นครบาลใช้แผน “กรกฎ 48” คู่ “มกรา 50” ระดมกำลังเข้มกว่าพันนาย ดูแลตลอดเส้นทางวิ่งไฟโอลิมปิก เน้นจุดเสี่ยง จุดอับ จุดล่อแหลม ไม่หวั่นหลายกลุ่มจ้องล้ม เชื่อไม่มีเหตุการณ์รุนแรง
วันนี้ (18 เม.ย.)ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. กล่าวถึงแผนรักษาความสงบและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก 2008 โดยมีการนำแผนกรกฎ 48 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และแผนมกรา 50 ซึ่งเป็นแผนรักษาความปลอดภัยพื้นที่กรุงเทพมหานคร ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยจะมีการดูแลเส้นทางการจัดวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก 2008 ในประเทศไทย วันที่ 19 เมษายนนี้ เวลา 15.00 น. เริ่มต้นจากวงเวียนซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ถนนเยาวราช ถนนมหาไชย ถนนเจริญกรุง ถนนสนามไชย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ถนนสวรรคโลก ถนนราชวิถี ถนนอู่ทองใน และสิ้นสุดที่บริเวณลานพระราชวังดุสิต หรือลานพระบรมรูปทรงม้า รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 11 กิโลเมตร โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรดูแลความเรียบร้อยตลอดเส้นทางประมาณ 500 นาย นอกจากนี้ยังมีกองร้อยควบคุมฝูงชน จาก บก.น.1 จำนวน 75 นาย กองร้อยร้อยควบคุมฝูงชน บก.ตปพ.จำนวน 150 นาย เตรียมพร้อม ณ ที่ตั้ง ส่วนในพื้นที่นั้นมีกำลังเจ้าหน้าที่จาก บก.น.1-9 ทั้งในและนอกเครื่องแบบ กำลังจาก บก.ตปพ. เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตุระเบิดอีกประมาณ 500 นาย
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลจะดำเนินการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก 2008 ให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องจัดกำลังรักษาความปลอดภัยตามเส้นทางการวิ่งคบเพลิง ให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ เน้นความสำคัญ และเพิ่มความเข้มในการสืบสวนดำเนินการด้านการข่าว ติดตามพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด โดเฉพาะกลุ่มหรือขบวนการที่มีความคิดทางการเมืองในทางตรงกันข้ามกับรัฐบาลจีน โดยเฉพาะกลุ่มฟาหลุนกง กลุ่มชาวทิเบตที่สนับสนุนกรณีแยกทิเบตเป็นอิสระ และกลุ่มบุคคลที่ต่อต้านการกระทำของรัฐบาลจีนที่เข้าปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมชาวทิเบต ซึ่งอาจจะการก่อเหตุรุนแรงเพื่อให้กิจกรรมการวิ่งคบเพลิง หรือขณะที่นักกีฬากำลังวิ่งคบเพลิง หรือกระทำการใดๆ เพื่อให้กิจกรรมการวิ่งคบเพลิงต้องยุติลง หรือไม่สำเร็จ หรือชูป้ายประท้วง หรือกระทำการใดๆ เพื่อให้รัฐบาลจีนได้รับความอับอาย
“นอกจากนี้จะกำชับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบกวดขันตรวจตราพื้นที่ในเขตรับผิดชอบไม่ให้มีข้อความแสดงการต่อต้าน เน้นอาคารสถานที่ซึ่งสามารถใช้เป็นที่พัก ใช้แสดงข้อความซึ่งมีความหมายในทางเสียหย หรือใช้ดำเนินการอื่นใด ที่เอื้อประโยชน์ต่อกิจกรรมของบุคคลหรือกลุ่มบุคคล รวมถึงการตรวจตรากลุ่มบุคคลต้องสงสัยอย่างเข้มงวดด้วย โดยให้ตรวจตราตลอดเส้นทางการวิ่งคบเพลิง สถานที่พักบุคคลสำคัญ เจ้าหน้าที่ สื่อมวลชน คณะนักกีฬา และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค หรือสถานที่อื่นๆ ที่คณะจัดวิ่งคบเพลิงร้องขอเป็นกรณีพิเศษ นอกจากนี้ยังให้มีการสำรวจจัดทำแผนที่ แผนผัง เส้นทาง เข้า ออก บริเวณพื้นที่ จอดรถ และพื้นที่โดยรอบอย่างละเอียด จัดทำแผนเผชิญเหตุ แผนป้องกันอุบัติภัยเฉพาะพื้นที่ กำหนดจัดทำแผนระดมป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และปราบปรามผู้หลบหนีเข้าเมืองในเขตพื้นที่รับผิดชอบ” ผบช.น. กล่าว
