ตำรวจ 191 รวบหนุ่มใหญ่ชาวบังกลาเทศ พร้อมของกลางหนังสือเดินทางประเทศต่างๆ กว่า 500 เล่ม วีซ่าปลอม 680 เเผ่น อุปกรณ์ปลอมแปลงอีกเพียบ สารภาพร่วมกับเพื่อนชาวพม่ารับปลอมหนังสือเดินทางได้ค่าจ้างเล่มละ 3-4 พันบาท ตร.เผยประวัติเคยถูกจับคดีเดียวกันนี้มาแล้วถึง 2 ครั้งแต่ไม่หลาบจำ เตรียมขยายผลเอาผิดตามกฎหมายฟอกเงิน
วันนี้ (27 เม.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (ตปพ.) หรือ 191พล.ต.ต.จักทิพย์ ชัยจินดา ผบก.ตปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบก.ตปพ. พ.ต.อ.สุมิตร คุณานุคุณ ผกก.1 บก.ตปพ. พ.ต.ท.ภาสกร สถิตย์ยุทธการ และพ.ต.ท.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผกก.1 บก.ตปพ. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายโมฮัมเหม็ด การิม อายุ 56 ปี สัญชาติบังกลาเทศ พร้อมของกลาง หนังสือเดินทางประเทศต่างๆ จำนวน 90 เล่ม หนังสือเดินทางปลอมประเทศต่างๆ จำนวน 577 เล่ม แผ่นปะตรวจดวงตราปลอม (วีซ่าปลอม) ของประเทศต่างๆ จำนวน 680 แผ่น แผ่นหนังสือเดินทางปลอมของประเทศสหรัฐเอเมริกา จำนวน 1,680 แผ่น จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อแอลจี 1 เครื่อง เครื่องพริ้นเตอร์ จำนวน 2 เครื่อง เครื่องสแกนเนอร์ยี่ห้อแคนนอน จำนวน 1 เครื่อง และอุปกรณ์ทำหนังสือเดินทางปลอมอื่นๆ อีก 399 รายการ
พล.ต.ต.จักรทิพย์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.ประเดิม จินดาวัฒนาภิรมย์ สว.งานสายตรวจ 3 กก.1 พร้อมพวกได้รับคำสั่งให้ทำการสืบสวนจับกุมชาวต่างชาติที่ลักลอบปลอมหนังสือเดินทางของประเทศต่างๆ ในพื้นที่ กทม. กระทั่งสืบทราบว่านายโมฮัมเหม็ด ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 104/37 ถ.เพชรเกษม 63 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. มีพฤติการณ์ลักลอบปลอมหนังสือเดินทางให้กับลูกค้าชาวต่างชาติ โดยได้มาเช่าบ้านเลขที่ 388/87 หมู่2 ถ.เพชรเกษมซอย 62/3 แขวงและเขตบางแค กทม. เป็นสถานที่ทำหนังสือเดินทางปลอม รวมทั้งเก็บวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดตลิ่งชัน ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายค้นเลขที่ ค.210/2551 ลงวันที่ 25 เม.ย.2551 เข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว และพบของกลางอยู่ในห้องบริเวณชั้น 2 จึงควบคุมตัวนายโมฮัมเหม็ดมาทำการสอบปากคำ
จากการสอบสวน นายโมฮัมเหม็ดให้การรับสารภาพว่าได้การปลอมแปลงหนังสือเดินทางจริง โดยของกลางทั้งหมดเป็นของตนเองกับเพื่อน ชื่อนายถิ่นอู สัญชาติพม่า หรือชื่อไทยที่ใช้ระบุในบัตรประชาชนปลอมว่า นายสมชาย ทินวงศ์ อายุ 56 ปี ซึ่งได้หลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้น โดยตนทั้งคู่ได้รับทำหนังสือเดินทางปลอมในราคาเล่มละ 3,000-4,000 บาท ให้แก่ชาวต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนังสือเดินทางปลอมของประเทศสเปน ฝรั่งเศส และเบลเยียม โดยที่ทำเพราะต้องการหาเงินซื้อบ้านให้กับภรรยาคนไทยที่แต่งงานอยู่กินด้วยกัน
พล.ต.ต.จักทิพย์ กล่าวด้วยว่า ผู้ต้องหารายนี้เคยถูกจับกุมในข้อหาปลอมแปลงหนังสือเดินทางมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อปี 2546 และ 2549 แต่ครั้งนี้ได้ของกลางมากกว่า ซึ่งถือว่ามากที่สุดตั้งแต่ประกาศใช้กฎหมายใหม่เพิ่มโทษผู้กระทำผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามจับกุมนายติ่นอู หรือนายสมชายมาดำเนินคดี ขณะเดียวกันจะขยายผลว่ากรณีนี้เข้าข่ายกฎหมายฟอกเงินหรือไม่ สำหรับนายโมฮัมเหม็ด เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันปลอมหนังสือเดินทาง หรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งหนังสือเดินทางตามมาตรา 269/8 และร่วมกันปลอมขึ้นซึ่งดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะลงตราอันใช้ในการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ ตามมาตรา 269/2 ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมกลางให้พนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
