่วนนี้จะได้ประสานแกนนำอีกครั้ง แต่หากมีการเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมนั้นจะทำให้ตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัยได้อย่างลำบากและอาจเป็นโอกาสที่ผู้ไม่หวังดีหรือมือที่ 3 จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายได้ แต่หากจะมีการเคลื่อนขบวนไปยังสถานที่ที่เหมาะสมตำรวจก็ยินดี
ด้าน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีที่มีการเปิดเครื่องขยายเสียงกลบเสียงการปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า ช่วง 2 วันแรกการชุมนุมนั้นเป็นไปด้วยความปกติ แต่คืนที่ผ่านมานั้นทางกลุ่มพันธมิตรฯ ได้เพิ่มลำโพงอีก 7 ตัว และหันลำโพงออกมายังลานพระรูปทรงม้า ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม แม้จะมีการประสานไปยังแกนนำให้หันลำโพงกลับด้านอื่นแต่กลับไม่ได้รับการตอบรับ ตำรวจจึงจำเป็นต้องเปิดเครื่องขยายเสียงเพื่อกลบเสียงของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งการกระทำของตำรวจก็ถือเป็นการกระทำที่สมควร เพราะเสียงที่ดังไปทางลานพระรูปนั้นถือว่าไม่เหมาะสม
กรณีที่ตำรวจใช้กำลังมาดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมจนอาจเกิดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่นั้น พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า แม้กำลังตำรวจส่วนหนึ่งจะมาดูแลม็อบ แต่ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ซึ่งได้สั่งการให้ตำรวจที่ประจำการอยู่นั้นก็จะมีการให้เพิ่มเวลาในการทำงานมากขึ้น และตรวจตราให้เข้มงวดเหมือนเดิม
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่รอง ผบ.ตร.(มค.1) พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษกนครบาล พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. ในฐานะรองโฆษก ตร.กล่าวถึงการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินกลาง กรณีรัฐบาลเสนอยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 อันเป็นการกระทำเพื่อเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้อง
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุม เบื้องต้นรับรายงานว่าจะมีการยุติการชุมนุมในช่วงเช้าวันที่ 28 พ.ค. แต่มีการเปลี่ยนแปลงไม่ยุติการชุมนุม อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะยังมีการจับกุมแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน และจะมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉุกเฉินนั้น ตนขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีอย่างแน่นอน
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่ามีการเกณฑ์แม่ค้ารวมถึงประชาชนมาแจ้งความหลังจากได้รับความเดือนร้อนจากการชุมนุ นั้นยังไม่มีการเกณฑ์ แต่ทราบว่ามีประชาชนมาแจ้งความแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป แต่ที่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนคือ นักเรียนที่โรงเรียนตั้งอยู่ในละแวกใกล้เคียงได้รับผลกระทบจากการเดินทาง ซึ่งส่วนนี้จะมีการประสานแกนนำเพื่อเปิดทางจราจรบางส่วน เนื่องจากในช่วงเช้านั้นทราบว่ามีผู้ชุมนุมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มพันธมิตรจะมีการชุมนุมใหญ่ในวันศุกร์ ที่ 30 พ.ค.นี้ และอาจจะมีการเคลื่อนขบวนนั้น พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า ทราบว่าจะมีผู้ชุมนุมมาเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้รับรายงานการเคลื่อนขบวน ซึ่งส่วนนี้จะได้ประสานแกนนำอีกครั้ง แต่หากมีการเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมนั้นจะทำให้ตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัยได้อย่างลำบากและอาจเป็นโอกาสที่ผู้ไม่หวังดีหรือมือที่ 3 จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายได้ แต่หากจะมีการเคลื่อนขบวนไปยังสถานที่ที่เหมาะสมตำรวจก็ยินดี
ด้าน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีที่มีการเปิดเครื่องขยายเสียงกลบเสียงการปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า ช่วง 2 วันแรกการชุมนุมนั้นเป็นไปด้วยความปกติ แต่คืนที่ผ่านมานั้นทางกลุ่มพันธมิตรฯ ได้เพิ่มลำโพงอีก 7 ตัว และหันลำโพงออกมายังลานพระรูปทรงม้า ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม แม้จะมีการประสานไปยังแกนนำให้หันลำโพงกลับด้านอื่นแต่กลับไม่ได้รับการตอบรับ ตำรวจจึงจำเป็นต้องเปิดเครื่องขยายเสียงเพื่อกลบเสียงของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งการกระทำของตำรวจก็ถือเป็นการกระทำที่สมควร เพราะเสียงที่ดังไปทางลานพระรูปนั้นถือว่าไม่เหมาะสม
กรณีที่ตำรวจใช้กำลังมาดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมจนอาจเกิดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่นั้น พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า แม้กำลังตำรวจส่วนหนึ่งจะมาดูแลม็อบ แต่ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ซึ่งได้สั่งการให้ตำรวจที่ประจำการอยู่นั้นก็จะมีการให้เพิ่มเวลาในการทำงานมากขึ้น และตรวจตราให้เข้มงวดเหมือนเดิม