ศาลแรงงาน รับฟ้องนัดสืบพยานจำเลย 23 มิ.ย. โจทก์ 14 ก.ค.คดีอดีตครูสอนวิชาสังคมดีเด่น ฟ้อง “สาโรจน์ ลีสวรรค์” ผู้บังคับการโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย เลิกจ้างไม่เป็นธรรม อ้างไม่เหมาะกับตำแหน่ง แถมจ่ายชดเชยแสนกว่า ทำให้เดือดร้อนไม่พอกิน ขณะที่ ลูกศิษย์-ผู้ปกครอง แห่ให้กำลังใจ พูดเสียงเดียวกัน ครูเป็นคนดี ได้รางวัลคูรดีเด่นการันตี 2 ปีซ้อน
วันนี้ (6 พ.ค.) ที่ศาลแรงงานกลาง ถนนพระราม 4 ศาลนัดพร้อมคู่ความในคดีที่ น.ส.ชญาณิน โพธิ์แสงดา หรือ ครูปุ้ม อายุ 36 ปี อดีตครูสอนวิชาสังคมศึกษา โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสาโรจน์ ลีสวรรค์ ผู้บังคับการโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย เป็นจำเลย ฐานฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงาน กรณีเลิกจ้างโจทก์โดยอ้างไม่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งในโรงเรียน และจ่ายชดเชยให้เพียง 126,541.67 บาท ทำให้โจทก์ขาดรายได้ประจำ พร้อมขอให้จ่ายค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม จำนวน 200,000 บาท
โดยในวันนี้ (6 พ.ค.) นายสาโรจน์ มอบหมายให้ผู้รับมอบอำนาจเดินทางมาศาล โดยศาลให้คู่ความเจรจาไกล่เกลี่ยประนีประนอมยอมความกัน ตัวแทนฝ่ายจำเลยแถลงว่ายินยอมที่จะชดใช้เงินค่าเสียหายให้โจทก์จำนวน 200,000 บาท ตามฟ้อง โดยไม่ประสงค์ที่จะรับโจทก์เข้ามาทำงานสอนหนังสือในโรงเรียนอีก ขณะที่ฝ่ายโจทก์ แถลงว่า โจทก์ยังไม่ทราบว่าคดีที่เกิดขึ้นโจทก์ถูกหรือผิดอย่างใด จึงไม่สามารถรับเงินได้ และประสงค์ให้ศาลดำเนินกระบวนการสืบพยานโจทก์-จำเลย เพื่อพิสูจน์ความจริง
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คู่ความทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ จึงกำหนดประเด็นนำสืบรวม 2 ประเด็น คือ 1.จำเลยเลิกจ้างโจทก์เป็นธรรมหรือไม่ และ 2.โจทก์ได้รับความเสียหายจากการเลิกจ้างของโจทก์หรือไม่เพียงใด โดยฝ่ายจำเลยแถลงขอนำพยานจำนวน 14 ปาก ซึ่งจะขอนำสืบก่อนจำนวน 6 ปาก ส่วนฝ่ายโจทก์แถลงขอนำพยานเข้าเบิกความปากเดียว คือ นายชัยอนันต์ สมุทวานิช อดีตผู้บัญชาการวชิราวุธวิทยาลัย โดยศาลนัดสืบพยานจำเลยก่อนจำนวน 2 นัด ในวันที่ 23 มิ.ย.และ 7 ก.ค.และนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 14 ก.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้มีลูกศิษย์ครูปุ้ม ทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งผู้ปกครองกว่า 40 คน เดินทางมาร่วมให้กำลังใจจนล้นห้องพิจารณาคดี โดยส่วนใหญ่กล่าวไปในทางเดียวกันว่าครูปุ้มเป็นครูที่ดี สอนหนังสือดี จนได้รับการประเมินเป็นครูดีเด่นถึง 2 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2548-2550