สน.ยานนาวา โชว์ฟอร์มบุกจู่โจมจับกุมตัว “วาติน วิวัฒน์จิรกาล” ในหมู่บ้านธนาศิริ นนทบุรี ฐานลักคอมพ์แมคอินทอช เพื่อใช้ออกแบบงานโฆษณา ราคากว่า 2 แสน จากบริษัทที่เจ้าตัวถูกเลิกจ้าง ขณะเข้าค้นบ้านพักพบบัตรประจำตัวปลอมเป็น จนท.กองปราบฯ และบัตรอำนวยความสะดวกของ สตช.มีภาพ-ลายเซ็น “วงกต” กำกับ ผู้ต้องหาสารภาพทำเพราะแค้นถูกเลิกจ้าง ส่วนบัตรอ้างรุ่นพี่ทำให้ไว้เบ่ง ด้าน ตร.ไม่ปักใจเชื่อควบคุมตัวดำเนินคดี
วันนี้ (23 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.พ.ต.ท.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รอง ผกก.สส.สน.ยานนาวา พ.ต.ต.วัชรพันธ์ ศิริพากย์ สว.สส.สน.ยานนาวา พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ยานนาวา ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายวาติน วิวัฒน์จิรกาล อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/55 หมู่บ้านธนาศิริ ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์แมคอินทอชสำหรับใช้ในงานออกแบบโฆษณา ยี่ห้อแอปเปิล 2 เครื่อง ราคาเครื่องละ 100,000 บาท บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองปราบปราม ฝ่ายป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 41 ระบุชื่อ ร.ต.ท.สนธิชัย สุวรรณศร แต่ไม่ระบุตำแหน่ง ซึ่งปลอมแปลงขึ้นมาจำนวน 7 ใบ บัตรอำนวยความสะดวกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีภาพถ่าย-ลายเซ็นกำกับของ พล.ต.ท.วงกต มณีรินทร์ สมัยดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร อีกจำนวน 1 ใบ และวิทยุสื่อสารยี่ห้อไอคอม 1 ตัว
พ.ต.ท.ชาญวิทย์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากทางเจ้าหน้าที่ บริษัท LOWE LIMITED ตั้งอยู่ที่ตึกเอ็มไพร์ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ว่า ตั้งแต่เวลา 17.00 น.ของวันที่ 30 เม.ย.จนถึงเวลา 13.00 น.ของวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเข้ามาลักเอาเครื่องคอมพิวเตอร์แมคอินทอช ยี่ห้อแอปเปิล จำนวน 2 ตัว ไปจากทางบริษัท จึงดำเนินการตรวจสอบจนพบว่า ช่วงวันเวลาดังกล่าว นายวาติน ซึ่งเป็นอดีตพนักงานฝ่ายออกแบบ ที่ถูกบอกเลิกจ้างไปแล้วโดยที่บริษัทไม่ต่อสัญญาให้ ได้ใช้คีย์การ์ดลักลอบเข้ามาภายในบริษัท นอกจากนี้ กล้องวงจรปิดของบริษัทยังสามารถบันทึกภาพของนายวาตินขณะเดินป้วนเปี้ยนอยู่ด้านในบริษัทเอาไว้ได้ จึงเชื่อว่า นายวาติน น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายไปของคอมพิวเตอร์ดังกล่าว
พ.ต.ท.ชาญวิทย์ กล่าวอีกว่า หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ยานนาวา จึงได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า นายวาติน พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ในเวลา 08.40 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่จึงขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อเข้าทำการตรวจค้นในบ้านหลังดังกล่าว ก็พบนายวาตินพร้อมของกลางทั้งหมดอยู่ในบ้าน จึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.ยานนาวา
จากการสอบปากคำ นายวาติน ให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่า เคยเป็นพนักงานฟรีแลนซ์ออกแบบโฆษณาของบริษัทดังกล่าว แต่ต่อมาทางบริษัทไม่ยอมต่อสัญญาเลิกว่าจ้างให้ตนจึงทำให้รู้สึกโกรธแค้น เลยวางแผนเข้าไปขโมยเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเป็นการแก้แค้น โดยนำมาเก็บไว้ที่บ้าน ไม่ได้นำไปขายแต่อย่างใด ส่วนบัตรประจำตัวตำรวจและบัตรอำนวยความสะดวกที่พบนั้น มีเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งที่อ้างตัวว่าชื่อ ร.ต.ท.สนธิชัย หรือ “หมวดนะ” สังกัดกองปราบปราม ซึ่งรู้จักกันสมัยลงไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ เป็นคนทำให้ โดยนำภาพถ่ายของตนไปลงมาแปะในบัตร ส่วนบัตรอำนวยความสะดวกที่ระบุชื่อ พล.ต.ท.วงกต นั้น ทางหมวดนะ บอกว่าเป็นนายของเขา หากมีใครรังแกให้ยื่นให้ดูได้เลย แต่ตนก็ไม่เคยนำออกมาใช้เบ่งอวดใครจึงเก็บเอาไว้ที่บ้านเท่านั้น
