“เกรียงชัย” เตรียมส่งข้อโต้แย้งอำนาจ คตส.คดีหวยบนดินให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ

“รักเกียรติ” ส่งคำร้องคดีหวยบนดิน กรณีข้อโต้แย้งเรื่องอำนาจของ คตส.จะขัดบทบัญญติรัฐธรรมนูญ ให้ “เกรียงชัย” พิจารณาเตรียมส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้ว คาดภายในสัปดาห์นี้จะถึงมือศาลรัฐธรรมนูญ


วันนี้ (15 พ.ค.) นายรักเกียรติ วัฒนพงษ์ เลขานุการแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กล่าวถึงการส่งคำร้องจำเลยที่ 31-47 คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 และ 3 ตัว (หวยบนดิน) โต้แย้งเรื่องอำนาจคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ตามประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 และการต่ออายุ คตส.ว่า ขัดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ว่า ขณะนี้ตนได้ทำหนังสือตามคำสั่งขององค์คณะผู้พิพากษา เสนอ นายเกรียงชัย จึงจตุรพิธ ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา พิจารณาเพื่อลงชื่อส่งหนังสือให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว โดยคาดว่าจะส่งหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญได้ภายในสัปดาห์นี้

นายรักเกียรติ กล่าวว่า ที่องค์คณะผู้พิพากษามีคำสั่งส่งเรื่องที่จำเลยโต้แย้งเกี่ยวกับอำนาจ คตส.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 211 ที่ระบุว่า ถ้าศาลเห็นเอง หรือคู่ความโต้แย้งด้วยเหตุว่ากฎหมายใด ขัดต่อมาตรา 6 และยังไม่มีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญให้ศาลส่งความเห็นเพื่อศาลรัฐธรรมนูญจะได้วินิจฉัย ซึ่งระหว่างนั้นศาลจะดำเนินการพิจารณาต่อไปได้ แต่ให้รอการพิพากษาคดีไว้ชั่วคราวจนกว่าจะมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ โดยคดีนี้เมื่อศาลยังไม่ได้มีคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่ แล้วจำเลยได้ยื่นคำร้องโต้แย้งว่า ประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ซึ่งให้อำนาจ คตส.สอบสวน และการต่ออายุ คตส.ขัดต่อ รธน.เมื่อศาลเห็นข้อโต้แย้งนั้นแล้ว และเรื่องนั้นไม่เคยมีคำวินิจฉัยโดยศาลรัฐธรรมนูญมาก่อน ศาลฎีกาฯ ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายส่งเรื่องให้วินิจฉัย

“เมื่อคู่ความโต้แย้ง และศาลเห็นข้อโต้แย้งแล้ว ไม่ยอมส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่ศาลยังจะมีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีไว้ก่อน ถ้าศาลรัฐธรรมนูญกลับวินิจฉัยในภายหลังว่า เรื่องของ คตส.ขัดต่อ รธน.แล้ว ศาลไม่อาจรับคำฟ้องไว้พิพากษาได้ คดีต้องถูกยกฟ้องไปเพราะ คตส.ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลฎีกาฯ จะถูกมองอย่างไร ต้องเข้าใจว่าการโต้แย้ง คตส.เป็นเรื่องที่คู่ความมีสิทธิ์ยื่นเข้ามาให้ศาลพิจารณา แต่เมื่อการจะวินิจฉัยว่าขัดหรือไม่ขัด รธน.ไม่ใช่หน้าที่ของศาลฎีกาฯ เป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ศาลก็ต้องส่งเรื่องให้วินิจฉัย” นายรักเกียรติ กล่าว

นอกจากนี้ นายรักเกียรติ ชี้แจงว่า การพิจารณาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ไม่เกี่ยวว่าเป็นเรื่องของจำเลยคนใด ยกขึ้นมาโต้แย้ง แต่สำคัญว่าเมื่อจำเลยโต้แย้งแล้วศาลก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งการพิจารณาคดีของศาลต้องทำทุกอย่างที่จะไม่ให้ขัดกับกฎหมายใดๆ

เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญตีความเรื่องนี้ว่า ขัดต่อ รธน.แล้วจะมีผลต่อคดีทุจริตที่ดินรัชดาภิเษก ซึ่งมี คตส.เป็นผู้ไต่สวนและสรุปสำนวนหรือไม่ นายรักเกียรติ กล่าวว่า คดีดังกล่าว ศาลฎีกาฯ สั่งประทับรับคำฟ้องไว้ โดยก่อนศาลจะมีคำสั่งจำเลยไม่ได้ยื่นคำร้องโต้แย้งเรื่องขัดหรือไม่ขัด รธน.มาตรา 6 ดังนั้น ศาลจึงดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไปได้ แต่หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับอำนาจ คตส.คดีหวยบนดินแล้ว ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งว่าองค์คณะผู้พิพากษา จะนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มาพิจารณาประกอบแล้วจะมีคำพิพากษาออกมาอย่างไร