xs
xsm
sm
md
lg

โวยจราจร ริยำ! ตบหน้า บีบคอ ขยำหน้าอก ยัดข้อหาสาวเจ้าของโรงพิมพ์!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

สาวเจ้าของโรงพิมพ์โร่ร้องสื่อ ถูกตำรวจโชคชัยทำร้ายร่างกาย บีบคอ บีบหน้าอก วันสงกรานต์โดยไม่มีเหตุผล แถมผรุสวาทใส่เป็นชุด พร้อมจับกุมตัวไปดำเนินคดี ทั้งที่สาวเจ้าเป็นฝ่ายถูกทำร้าย

วันนี้ (16 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย น.ส.กรรณิการ์ ไพรวัลย์ทิพย์กุล อายุ 26 ปี เจ้าของกรรณิการ์การพิมพ์ ย่านลาดพร้าว เดินทางเข้าพบ นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคม เพื่อร้องเรียนกรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ด.ต.ทำร้ายร่างกาย บีบคอ ตบหน้า จนได้รับบาดเจ็บ

น.ส.กรรณิการ์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา ขณะกำลังขับรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ สีดำ ทะเบียน ตฐ 158 กรุงเทพมหานคร เพื่อไปส่งเพื่อนใกล้สามแยกโค้งวัดลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว-วังหิน โดยมีเพื่อนนั่งคู่มาในตอนหน้า 1 คน และอีกส่วนหนึ่งนั่งอยู่ท้ายกระบะ ขณะขับไปถึงสามแยกโค้งวัดลาดพร้าว พบอาสาสมัคร 1 คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายสมชาย เปลี่ยนชื่อ และตำรวจปฏิบัติหน้าที่อยู่ 1 นาย ซึ่งบริเวณนั้นมีกลุ่มคนกำลังเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันอยู่ ตนได้เลี้ยวรถโดยแจ้งกับอาสาสมัครที่คอยโบกรถว่าขอเข้าไปส่งเพื่อนที่ร้านค้าใกล้ๆ ห่างออกไปแค่ 5 เมตร ซึ่งอาสาสมัครก็ให้เข้าไป แต่ยังไม่ทันได้ออกรถ พบ ด.ต.กิตติศักดิ์ กุลสุวรรณ ผบ.หมู่ จร.สน.โชคชัย โบกให้หยุดอีกครั้ง ซึ่งก็ได้ขอเข้าไป โดยบอกว่าอาสาสมัครให้เข้าได้ แต่ ด.ต.กิตติศักดิ์ ก็ไม่อนุญาตให้เข้า จึงขอเบนหัวรอออกไปทางซ้าย ก็ไม่อนุญาตให้ไป สุดท้ายขอกลับรถก็ไม่ให้กลับ โดยพูดกับตนว่า “กูไม่ให้มึงไป” พอสอบถามเหตุผล ก็บอกว่า “มีคนอยู่กระบะหลังรถ” ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจ เพราะท้ายกระบะก็ไม่มีถังบรรจุน้ำ และไม่ได้ตั้งใจเล่นสาดน้ำ จากนั้น ด.ต.กิตติศักดิ์ ขอดูใบอนุญาตขับขี่ของตน จึงถามกลับไปว่าจะดูข้อหาอะไร เขาก็ตอบกลับมาว่า “กูไม่มีข้อหา แต่กูจะดู” จึงหยิบให้ดู จากนั้นเขาถามอีกว่าทำงานอะไร ตนก็ถามกลับไปว่าขอดูใบขับขี่ต้องถามด้วยหรือว่าทำงานอะไร จากนั้นเขาก็หน้าตาแดง ด่าออกมาว่า “ไอ้เหี้ยมึงกวนตีนกูหรือ”