พ.ต.ท.ชาญวิทย์ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา เนื่องจากให้การมีพิรุธหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องคอมพิวเตอร์ที่ขโมยมานนั้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาได้นำคอมพิวเตอร์ ไปประกาศขายในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาถูกเลิกจ้างนั้น เป็นเพราะเจ้าตัวไม่ผ่านการประเมิน ทางบริษัทจึงไม่ต่อสัญญาว่าจ้างให้ นอกจากนี้ตัวผู้ต้องหายังมีหมายจับคดีลักทรัพย์ของ สน.ทุ่งมหาเมฆ และ สภ.เมืองนนทบุรี ซึ่งแต่ละที่ก็มีพฤติกรรมการก่อเหตุคล้ายๆ กัน ส่วนรายชื่อที่ระบุอยู่ในบัตรข้าราชการตำรวจกองปราบปราม ได้ทำการตรวจสอบไปทางต้นสังกัดแล้ว ปรากฏว่า นายตำรวจชื่อนี้ไม่มีตัวตนแต่อย่างใด จึงได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร และข้อหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (23 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.พ.ต.ท.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รอง ผกก.สส.สน.ยานนาวา พ.ต.ต.วัชรพันธ์ ศิริพากย์ สว.สส.สน.ยานนาวา พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ยานนาวา ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายวาติน วิวัฒน์จิรกาล อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/55 หมู่บ้านธนาศิริ ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์แมคอินทอชสำหรับใช้ในงานออกแบบโฆษณา ยี่ห้อแอปเปิล 2 เครื่อง ราคาเครื่องละ 100,000 บาท บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองปราบปราม ฝ่ายป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 41 ระบุชื่อ ร.ต.ท.สนธิชัย สุวรรณศร แต่ไม่ระบุตำแหน่ง ซึ่งปลอมแปลงขึ้นมาจำนวน 7 ใบ บัตรอำนวยความสะดวกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีภาพถ่าย-ลายเซ็นกำกับของ พล.ต.ท.วงกต มณีรินทร์ สมัยดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร อีกจำนวน 1 ใบ และวิทยุสื่อสารยี่ห้อไอคอม 1 ตัว
พ.ต.ท.ชาญวิทย์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากทางเจ้าหน้าที่ บริษัท LOWE LIMITED ตั้งอยู่ที่ตึกเอ็มไพร์ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ว่า ตั้งแต่เวลา 17.00 น.ของวันที่ 30 เม.ย.จนถึงเวลา 13.00 น.ของวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเข้ามาลักเอาเครื่องคอมพิวเตอร์แมคอินทอช ยี่ห้อแอปเปิล จำนวน 2 ตัว ไปจากทางบริษัท จึงดำเนินการตรวจสอบจนพบว่า ช่วงวันเวลาดังกล่าว นายวาติน ซึ่งเป็นอดีตพนักงานฝ่ายออกแบบ ที่ถูกบอกเลิกจ้างไปแล้วโดยที่บริษัทไม่ต่อสัญญาให้ ได้ใช้คีย์การ์ดลักลอบเข้ามาภายในบริษัท นอกจากนี้ กล้องวงจรปิดของบริษัทยังสามารถบันทึกภาพของนายวาตินขณะเดินป้วนเปี้ยนอยู่ด้านในบริษัทเอาไว้ได้ จึงเชื่อว่า นายวาติน น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายไปของคอมพิวเตอร์ดังกล่าว
พ.ต.ท.ชาญวิทย์ กล่าวอีกว่า หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ยานนาวา จึงได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า นายวาติน พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ในเวลา 08.40 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่จึงขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อเข้าทำการตรวจค้นในบ้านหลังดังกล่าว ก็พบนายวาตินพร้อมของกลางทั้งหมดอยู่ในบ้าน จึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.ยานนาวา
จากการสอบปากคำ นายวาติน ให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่า เคยเป็นพนักงานฟรีแลนซ์ออกแบบโฆษณาของบริษัทดังกล่าว แต่ต่อมาทางบริษัทไม่ยอมต่อสัญญาเลิกว่าจ้างให้ตนจึงทำให้รู้สึกโกรธแค้น เลยวางแผนเข้าไปขโมยเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเป็นการแก้แค้น โดยนำมาเก็บไว้ที่บ้าน ไม่ได้นำไปขายแต่อย่างใด ส่วนบัตรประจำตัวตำรวจและบัตรอำนวยความสะดวกที่พบนั้น มีเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งที่อ้างตัวว่าชื่อ ร.ต.ท.สนธิชัย หรือ “หมวดนะ” สังกัดกองปราบปราม ซึ่งรู้จักกันสมัยลงไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ เป็นคนทำให้ โดยนำภาพถ่ายของตนไปลงมาแปะในบัตร ส่วนบัตรอำนวยความสะดวกที่ระบุชื่อ พล.ต.ท.วงกต นั้น ทางหมวดนะ บอกว่าเป็นนายของเขา หากมีใครรังแกให้ยื่นให้ดูได้เลย แต่ตนก็ไม่เคยนำออกมาใช้เบ่งอวดใครจึงเก็บเอาไว้ที่บ้านเท่านั้น
พ.ต.ท.ชาญวิทย์ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา เนื่องจากให้การมีพิรุธหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องคอมพิวเตอร์ที่ขโมยมานนั้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาได้นำคอมพิวเตอร์ ไปประกาศขายในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาถูกเลิกจ้างนั้น เป็นเพราะเจ้าตัวไม่ผ่านการประเมิน ทางบริษัทจึงไม่ต่อสัญญาว่าจ้างให้ นอกจากนี้ตัวผู้ต้องหายังมีหมายจับคดีลักทรัพย์ของ สน.ทุ่งมหาเมฆ และ สภ.เมืองนนทบุรี ซึ่งแต่ละที่ก็มีพฤติกรรมการก่อเหตุคล้ายๆ กัน ส่วนรายชื่อที่ระบุอยู่ในบัตรข้าราชการตำรวจกองปราบปราม ได้ทำการตรวจสอบไปทางต้นสังกัดแล้ว ปรากฏว่า นายตำรวจชื่อนี้ไม่มีตัวตนแต่อย่างใด จึงได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร และข้อหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีต่อไป
