เหยื่อธุรกิจแชร์น้ำสมุนไพร ขึ้นโรงพักแจ้งความจับผู้บริหารบริษัทหลังถูกหลอกให้ร่วมลงทุนหาสมาชิกเข้าร่วมแชร์ แฉให้หาสมาชิกมาร่วมลงทุน 5 คนแล้วจะได้เงิน 5 พัน ทองคำอีก 50 สตางค์ เหยื่อหลงเชื่อระดมหาสมาชิกเพิ่มอีกเพียบ แต่กลับได้แค่เช็คเด้งมาแทน ก่อนปิดบริษัทหนีไปเปิดบริษัทใหม่ ทำธุรกิจตัวเดิม หลอกเงินจากเหยื่อแบบเดิม
วันนี้ (5 เม.ย.) ที่ สน.สุทธิสาร เมื่อเวลา 11.30 น.นางชุติกาญจน์ วุฒิโรจน์ธนกุล อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/122 หมู่ 5 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง อาชีพประกอบธุรกิตส่วนตัว พร้อมกลุ่มผู้เสียหาย 20 คน เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.อนุพงษ์ ทัศนา พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.สุทธิสาร ว่าถูกบริษัท เซเว่น ทเวนตี้ วัน อินแตอร์เนชั่นแนล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 90 /399 อาคารบัวสุวรรณพลาซ่า ชั้น 3 ซอยทรงสอาด ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจุตจักร ฉ้อโกงเงินในรูปแบบแชร์น้ำสมุนไพร เป็นจำนวนเงินกว่า 20 ล้านบาท
นางชุติกาญจน์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไหล่เครื่องปรับอากาศ ที่ย่านดอนเมือง จนกระทั่งและเมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว ตนได้รู้จักกับกลุ่มคนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำสมุนไพร และเครื่องสำอางค์สมุนไพรของบริษัทดังกล่าว โดยมีนายพล สินไตรนพ เป็นรองประธานกรรมการบริษัท และน.ส.ภัชชญา สุวรรณวงศ์ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ด้วยความสนใจจึงตัดสินใจเข้าสมัคร เสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินจำนวน 16,000 บาท แล้วโดยจะได้น้ำดื่มสมุนไพร เครื่องสำอางค์มา และถ้าตนพาเพื่อนมาสมัครเป็นสมาชิกอีกจำนวน 5 คน ภายใน 1 อาทิตย์ ก็จะได้เงินเป็นค่าตอบแทนอีก 5,000 บาท และได้สร้อยทองคำหนัก 50 สตางค์
นางชุติกาญจน์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตนก็พาเพื่อนมาสมัครสมาชิกมาได้เพิ่มอีก 50 คน โดยตนได้รับค่าตอบแทนมาอีก 30,000 บาท ส่วนทองคำนั้นทางบริษัทได้ขอติดค้างไว้ก่อน จากนั้นตนก็ร่วมทำธุรกิจต่อไปโดย มีการลงทุน และหาสมาชิกมาเพิ่มอีก โดยรวมทั้งหมดแล้ว ตนเองจะต้องได้เงินจากบริษัทเป็น 360,000 บาท แต่เมื่อตนไปขอรับเงิน ทางบริษัทก็จ่ายมาเป็นเช็คเงินสดของธนาคารกรุงเทพ สาขาอุรุพงษ์ แทน
นางชุติกาญจน์ กล่าวต่อว่า เมื่อตนนำเช็คไปขึ้นเงิน ปรากฏว่าเช็คเด้งไม่สามารถขึ้นเงินได้ ตนจึงกลับมาทวงถามที่บริษัท แต่กลับพบว่าบริษัทปิดกิจการแล้ว อีกทั้งยังพบว่ามีกลุ่มผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 50 ราย ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ที่ถูกหลอกแบบเดียวกันกับตน รวมมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 20 ล้านบาท หลังจากนั้นผู้บริหารของบริษัทชุดเดิม ก็ได้ไปเปิดบริษัทชื่อ “สินไตรนก” ประกอบธุรกิจแบบเดิม หลอกเงินจากเหยื่อรายอื่นแบบเดิมอีกด้วย จึงนัดกันมาแจ้งความในวันนี้ โดยก่อนหน้านี้ ตนเองได้ไปแจ้งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งความไว้แล้ว พร้อมทั้งจะทำการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด ก่อนจะนำเรื่องเสนอให้กับทางผู้บังคับบัญชาพิจารณา พร้อมทั้งหออกหมายเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทนี้มาดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชนต่อไป