น.ส.กรรณิการ์ กล่าวต่อว่า ต่อมา ด.ต.กิตติศักดิ์ เก็บอารมณ์โกรธไว้ไม่ไหว ตรงเข้ามาตบหน้าตนอย่างแรง จนกระจกแว่นตากันแดดข้างซ้ายยี่ห้อเรย์แบนหลุดจากกรอบตกลงกับพื้น แรงเหวี่ยงมือของเขายังไปถูกกระจกหน้ารถจนแตกร้าว ขณะเขากำลังจะเดินผละออกไป ตนได้คว้าชายเสื้อเขาไว้ได้ ทันใดนั้นเขาก็เอามือขวามาบีบและจิกที่คอตนอย่างแรง พร้อมกับพูดจา หยาบคาย ดูถูกเหยียดหยามตลอดเวลา เขาบีบคอและพยายามยกตนขึ้นอยู่นานประมาณ 15 นาที จนตัวลอยขึ้นจากเบาะรถ หายใจไม่ออก ตนพยายามดิ้นรถไขว่คว้าเพื่อเอาตัวรอด จนมือขวาไปถูกหน้า ด.ต.กิตติศักดิ์ ทำให้เขาบีบคอแรงมากขึ้นอีก ระหว่างนั้น น.ส.อารีรัตน์ ขุนวัง เพื่อนที่นั่งคู่กันมา ดึงมือไม่ให้ไปยุ่งกับเขา ตนดิ้น จนมือของ ด.ต.กิตติศักดิ์ เลื่อนจากคอมาบีบที่หน้าอกอย่างแรง ระหว่างนั้น นายสมชาย มาช่วยดึงตัว ด.ต.กิตติศักดิ์ ออกไป แต่เหตุการณ์ยังไม่จบแค่นั้น เมื่อ ด.ต.กิตติศักดิ์ มาบิดกุญแจรถที่ติดเครื่องอยู่ออก พร้อมทั้งพูดข่มขู่ว่า “วันนี้มึงได้อยู่กับกูทั้งวันแน่” แล้วเดินจากไป

น.ส.กรรณิการ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นตนได้โทรศัพท์หาพี่ชายเพื่อขอความช่วยเหลือ บอกว่า ถูกตำรวจตบหน้าและบีบหน้าอก พอ ด.ต.กิตติศักดิ์ ได้ยินเช่นนั้น ก็พูดสวนกลับมาว่า “แม่งมึงสวยตายแหละ กูอยากจะจับหน้าอกมึงตายห่าล่ะ” ทำให้รู้สึกถูกดูหมิ่นเหยียดหยามมากขึ้น ต่อมามี พ.ต.ท.นิรันดร โกมลรัตน์ ทราบว่า เป็นสารวัตรจราจร เข้ามาสอบถามเหตุการณ์ จึงเล่าให้ฟังคร่าวๆ ก่อนจะสั่งให้ตามไปโรงพัก โดย พ.ต.ท.นิรันดร ได้ขอกุญแจรถจาก ด.ต.กิตติศักดิ์ คืนให้ตนขับตามไป สน.โชคชัย ขณะนั่งรออยู่ที่ สน.โชคชัย ตนรู้สึกเจ็บบาดแผลฟกช้ำขีดข่วนที่คอ และหน้าออกอย่างมาก จึงขอตำรวจให้ส่งตัวไปรักษาบาดแผลก่อน แต่ ด.ต.กิตติศักดิ์ เดินเข้ามาบอกว่า “ไม่ให้ไป เดี๋ยวจะหนีคดี” ซึ่ง พ.ต.ท.นิรันดร ได้อนุญาตให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล ทั้งนี้ ระหว่างนั้นตนขอให้ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ด.ต.กิตติศักดิ์ ด้วย

น.ส.กรรณิการ์ กล่าวต่อว่า หลังจากทำแผลที่โรงพยาบาลเสร็จแล้ว กลับมาถึง สน.โชคชัย เวลา 16.00 น.ก็ถูกเรียกวัดแอลกอฮอล์ถึง 2 ครั้ง ซึ่งไม่พบว่ามีการดื่มสุรา ค่าแอลกอฮอล์เป็น 0 แต่ตนไม่เห็นว่ามีการตรวจแอลกอฮอล์ ด.ต.กิตติศักดิ์ จึงสอบถามกับ ร.ต.ท.บุญเรือน ปานหนู พนักงานสอบสวน ได้รับคำตอบว่าตรวจเรียบร้อยแล้ว

