คดี “ทักษิณ” ฟ้อง “สนธิ-สโรชา” ฐานแฉจาบจ้วงเบื้องสูงผ่านรายการยามเฝ้าแผ่นดิน ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ ศาลนัดเปิดคดี 11 มิ.ย.นี้
วันนี้ (31 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้ นายสรรพวิทย์ คงคาน้อย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นางสโรชา พรอุดมศักดิ์ และบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยที่ 1-3 ตามลำดับ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีร่วมกันจัดรายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ทางสถานีโทรทัศน์ ASTV และตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ โดยอ้างคำบอกเล่าของ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรีว่า สาเหตุที่ต้องออกจากรัฐบาลโจทก์ เนื่องจากทนไม่ได้ที่ในช่วง 8 ชั่วโมงแรกหลังมีการยึดอำนาจรัฐประหาร โจทก์ได้พูดจาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงด้วยคำพูดที่เลวทรามต่ำช้า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ส.ค.2550
อย่างไรก็ดี ในวันนี้คู่ความทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ ศาลจึงให้ยุติการไกล่เกลี่ยและนำคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณา โดยให้นัดพร้อมคู่ความเพื่อตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันสืบนัดพยานในวันที่ 11 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
วันนี้ (31 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้ นายสรรพวิทย์ คงคาน้อย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นางสโรชา พรอุดมศักดิ์ และบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยที่ 1-3 ตามลำดับ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีร่วมกันจัดรายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ทางสถานีโทรทัศน์ ASTV และตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ โดยอ้างคำบอกเล่าของ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรีว่า สาเหตุที่ต้องออกจากรัฐบาลโจทก์ เนื่องจากทนไม่ได้ที่ในช่วง 8 ชั่วโมงแรกหลังมีการยึดอำนาจรัฐประหาร โจทก์ได้พูดจาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงด้วยคำพูดที่เลวทรามต่ำช้า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ส.ค.2550
อย่างไรก็ดี ในวันนี้คู่ความทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ ศาลจึงให้ยุติการไกล่เกลี่ยและนำคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณา โดยให้นัดพร้อมคู่ความเพื่อตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันสืบนัดพยานในวันที่ 11 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.