คุมตัวหนุ่มใหญ่ขู่แพร่คลิปนักธุรกิจสาวฝากขัง ค้านประกัน!!

กองปราบฯ คุมตัวหนุ่มใหญ่หื่นกามภัยสังคมฝากขัง หลังถูกจับเผยแพร่คลิปวิดีโอแบล็กเมล์เรียกเงินล้านจากอดีตแฟน พร้อมค้านให้ประกันตัว ก่อนศาลอนุญาตให้ฝากขัง

วันนี้ (8 เม.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ร.ต.ต.ธงฉาน ตันบุญเจริญ พนักงานสอบสวน กองปราบปราม ได้ควบคุมตัว นายพีรพงษ์ พรภิรมย์ภักดี หรือพลภัทร ณ ลำพูน อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกรรโชก เพื่อการแสดงอวดอ้างแก่ประชาชน ทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งรูปภาพ รูปถ่าย หรือสิ่งอื่นใดอันลามก และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ มาฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 8-19 เม.ย.51 เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องรอสอบปากคำพยานอีก 5 ปาก รอผลการตรวจสอบข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ และผลการตรวจสอบประวัติอาชญากร จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาประกอบการสอบสวน ตามคำร้องบรรยายสรุปว่า

เมื่อประมาณเดือน พ.ย.50 น.ส.หน่อย (นามสมมติ) อายุ 36 ปี ผู้เสียหายได้คบหากับนายพีรพงษ์ ผู้ต้องหาในฐานะแฟน ต่อมาผู้เสียหายทราบว่านายนายพีรพงษ์เป็นไกด์ผี ประกอบอาชีพที่ทุจริตหลายอย่างจึงขอเลิกกับนายพีรพงษ์ โดยวันที่ 1 มี.ค.51 นายพีรพงษ์ได้โทรศัพท์มาพูดข่มขู่ว่ามีภาพเปลือยของผู้เสียหาย หากเลิกกันจะนำออกเผยแพร่ พร้อมกับส่งภาพมาทางอีเมลให้ผู้เสียหายดูจำนวน 8 ภาพ ผู้เสียหายไม่ทราบว่านายพีรพงษ์ถ่ายไว้เมื่อใดจึงติดต่อกลับไป นายพีรพงษ์ยื่นข้อเสนอให้ผู้เสียหายกลับมาคบกันเหมือนเดิม แต่ผู้เสียหายปฏิเสธ

ต่อมาผู้เสียหายทราบภายหลังว่า นายพีรพงษ์บันทึกภาพระหว่างมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหายด้วยความยาวประมาน 26 นาทีในแผ่นซีดีอีกด้วย ผู้เสียหายจึงร้องขอเครื่องคอมพิวเตอร์ของ นายพีรพงษ์เพื่อทุบทำลายทิ้ง ซึ่งนายพีรพงษ์ยินยอมมอบให้ แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 4 มี.ค.51 เวลา 22.00 น. นายพีรพงษ์กลับลักลอบเข้าไปในบ้านพักของผู้เสียหายแล้วลักเอากล่องเซฟนิรภัยซึ่งภายในมีทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 1,110,000 บาท หลบหนีไป

หลังจากนั้นนายพีรพงษ์ได้โทรศัพท์มาหาผู้เสียหาย โดยกล่าวว่า “เป็นไง รู้สึกถึงความสูญเสียหรือยัง หากอยากได้คืนให้ออกไปหา” พร้อมกับข่มขู่ว่าหากไม่ยอมกลับมาอยู่ด้วยกันก็จะไม่คืนทรัพย์สิน และจะเอาภาพอนาจารออกเผยแพร่ จนกระทั่งวันที่ 7 มี.ค.51 นายพีรพงษ์โทรศัพท์มาหาผู้เสียหายให้ไปพบที่ร้านคอมพิวเตอร์ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 53 โดยยื่นข้อเสนอให้ผู้เสียหายไม่เอาเรื่องทรัพย์สินที่ถูกเอาไป แลกกับการลบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ทิ้ง

ผู้เสียหายไปพบตามนัด เนื่องจากเกรงว่าจะถูกเผยแพร่ภาพ ซึ่งนายพีรพงษ์ได้ลบข้อมูลในเครื่องให้ผู้เสียหายดู แต่หลังจากนั้นนายพีรพงษ์กลับส่งวีซีดีการร่วมเพศไปยังที่บ้านของผู้เสียหายเพื่อหวังให้ทางบ้านทราบเรื่อง พร้อมทั้งนำภาพดังกล่าวออกเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต ผู้เสียหายจึงเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีต่อนายพีรพงษ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287, 335(1) (8), 337 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(4), (5) โดยนายพีรพงษ์ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ท้ายคำร้องยังระบุด้วยว่า พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ศาลพิจารณาคำร้องแล้วสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้

ป.จับหนุ่มเชียงใหม่ถ่ายคลิปจ้ำจี้รีดเงินล้านนักธุรกิจสาว!