xs
xsm
sm
md
lg

“กรมพินิจฯ” ขาดแคลนอาหารหลังคนส่งเลิกสัญญาอ้างสู้ต้นทุนสูงไม่ไหว

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายธวัชชัย ไทยเขียว รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
พิษเศรษฐกิจทรุดส่งผล “กรมพินิจฯ” ถูกผู้รับเหมาส่งวัตถุดิบประกอบอาหารเลี้ยงเยาวชนที่ถูกคุมในสถานพินิจฯยกเลิกส่งของ อ้างขาดทุนแบกรับภาระต้นทุนไม่ไหว “ธวัชชัย” หวั่นขาดแคลนอาหารเล็งเบิกงบกลางอุดหนุน ย้ำ งบ 48 บาทไม่พอซื้อข้าวกล่องเลี้ยงเยาวชนครบ 3 มื้อ

วันนี้ (4 เม.ย.) นายธวัชชัย ไทยเขียว รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวถึงปัญหาราคาข้าวสาร อาหารสด และแก๊สหุงต้มขึ้นราคา จนส่งผลกระทบต่อการทำอาหารให้เยาวชนในความควบคุมของสถานพินิจฯทั่วประเทศ ว่า ขณะนี้เริ่มมีบริษัทผู้รับเหมาที่ทำสัญญาส่งอาหารสดและข้าวสารให้สถานพินิจฯ ทำหนังสือมาขอยกเลิกสัญญาส่งอาหารให้กับสถานพินิจฯ โดยอ้างเหตุผลว่าราคาอาหารสด น้ำมันพืช น้ำตาล ข้าวสาร และแก๊สหุงต้ม ปรับตัวสูงขึ้นมากจนทำให้ผู้ประกอบการประสบภาวะขาดทุน จนไม่สามารถจัดหาอาหารสดให้กับสถานพินิจฯได้ตามสัญญา กรมพินิจฯจึงได้หารือกับฝ่ายกฎหมายของกระทรวงยุติธรรม เพื่อเร่งหามาตรการแก้ไขก่อนที่จะเกิดปัญหาขาดแคลนข้าวสารและอาหารในสถานพินิจฯ โดยพบว่าที่ผ่านมา ในงานก่อสร้างอาคารของทางราชการมีข้อยกเว้นให้สามารถขอเพิ่มวงเงินงบประมาณในการก่อสร้างได้ หากมีปัญหาราคาวัสดุอุปกรณ์ปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นกรมพินิจฯอาจจะขอให้พิจารณาแก้ปัญหาข้าวสารและอาหารสดปรับราคาสูงขึ้น โดยให้กระทรวงยุติธรรมขอใช้งบประมาณกลางของรัฐบาลมาจ่ายเพิ่มให้กับค่าอาหารที่ปรับราคาสูงขึ้น

นายธวัชชัย กล่าวว่า จากการสำรวจไปยังสถานพินิจฯต่างๆ พบว่า สถานพินิจฯขนาดใหญ่ยังไม่มีปัญหาขาดแคลนอาหารและข้าวสาร เนื่องจากโรงครัวของสถานพินิจฯจะเก็บสต็อกข้าวสารไว้ไม่ต่ำกว่า 15 วัน แต่เริ่มมีปัญหาในสถานพินิจฯขนาดเล็ก ซึ่งควบคุมตัวเยาวชนตามคำสั่งศาลประมาณ 5-10 คน จึงไม่มีการหุงต้มอาหารเอง โดยสถานพินิจฯจะใช้วิธีซื้อข้าวกล่องให้เยาวชนวันละ 3 มื้อ ภายใต้งบประมาณ 58 บาทต่อคนต่อวัน ซึ่งเงินจำนวน 58 บาทนี้ ต้องแบ่งเป็นค่านมกล่อง 10 บาท ส่วนที่เหลือ 48 บาท เป็นค่าข้าว 3 มื้อ ทำให้เกิดปัญหาจากการไม่สามารถจัดซื้อข้าวกล่อง 3 มื้อ ในราคา 48 บาท

รองอธิบดีกรมพินิจฯ กล่าวอีกว่า ในกรณีที่ผู้รับเหมาไม่ส่งข้าวสารและอาหารสดตามสัญญา หรือขอยกเลิกสัญญาส่งอาหาร จะต้องถูกริบเงินประกัน และถูกบันทึกชื่อในบัญชีดำ ห้ามไม่ให้เข้าร่วมประมูลเป็นคู่สัญญาส่งข้าวสารและอาหารสดให้สถานพินิจฯทั่วประเทศ ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาราคาข้าวสารและอาหารปรับตัวสูงขึ้นจากเดิมเกือบเท่าตัว จึงเป็นกรณีเร่งด่วนที่ต้องหาทางแก้ไข ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเยาวชนในสถานพินิจฯ และบริษัทเอกชนผู้ประกอบอาชีพส่งอาหารและข้าวสาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับปัญหาราคาข้าวสารและอาหารสดปรับตัวสูงขึ้น ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อการหุงหาอาหารเลี้ยงเยาวชนที่ถูกส่งตัวเข้าควบคุมในสถานพินิจฯทั่วประเทศ แต่ได้ส่งผลกระทบถึงเรือนจำทั่วประเทศที่มีภาระต้องหุงหาอาหารเลี้ยงดูนักโทษกว่า 200,000 คนเช่นกัน โดยในวันนี้นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้เรียกประชุมผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น