สาวลูกจ้างชั่วคราว ม.ราชภัฏชื่อดัง ดีกรี นศ.ปริญญาโท แจ้งจับ รศ.ที่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยเเพร่ภาพโป๊เปลือยของตนเองทั่วมหาวิทยาลัย ระบุเคยร้องอธิการฯ แล้วไม่เป็นผลอ้างต้องลาออกก่อน เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม
วันนี้ (17 พ.ค.) ที่ บก.ปดส.พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.ปดส. กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีที่ น.ส.บุ๋ม (นามสมมติ) อายุ 26 ปี นักศึกษาระดับปริญญาโทมหาวิทยาลัยราชภัฏชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และลูกจ้างชั่วคราวที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ยอมมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งถึงขั้นอยู่กินกับรองศาสตราจารย์ (รศ.) คนหนึ่งวัย 62 ปี ที่เป็นพ่อม่ายและเป็นอาจารย์สอนที่เดียวกัน ถูก รศ.คนดังกล่าวใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพโป๊ขณะเปลือยกายอยู่หน้ากระจกขณะกำลังแต่งตัวไปทำงาน แล้วภาพดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วมหาวิทยาลัยว่า ผู้เสียหายได้นำหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดีมามอบให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สอบปากคำผู้เสียหายถึงที่มาที่ไปของหลักฐานดังกล่าวเอาไว้แล้ว พร้อมกันนี้ยังได้กำชับให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานด้วยความละเอียดและรอบคอบ
พล.ต.ต.วิมล กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนเพิ่งได้สอบปากคำพยานบุคคลไปแล้วเพียง 2 ปาก แต่ก็ทำให้เห็นรูปคดีได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากเจตนาของคนที่นำรูปดังกล่าวของผู้เสียหายไปเผยแพร่ในลักษณะที่เหมือนกับต้องการให้เกิดความอับอายนั้น ย่อมต้องมีมูลเหตุจูงใจที่ทำลงไป ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายให้การว่า รศ.อดีตคนใกล้ชิดของตนเองเป็นผู้ที่ใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปขณะที่เปลือยกายอยู่ภายในห้องพักของตนเองนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีการออกหมายเรียก รศ.อดีตคนใกล้ชิดของผู้เสียหายเข้าให้ปากคำแต่อย่างใด เนื่องจากต้องใช้เวลาในการพิจาณาสำนวนอีกสักระยะจึงจะทราบว่าพนักงานสอบสวนจะเรียกตัว รศ.คนดังกล่าวมาในฐานะ เป็นผู้กระทำผิดหรือเป็นพยานในคดี
ด้าน รศ.คนดังกล่าวเปิดเผยว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วแต่ในขณะนี้ไม่ขอให้รายละเอียดที่อาจเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะไปกระทบกับการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้ที่นำรูปดังกล่าวไปเผยแพร่ เพราะไม่มีเหตุผลใดเลยที่ตนจะไปทำเช่นนั้น และหากทางตำรวจต้องการที่จะถามไถ่หรือเรียกให้ไปพบ ตนเองก็พร้อมให้ความร่วมมือ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.บุ๋ม (นามสมมติ) อายุ 26 ปี นักศึกษาระดับปริญญาโทมหาวิทยาลัยราชภัฏชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และยังทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวที่มหาวิทยาลัยแห่งเดียวกัน ยอมมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งถึงขั้นอยู่กินกับรองศาสตราจารย์ (รศ.) คนหนึ่งวัย 62 ปี ที่เป็นพ่อม่ายและเป็นอาจารย์สอนที่เดียวกัน ถูก รศ.คนดังกล่าวใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพโป๊ขณะเปลือยกายอยู่หน้ากระจกกำลังแต่งตัวไปทำงาน แล้วภาพดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วมหาวิทยาลัยเมื่อกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดย รศ.ปฏิเสธว่าไม่ทราบว่าภาพหลุดออกไปได้ยังไง แต่พอ น.ส.บุ๋ม ทำเรื่องร้องเรียนถึงอธิการบดีของมหาวิทยาลัยให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กลับได้รับแจ้งว่าต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยก่อนจึงจะดำเนินการให้ น.ส.บุ๋ม เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงเข้าร้องเรียนต่อมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ก่อนจะเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปดส.เพื่อดำเนินคดีกับคนที่เผยแพร่ภาพเปลือยดังกล่าว
