“สมพงษ์” ระบุปัจจุบันเยาวชนยึดติดวัตถุนิยมยอมขายตัวแลกของแบรนด์เนม ติงผู้ปกครองละเลยลูกหลานปล่อยให้ทำผิดหนุนซื้อมอเตอร์ไซค์ให้ขับซิ่งยามวิกาลต้องร่วมรับผิดอาญาจำคุก 3-6 เดือน ขณะที่ตำรวจจี้เอาผิดร้านแต่งรถหลังพบอยู่เบื้องหลังมีส่วนร่วมปิดถนนหนุนเด็กแว้นจัดแข่งซิ่ง
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่โรงแรมรามาการ์เด้น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดการสัมมนาเรื่องแนวทางป้องกันและแก้ไขฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดในคดีรถซิ่งว่า ปัจจุบันแนวโน้มการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชนเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และมีรูปแบบการกระทำความผิดที่รุนแรง ซับซ้อน ขยายวงกว้างขึ้น ไม่ได้จำกัดวงอยู่เพียงคดีรถซิ่งแต่เชื่อมโยงกับปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด คดีทำร้ายร่างกาย และคดีการกระทำความผิดทางเพศ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องระดมนักวิชาการและเอ็นจีโอมาร่วมกำหนดแนวทางป้องกันและแก้ไขเยาวชนซึ่งจะเป็นอนาคตของชาติ เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเป็นที่สุดท้ายที่จะนำเด็กเข้ามาฟื้นฟู
นายสมพงษ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาเยาวชนต้องการความร่วมมือจากผู้ปกครอง เพราะผู้ปกครองเป็นผู้ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ให้บุตรหลานและอนุญาตให้บุตรหลานออกไปทำกิจกรรมในยามวิกาล โดยไม่ติดตามว่าเด็กออกจากบ้านไปทำอะไรบ้าง เด็กผู้หญิงที่ออกไปนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ด้วยชื่นชอบในตัวเพื่อนชาย และรู้สึกสนุกไปกับการแข่งรถซิ่ง แต่ไม่รู้ว่าเขาพนันแพ้ชนะเอาตัว เด็กหญิงเหล่านี้ต้องตกเป็นเหยื่อ ไม่ใช่เพียงจะถูกร่วมเพศกับใครเป็นรายบุคคล แต่อาจถูกสมสู่เป็นกลุ่ม จึงอยากฝากถึงพ่อแม่ผู้ปกครองอีกครั้งว่าเรามีกฎหมายเอาผิดกับผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยให้บุตรหลานออกจากบ้านในยามวิกาล โดยเฉพาะผู้ปกครองที่ซื้อรถมอเตอร์ไซด์ให้เยาวชนออกไปขับขี่รถซิ่ง พ่อแม่จะต้องร่วมรับผิดทางอาญาร่วมกับบุตรหลาน โดยที่ผ่านมามีผู้ปกครองหลายคนถูกพิพากษาจำคุก 3-6 เดือน
“สังคมไทยเริ่มเละเทะเพราะมีแต่ข่าวดาราคบหาเป็นแฟนกัน หรือเลิกรากับแฟนแล้วไปมีแฟนใหม่ ทำให้เด็กมองว่าพฤติกรรมเหล่านั้นมีคุณค่า ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ใช่วัฒนธรรมของบ้านเรา พ่อแม่ต้องตักเตือนบุตรหลาน เพราะสังคมให้ความสำคัญกับคุณค่าของวัตถุมากเกินไป เป็นวัตถุนิยม ขึ้นรถเมล์ไม่ไหวก็ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ สมัยผมเป็นเด็กแค่อยากพกปากกาเชฟเฟอร์ แต่ผมอาจจะเฒ่าไปแล้ว เพราะเด็กสมัยนี้ต้องการกระเป๋าและเสื้อผ้าแบรนด์เนม คนไหนไม่มีเงินซื้อก็ไปลักขโมย หรือแม้กระทั่งขายตัว เด็กผู้หญิงบางคนแค่ต้องการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือราคาพันกว่าบาทก็ยอมขายตัว เพราะมองว่าตัวเองไม่มีคุณค่า” นายสมพงษ์กล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวว่า ปัญหาวัยรุ่นแข่งรถจักรยานยนต์หากให้ตำรวจไล่จับ จะเป็นแค่การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และจะมีการซิ่งรถเกิดขึ้นบ่อยๆ จากการจับกุมครั้งหลังสุด ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้มากที่สุดถึง 256 ราย และกลายเป็นเชื้อปะทุให้ต้องจัดสัมมนาเพื่อวางแนวทางแก้ไขอย่างจริงจัง ทั้งนี้สถาบันครอบครัวจะมีความสำคัญมากที่สุด โดยพ่อแม่ควรดูแลลูกไม่ให้ออกจากบ้านหลัง 23.00-24.00 น. ซึ่งจากการสอบถามพ่อแม่ของเยาวชนที่ถูกจับกุมในคดีซิ่งรถ พบว่าทุกรายต่างให้การว่าลูกของพวกเขาถูกชักชวนให้ออกจากบ้าน ไม่มีใครยอมรับว่าลูกของเราชวนเพื่อนออกมา แสดงว่าสังคมมีปัญหาแล้ว จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขแบบครบวงจร เพราะการเริ่มทำผิดในคดีซิ่งรถซึ่งเป็นความผิดเล็กน้อย จะขยับเป็นการทำผิดในคดีร้ายแรงขึ้น เช่น นำรถที่ได้รับการปรับแต่งให้เครื่องแรงไปใช้วิ่งราวทรัพย์ หรือการพนันเอาตัวผู้หญิงซ้อนท้ายอาจขยับเป็นคดีชิงตัวผู้อื่นได้
ต่อข้อถามที่ว่าการดำเนินคดีกับร้านปรับแต่งเครื่องยนต์จะทำอย่างไร พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า การปรับแต่งหรือเปลี่ยนแปลงสภาพรถให้มีขนาดเครื่องยนต์หรือน้ำหนักแตกต่างไปจากเดิม เป็นความผิดตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันการปรับแต่งรถพัฒนาขึ้นเป็นธุรกิจ หากร้านใดปรับแต่งสภาพรถจนสามารถชนะการแข่งขัน ลูกค้าก็จะไหลเข้ามามาก จากการสืบสวนยังพบด้วยว่า ร้านปรับแต่งรถบางแห่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการปิดถนนให้จัดแข่งขันรถซิ่ง
ด้าน นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ผอ.สำนักงานกิจการยุติธรรม กล่าวว่า จากการศึกษาวิจัยพบว่าปัญหาเด็กแว้นเกิดงจากทัศนคติของวัยรุ่น ซึ่งไม่ตรงกับผู้ใหญ่ ทั้งนี้การที่กฎหมายเอาผิดกับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ละเลยบุตรหลาน จะช่วยแก้ปัญหาได้ โดยจะต้องทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและปรับทัศนคติเพื่อกระตุ้นให้ครอบครัวเข้ามามีส่วนร่วมแก้ปัญหา ในช่วงปิดเทอมทุกหน่วยงานต้องมีส่วนร่วมแก้ปัญหาเยาวชน โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