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่ออีกว่า ส่วนมาตราการการรักษาความปลอดภัยบริเวณเส้นทางการวิ่งคบเพลิง ให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่ล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง และเข้าตรวจสอบซ้ำอีกครั้งในวันจริง โดยวางกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบเพื่อรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทางการวิ่งคบเพลิง และให้เน้นพื้นที่แหล่งชุมชน จุดอับ จุดล่อแหลม โดยเน้นให้ทุกหน่วยปฏิบัติตามแผนการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด และหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือการก่อความไม่สงบขึ้น ให้ทุกหน่วยดำเนินการตามแผนมกรา 50 และให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และพยายามไม่ให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกเป็นอันขาด นอกจากนี้ยังจัดกำลังเจ้าหน้าที่ ชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดและชุดสุนัขตำรวจ เข้าตรวจสอบทุกพื้นที่ตั้งแต่จุดเริ่มต้นวิ่งคบเพลิงจนถึงจุดสิ้นสุด รวมถึงจุดเสี่ยง จุดล่อแหลม
“ส่วนบริเวณโดยรอบโรงแรมพลาซ่า แอทธินี และพื้นที่ต่อนื่อง ให้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทุกพื้นที่อย่างละเอียด โดยให้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยบุคคลและพื้นที่ภายในโรงแรมอย่างใกล้ชิด ส่วนพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มความเข้มของเจ้าหน้าที่สายตรวจในการตรวจตราพื้นที่โดยรอบโรงแรม และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ฯ และสุนัขตำรวจ เข้าตรวจสอบพื้นที่อย่างเข้มงวดอีกด้วย เชื่อว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน” ผบช.น. กล่าว
วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผบช.ส.กล่าวถึงการติดตามความเคลื่อนไหวด้านการข่าวของกลุ่มฟาหลุนกง และกลุ่มทิเบตที่จะมาป่วนการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกว่า วันนี้ได้ประชุมร่วมกับทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก ทางกองบัญชาการตำรวจสันติบาลได้รับมอบหมายให้ดูแลกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ อย่างกลุ่มฝาหลุนกง ที่จะมีการชุมนุมเพื่อป่วนการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก ซึ่งจากการประเมินทางด้านการข่าวพบว่ากลุ่มฝาหลุนกงจะมีการรวมตัวกันที่หน้าองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ช่วงเวลา 05.00 น.ของวันพรุ่งนี้ โดยคาดว่าน่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 100 คน แต่จากการประเมินด้านการข่าวดูแล้วไม่น่าจะมีอะไรรุนแรง ไม่น่าจะมีการปะทะ เป็นการรวมตัวถือป้ายประท้วงเพื่อหวังเป็นข่าวกันทั่วโลกมากกว่าให้เกิดความรุนแรง กลุ่มนี้ต้องการให้ทั่วโลกเห็นว่ากลุ่มมีความเคลื่อนไหว มีการทำกิจกรรมทำ
“ส่วนกลุ่มทิเบตจะมีการเคลื่อนไหวทำกิจกรรมที่ถนนข้าวสารในคืนนี้ เป็นการแสดงละครเหตุการณ์จำลอง ซึ่งจากการข่าวแล้วคงมีคนร่วมกิจกกรรมไม่มากและคงไม่มีความรุนแรง แต่เราก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปติดตามอย่างใกล้ชิด ทางตำรวจนครบาลเองก็เตรียมกำลังดูแลอย่างเต็มที่อยู่แล้ว นอกจาก 2 กลุ่มนี้แล้วก็มีกลุ่มเคลื่อนไหวอื่นๆ อย่างกลุ่มเอ็นจีโอ เกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชนที่ประท้วงประเทศจีนอยู่แล้ว กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองประท้วงรัฐบาล ซึ่งเราได้จับตาดูแต่ละกลุ่มอย่างใกล้ชิด ซึ่งยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง” ผบช.ส.กล่าว
พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การวิ่งคบเพลิงในวันพรุ่งนี้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบบาล ได้เตรียมการป้องกันไว้หมดแล้ว หากกลุ่มเหล่านี้เข้าไปทำให้เกิดความวุ่นวายในการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก และยืนยันว่าหากมีใครกระทำผิดกฎหมายจะดำเนินคดีทันที ถ้าเป็นคนไทยก็ดำเนินดคีในไทย ถ้าเป็นคนต่างชาติก็ส่งออกนอกประเทศไทยโดยทันที