โจรแสบ... หัวใสคิดกลวิธีโจรกรรมรถ ตัดต่อต่อตัวถัง พ่นสีใหม่ เปลี่ยนสมองกลของรถ พรางตาตร.ให้สะดุดสางคดีแชร์รถเช่าได้ช้าลง พร้อมประสานขนส่ง เข้าตรวจทะเบียนรถเอกสารการครอบครอง วอนประชาชนอย่าหลงเชื่อกลุ่มฉ้อโกงหลอกเงินตามหารถที่หาย เพราะไม่มีผลตอบแทนใดที่ได้รับประโยชน์ที่สูง ต้องแจ้งความต่อจนท.เท่านั้น
วันนี้ (26 เม.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.อ. ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรัมพร สุระมณี รอง ผบช.ก.หัวหน้าชุดปฏิบัติการเพื่อเร่งรัดติดตามรถยนต์ที่ถูกฉ้อโกง พร้อมด้วย พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.บก.ป พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒนธกุล ผกก.ฝป.10 บก.ป. พ.ต.ท.พิษณุ อุณหะเสวี รอง ผกก.ฝป.10 บก.ป พ.ต.ต.สุทธิเวช บุญยะกรินทร์ สว.ฝป.10 บก.ป. เจ้าหน้าที่กองปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนนครบาล ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมคดีแชร์รถเช่า มีรถของกลางที่ยึดได้ จำนวน 12 คัน แบ่งเป็นพื้นที่ สน.มีนบุรี จำนวน 9 คัน สน.นิมิตรใหม่ 1 คัน และ สน.พญาไท อีก 2 คัน
พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า จำนวนรถยนต์ที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ขณะนี้ จำนวน 118 คัน จากยอดรวม 1,142 คัน ยังเหลืออีกประมาณ 900 กว่า ซึ่งกำลังติดตามอยู่ และขณะนี้มีเบาะแสจากประชาชนที่แจ้งข้อมูลเข้ามาและได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจสอบแล้ว โดยกลุ่มคนร้ายมีการพัฒนาไปถึงขั้นการโจรกรรมรถ คือ มีการตัดต่อตัวถัง พ่นสีรถทับจากของเดิม การเปลี่ยนสมองกลของรถ ซึ่งเหมือนกับการโจรกรรมรถ ซึ่งก็จะพยายามที่จะติดตามรถให้ได้มากที่สุด
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานงานกับขนส่งเพื่อทำการตรวจสอบ รวมไปถึงการจดทะเบียนรถ การทำเอกสารการจดทะเบียน และประสานงานกับศูนย์รถต่างๆ ซึ่งบางคันก็ได้ใช้เวลาในการติดตามเป็นเวลานาน และอยากฝากเตือนประชาชนว่า ถ้าคิดว่าตัวเองไม่แน่ใจว่ารถที่ตนเองครอบครองอยู่ว่าผิดกฏหมายหรือไม่ ขอให้นำรถมาตรวจสอบกับทางเจ้าหน้าที่ได้ และขณะนี้ได้ตรวจสอบการเช่าซื้อรถ ตามที่ต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของ สวป. สน.พหลโยธิน ได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ในส่วนของ สวป.สน.พหลโยธิน นั้นมีพยานหลักฐานและได้ส่งฟ้องไปแล้ว
“ขณะนี้เรามีเบาะแสจากประชาชนว่ามีรถหลายคันที่หายไปอยู่ในกรมกองต่างๆ ในเขตทหาร เราก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจสอบ ซึ่งล่าสุดเราได้เบาะแสว่าอยู่ภายในกรมทหารราบที่11 รักษาพระองค์ (ถ.พหลโยธิน) เราได้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมประสานงานกับทหาร ได้ร่วมกันทำการตรวจสอบ เมื่อทำการตรวจสอบแล้วแต่ไม่พบรถต้องสงสัยแต่อย่างใด” พล.ต.อ.ธานี กล่าว
พล.ต.อ.ธานี กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนระมัดระวังอย่าหลงเชื่อว่าไม่มีผลตอบแทนใดที่ได้รับประโยชน์ที่สูง และอย่าหลงเชื่อ ใครก็ตามที่แอบอ้างว่าสามารถที่จะติดตามรถที่หายไปและสามารถที่จะติดตามมาได้ และขอค่าเสียเวลาครั้งละหลายหมื่นบาท ซึ่งอาจจะโดนหลอกได้ และขอให้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่โดยตรงเพื่อให้ช่วยติดตามรถที่หายคืน ซึ่งล่าสุดผู้ต้องหาที่จับกุมมาได้ทั้งหมดได้ดำเนินการส่งฟ้องหมดแล้ว ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