“จากนั้น ด.ต.กิตติศักดิ์ กลับนำบันทึกการจับกุมมาให้ดิฉันเซ็นรับทราบ มีการแจ้งข้อกล่าวหาดิฉัน ฐานทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้บาดเจ็บ ดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียทรัพย์ ซึ่งเป็นเท็จ จึงไม่ยอมเซ็นรับทราบ ด.ต.กิตติศักดิ์ ยังพูดเสียงดังใส่ว่า จะเซ็นหรือไม่เซ็น พอเห็นว่าดิฉันไม่เซ็น ร.ต.ท.บุญเรือน จึงบอกกับ ด.ต.กิตติศักดิ์ ให้บันทึกว่า ผู้ต้องหาไม่ยินยอมลงลายมือชื่อ แล้วให้ดิฉันไปหาร้อยเวรอีกคนหนึ่งเพื่อสอบปากคำ ในขณะที่ ร.ต.ท.บุญเรือน จะเป็นผู้สอบปากคำ ด.ต.กิตติศักดิ์ เอง หลังดิฉันออกจากห้องสอบสวน ก็ไม่พบ ด.ต.กิตติศักดิ์ อีก มาทราบว่ากลับไปแล้ว แต่ดิฉันกลับถูกนำตัวไปพิมพ์ลายนิ้วมือและนำตัวไปกักขังในห้องคุมขังทันที โดยอ้างว่า เกรงจะหลบหนี ทั้งๆ ที่ดิฉันเป็นคนที่ถูกทำร้าย โดยถูกคุมขังอยู่นาน 6 ชั่วโมง สุดท้ายได้รับการปล่อยตัวออกมา เพราะนางสุกัญญา ไพรวัลย์ทิพย์กุล มารดา ซึ่งเป็นอาจารย์โรงเรียนวัดเวรุวราราม ซึ่งเพิ่งออกจากโรงพยาบาลหลังเข้ารับการผ่าตัดมะเร็งปากมดลูก มาประกันตัว” น.ส.กรรณิการ์ กล่าว และว่า ทั้งนี้ ตนได้แจ้งความ ด.ต.กิตติศักดิ์ กลับฐานทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ กระทำอนาจาร และทำให้เสียทรัพย์ด้วย

ด้าน นางสุกัญญา กล่าวว่า ตนได้หอบร่างที่เพิ่งผ่าตัดเย็บแผลออกมา ขึ้นโรงพักเพื่อขอประกันตัวลูกสาว พอเห็นหน้าและบาดแผลของลูกสาวก็เสียใจมาก ทำไมตำรวจถึงทำร้ายประชาชนถึงขนาดนี้ เขาอ้างว่า คู่กรณีก็มีบาดแผลเหมือนกัน พอขอประกันตัวลูกสาวก็ถูกโยกโย้ พนักงานสอบสวนเก็บข้าวของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กกลับไปเลย บอกว่าหมดเวลาทำงาน ไม่มีอารมณ์ จึงต้องโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.ต.สงบ รอดประเสริฐ จนพนักงานสอบสวนกลับมาทำเรื่องประกันตัวให้ กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเวลา 01.00 น.วันที่ 14 เมษายน

ทั้งนี้ นายไพโรจน์ รับเรื่องร้องเรียนเอาไว้ และในวันที่ 17 เมษายน เวลา 13.00 น.จะพาผู้เสียหาย เข้าร้องขอความเป็นธรรม ต่อ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ต่อไป
น.ส.กรรณิการ์ ไพรวัลย์ทิพย์กุล พร้อมมารดา เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย
ร่องรอยบาดแผลที่ถูกตำรวจทำร้ายร่างกาย แถมแจ้งความดำเนินคดีอีก
รอยร้าวของกระจกรถจากฝ่ามือของตำรวจ
กำลังโหลดความคิดเห็น