วันนี้ (17 พ.ค.) ที่ บก.ปดส.พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.ปดส. กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีที่ น.ส.บุ๋ม (นามสมมติ) อายุ 26 ปี นักศึกษาระดับปริญญาโทมหาวิทยาลัยราชภัฏชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และลูกจ้างชั่วคราวที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ยอมมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งถึงขั้นอยู่กินกับรองศาสตราจารย์ (รศ.) คนหนึ่งวัย 62 ปี ที่เป็นพ่อม่ายและเป็นอาจารย์สอนที่เดียวกัน ถูก รศ.คนดังกล่าวใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพโป๊ขณะเปลือยกายอยู่หน้ากระจกขณะกำลังแต่งตัวไปทำงาน แล้วภาพดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วมหาวิทยาลัยว่า ผู้เสียหายได้นำหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดีมามอบให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สอบปากคำผู้เสียหายถึงที่มาที่ไปของหลักฐานดังกล่าวเอาไว้แล้ว พร้อมกันนี้ยังได้กำชับให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานด้วยความละเอียดและรอบคอบ
พล.ต.ต.วิมล กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนเพิ่งได้สอบปากคำพยานบุคคลไปแล้วเพียง 2 ปาก แต่ก็ทำให้เห็นรูปคดีได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากเจตนาของคนที่นำรูปดังกล่าวของผู้เสียหายไปเผยแพร่ในลักษณะที่เหมือนกับต้องการให้เกิดความอับอายนั้น ย่อมต้องมีมูลเหตุจูงใจที่ทำลงไป ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายให้การว่า รศ.อดีตคนใกล้ชิดของตนเองเป็นผู้ที่ใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปขณะที่เปลือยกายอยู่ภายในห้องพักของตนเองนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีการออกหมายเรียก รศ.อดีตคนใกล้ชิดของผู้เสียหายเข้าให้ปากคำแต่อย่างใด เนื่องจากต้องใช้เวลาในการพิจาณาสำนวนอีกสักระยะจึงจะทราบว่าพนักงานสอบสวนจะเรียกตัว รศ.คนดังกล่าวมาในฐานะ เป็นผู้กระทำผิดหรือเป็นพยานในคดี
ด้าน รศ.คนดังกล่าวเปิดเผยว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วแต่ในขณะนี้ไม่ขอให้รายละเอียดที่อาจเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะไปกระทบกับการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้ที่นำรูปดังกล่าวไปเผยแพร่ เพราะไม่มีเหตุผลใดเลยที่ตนจะไปทำเช่นนั้น และหากทางตำรวจต้องการที่จะถามไถ่หรือเรียกให้ไปพบ ตนเองก็พร้อมให้ความร่วมมือ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.บุ๋ม (นามสมมติ) อายุ 26 ปี นักศึกษาระดับปริญญาโทมหาวิทยาลัยราชภัฏชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และยังทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวที่มหาวิทยาลัยแห่งเดียวกัน ยอมมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งถึงขั้นอยู่กินกับรองศาสตราจารย์ (รศ.) คนหนึ่งวัย 62 ปี ที่เป็นพ่อม่ายและเป็นอาจารย์สอนที่เดียวกัน ถูก รศ.คนดังกล่าวใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพโป๊ขณะเปลือยกายอยู่หน้ากระจกกำลังแต่งตัวไปทำงาน แล้วภาพดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วมหาวิทยาลัยเมื่อกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดย รศ.ปฏิเสธว่าไม่ทราบว่าภาพหลุดออกไปได้ยังไง แต่พอ น.ส.บุ๋ม ทำเรื่องร้องเรียนถึงอธิการบดีของมหาวิทยาลัยให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กลับได้รับแจ้งว่าต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยก่อนจึงจะดำเนินการให้ น.ส.บุ๋ม เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงเข้าร้องเรียนต่อมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ก่อนจะเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปดส.เพื่อดำเนินคดีกับคนที่เผยแพร่ภาพเปลือยดังกล่าว