วันนี้ (26 เม.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.อ. ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรัมพร สุระมณี รอง ผบช.ก.หัวหน้าชุดปฏิบัติการเพื่อเร่งรัดติดตามรถยนต์ที่ถูกฉ้อโกง พร้อมด้วย พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.บก.ป พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒนธกุล ผกก.ฝป.10 บก.ป. พ.ต.ท.พิษณุ อุณหะเสวี รอง ผกก.ฝป.10 บก.ป พ.ต.ต.สุทธิเวช บุญยะกรินทร์ สว.ฝป.10 บก.ป. เจ้าหน้าที่กองปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนนครบาล ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมคดีแชร์รถเช่า มีรถของกลางที่ยึดได้ จำนวน 12 คัน แบ่งเป็นพื้นที่ สน.มีนบุรี จำนวน 9 คัน สน.นิมิตรใหม่ 1 คัน และ สน.พญาไท อีก 2 คัน
พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า จำนวนรถยนต์ที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ขณะนี้ จำนวน 118 คัน จากยอดรวม 1,142 คัน ยังเหลืออีกประมาณ 900 กว่า ซึ่งกำลังติดตามอยู่ และขณะนี้มีเบาะแสจากประชาชนที่แจ้งข้อมูลเข้ามาและได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจสอบแล้ว โดยกลุ่มคนร้ายมีการพัฒนาไปถึงขั้นการโจรกรรมรถ คือ มีการตัดต่อตัวถัง พ่นสีรถทับจากของเดิม การเปลี่ยนสมองกลของรถ ซึ่งเหมือนกับการโจรกรรมรถ ซึ่งก็จะพยายามที่จะติดตามรถให้ได้มากที่สุด
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานงานกับขนส่งเพื่อทำการตรวจสอบ รวมไปถึงการจดทะเบียนรถ การทำเอกสารการจดทะเบียน และประสานงานกับศูนย์รถต่างๆ ซึ่งบางคันก็ได้ใช้เวลาในการติดตามเป็นเวลานาน และอยากฝากเตือนประชาชนว่า ถ้าคิดว่าตัวเองไม่แน่ใจว่ารถที่ตนเองครอบครองอยู่ว่าผิดกฏหมายหรือไม่ ขอให้นำรถมาตรวจสอบกับทางเจ้าหน้าที่ได้ และขณะนี้ได้ตรวจสอบการเช่าซื้อรถ ตามที่ต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของ สวป. สน.พหลโยธิน ได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ในส่วนของ สวป.สน.พหลโยธิน นั้นมีพยานหลักฐานและได้ส่งฟ้องไปแล้ว
“ขณะนี้เรามีเบาะแสจากประชาชนว่ามีรถหลายคันที่หายไปอยู่ในกรมกองต่างๆ ในเขตทหาร เราก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจสอบ ซึ่งล่าสุดเราได้เบาะแสว่าอยู่ภายในกรมทหารราบที่11 รักษาพระองค์ (ถ.พหลโยธิน) เราได้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมประสานงานกับทหาร ได้ร่วมกันทำการตรวจสอบ เมื่อทำการตรวจสอบแล้วแต่ไม่พบรถต้องสงสัยแต่อย่างใด” พล.ต.อ.ธานี กล่าว
พล.ต.อ.ธานี กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนระมัดระวังอย่าหลงเชื่อว่าไม่มีผลตอบแทนใดที่ได้รับประโยชน์ที่สูง และอย่าหลงเชื่อ ใครก็ตามที่แอบอ้างว่าสามารถที่จะติดตามรถที่หายไปและสามารถที่จะติดตามมาได้ และขอค่าเสียเวลาครั้งละหลายหมื่นบาท ซึ่งอาจจะโดนหลอกได้ และขอให้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่โดยตรงเพื่อให้ช่วยติดตามรถที่หายคืน ซึ่งล่าสุดผู้ต้องหาที่จับกุมมาได้ทั้งหมดได้ดำเนินการส่งฟ้องหมดแล้ว ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน