จำคุก เสธ.แอ๊บ กับพวกคนละ 3 ปี หลังพาแก๊งบุกตลาดโบ๊เบ๊ ขนผ้าดิบ 70 ตันไปทิ้งข้างโรงแรมพาเลซ ศาลยังปรานีไม่เคยได้รับโทษ ให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี
วันนี้ (11 เม.ย.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลได้มีคำพิพากษาในคดีที่ นายวิบูลย์ วิจิตรโสภณ อายุ 44 ปี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ธัญเทพ ธรรมธร หรือ เสธ.แอ๊บ นายชูศักดิ์ รัตนภูวลักษณ์ นายสุรพงษ์ รัตนภูวลักษณ์ นายสุภกิจ พูนศรีเกษมทนายความ เสธ.แดง กับ นายสุรเดช รัตนภูวลักษณ์ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับในความผิดฐานบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ ลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งยกฟ้องเฉพาะนายสุกิจ จำเลยที่ 4 เพราะเป็นทนายความทำไปตามหน้าที่ ตามโจทก์ฟ้องสรุปว่า
เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2547 จำเลยกับพวกอีก 50 คนที่ยังหลบหนี ได้บุกรุกเข้าไปในอาคารเลขที่ 116/23-24 ถ.หลานหลวง แขวงคลองมหานคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม.หรือ ย่านโบ๊เบ๊ แล้วรื้อขนผ้าจำนวน 70 ตัน ใส่ขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อ นำไปทิ้งที่ข้างโรงแรมราชา พาเลซ โดยจำเลยกับพวกยังนำอากล้องทีวีวงจรปิดจำนวน 3 ตัวไปด้วย
ทางพิจารณาโจทก์สืบว่า น.ส.กาญจนา กลั่นเอี่ยม เป็นพยานเบิกความ ยืนยันว่า เห็นจำเลยที่ 1 ยืนคุมการขนย้ายในที่เกิดเหตุ จำเลยจึงนำสืบต่อสู้ว่า นายประเสริฐ พี่ชายโจทก์ขายอาคารให้จำเลยที่ 5 แต่โจทก์ไม่ยอมออกจากอาคาร กลับนำผ้ามาเก็บไว้จำนวนมาก เคยมีการเจรจาซื้อขายอาคารกันก็ไม่สำเร็จ แต่โจทก์ไม่อาจใช้อาคารได้
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่ทั้งสองฝ่ายนำสืบแล้ว เห็นว่า พี่ชายโจทก์ขายอาคารให้จำเลยที่ 5 แล้ว จำเลยจึงเข้าไปในอาคารได้โดยชอบ แต่การที่จำเลยเอากล้องทีวีวงจรปิด 3 ตัวไป กับเอาผ้าไปทิ้งทำให้โจทก์เสียหาย ไม่สามารถนำผ้าไปขายได้ จึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ จำคุก 2 ปี และทำให้เสียทรัพย์คุกคนละ 1 ปี รวมจำคุกคนละ 3 ปี จำเลยไม่เคยถูกลงโทษมาก่อน โทษจำจึงให้รอลงอาญาไว้คนละ 2 ปี
