ฆ่าถ่วงน้ำชายนิรนามมัดศพโยนลงคลองภาษีเจริญ!

คนร้ายฆ่าชายนิรนามแล้วมัดด้วยท่อปูนโยนถ้วงน้ำในคอลงภาษีเจริญ ตำรวจยังไม่ทราบสาเหตุ

วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.ท.ทรงยศ ทองแท้ พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.หนองแขม รับแจ้งพบศพชายลอยอยู่ในคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ หลังวัดทองเนียม แขวงและเขตหนองแขม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.สมโมท พุ่มไพบูลย์ สวป.สน.หนองแขม เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลศิริราช และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่ใต้สะพานทางเดินเท้าเลียบคลองดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบศพชาย 1 ราย อายุประมาณ 30-35 ปี สูงประมาณ 160-165 ซม.ลอยอยู่ในน้ำในสภาพหงายหน้า สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นสีครีม ไม่สวมกางเกงใน มีผ้าห่มสีเขียวและสีแดงลายดอก 2 ผืนห่อลำตัวไว้ ด้านหลังศพมีท่อปูนระบายน้ำ 1 ท่อน ขนาดความยาว 1.5 เมตร ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 20 ซม.ซึ่งใช้สายไฟฟ้าสีขาวและสายโทรศัพท์สีดำ มัดติดไว้ที่เอวจำนวนหลายรอบ แขนทั้งสองข้างและต้นคอสักยันต์รูปอักขระตัวหนังสือสีแดง ส่วนที่ขาทั้ง 2 ข้างถูกมัดด้วยริบบิ้นสีชมพู 1 เส้น ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลคล้ายถูกของมีคมฟันที่ริมฝีปากล่างด้านขวา 1 แผล นอกจากนั้นที่ใบหน้าและศีรษะมีรอยช้ำคล้ายถูกของแข็งตีอีกหลายแห่ง และไม่พบหลักฐานว่าผู้ตายเป็นใคร เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 วัน

จากการสอบสวนนายเฉลิม วรรคแป้น อายุ 56 ปี คนงานก่อสร้างหมู่บ้านเบญจพรใกล้ที่เกิดเหตุ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุตนพาหลานมาเดินเล่นริมคลอง จากนั้นก็พบศพลอยอยู่ในน้ำบริเวณใต้สะพานทางเดินจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ

ส่วนสามเณรของวัดทองเนียม กล่าวว่า เมื่อช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากรับพรจากท่านเจ้าอาวาสแล้วก็จะไปจำวัดในกุฏิ จากนั้นก็ได้ยินเสียงดังคล้ายคนทะเลาะกันบริเวณดังกล่าวแล้วก็เงียบหายไป ครั้งแรกคิดว่าผีหลอกแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งมีคนมาพบศพ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องเดียวกันกับคืนที่ได้ยินเสียงทะเลาะกันหรือไม่

ด้าน พ.ต.ท.ทรงยศ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นสันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะเป็นพวกคนงานก่อสร้างที่ถูกคนร้าย ซึ่งคาดว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 คนรุมฆ่าตายมาจากที่อื่น จากนั้นก็ได้ช่วยกันเอาท่อน้ำมามัดติดกับศพแล้วนำมาโยนทิ้งลงคลองเพื่อเป็นการถ่วงน้ำไม่ให้ศพลอยขึ้นมา แต่ปรากฏว่าหลังจากศพขึ้นอืดก็เลยลอยขึ้นมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบว่า ผู้ตายเป็นใครมาจากไหน เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป