โจรบุกเดี่ยวจี้เซเว่นบนถนนรามคำแหง 2 สาขาติดๆ กัน สั่งพนักงานเอาเงินใส่ถุงพลาสติกของร้าน แถมเรื่องมากใส่ถุงใบเล็กให้ไม่เอาขอใบใหญ่ เสร็จแล้วสั่งหมอบกับพื้นห้ามมองหน้า-ห้ามมองตามไม่งั้นยิงทิ้ง เชื่อเป็นรายเดียวกันเพราะพฤติกรรมเหมือนกันเป๊ะ!
เมื่อเวลา 03.40 น.วันนี้ (24 มี.ค.) ร.ต.อ.วินัย สุขโขพืช พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.หัวหมาก รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ร้านร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น สาขาปากซอยรามคำแหงซอย 1 ถนนรามคำแหง แขวงและเขตสวนหลวง จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบ น.ส.เนตรนภา ริยาพันธ์ อายุ 26 ปี พนักงานร้านดังกล่าวยืนรอให้การด้วยอาการตื่นตระหนกตกใจ โดยเบื้องต้น น.ส.เนตรนภา ให้การว่า ขณะที่ตนกำลังยืนทำงานอยู่ที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์กับเพื่อนพนักงานผู้ชายอีกคน ได้มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอม สวมหมวกกันน็อกสีดำแบบเต็มใบ สวมเสื้อแจ็กเกตสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ แล้วเดินเข้ามาในร้านแล้วตรงมาที่ตน ก่อนจะชักอาวุธปืนแบบออโตเมติกสีดำขึ้นมาขู่พวกตนทันที
น.ส.เนตรนภา กล่าวต่อว่า จากนั้นคนร้ายสั่งให้ตนรีบนำเงินในลิ้นชักออกมาใส่ถุงพลาสติกของร้าน ตนจึงรีบหยิบเงินใส่ถุงให้ตามที่บอก ก่อนที่คนร้ายจะสั่งให้พวกตนหมอบลงกับพื้น ห้ามมองตาม เขาก็รีบออกจากร้านไป เมื่อตรวจสอบเงินก็พบว่าคนร้ายได้ไปทั้งหมด 4,100 บาท
ต่อมาเวลา 04.00 น.หลังจากตรวจสอบร้านเซเว่นสาขาดังกล่าวเสร็จแล้ว ร.ต.อ.วินัย ก็ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายบุกจี้ชิงทรัพย์ที่ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นอีกแห่งหนึ่ง บริเวณหน้ารามคำแหง 26 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ จึงตามไปตรวจสอบที่ร้านดังกล่าวก็พบว่า น.ส.วิชิตา สุขจิต อายุ 26 ปี พนักงานร้านดังกล่าวให้การว่า เวลาประมาณ 03.56 น.ขณะที่ตนยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์กับนายเฉลิมวัฒน์ เหมะนัด อายุ 29 ปี เพื่อนหนักงานอีกคน ก็มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอม สูงประมาณ 160-165 ซม. ผิวขาว สวมหมวกขอทานสีครีม สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ เข้ามาที่ร้านแล้วตรงเข้ามาที่ตน พร้อมชักปืนแบบออโตเมติกสีดำขึ้นมาขู่ให้เปิดลิ้นชัก แล้วนำเงินใส่ถุงพลาสติกของร้าน
“ท่าทางเขาดูสบายๆ ไม่รีบร้อนอะไรเลย เหมือนมืออาชีพมาก ซึ่งตอนแรกก็พยายามจะถ่วงเวลาไว้ให้ช้าที่สุด แต่เขาขู่ว่าถ้าชักช้าจะยิงทิ้งก่อนคนนึง เลยต้องรีบหยิบเงินใส่ถุงให้ไปทั้งหมด 2,400 บาท โดยตอนแรกเอาเงินใส่ถุงเล็กให้ไป เขาก็บอกให้ใส่ถุงใหญ่กว่านี้ เสร็จแล้วก็สั่งให้เปิดเคาน์เตอร์ทั้งหมดเพื่อดูว่ามีเงินซ่อนอยู่อีกหรือเปล่า เสร็จแล้วเขาก็สั่งให้พวกเราหมอบที่พื้น ห้ามมองหน้า ห้ามมองตามเขาออกไปด้วย ไม่งั้นจะยิงทิ้งซะ แล้วเขาก็เดินออกไปโดยไม่รู้ว่าหนีไปทางไหน หรือขับรถอะไรมาก” น.ส.วิชิตา กล่าว
น.ส.วิชิตา กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ทางร้านก็เคยถูกคนร้ายเข้ามาจี้เอาเงินไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 04.30 น.โดยครั้งนั้นคนร้ายมาคนเดียว ใส่หมวกกันน็อกสีดำเต็มใบ สวมเสื้อเเจ็กเกตสีดำ เข้ามาใช้ปืนขู่ให้เงินเงินใส่ถุงพลาสติกของร้าน โดยครั้งนั้นได้เงินไป 2,600 บาท ซึ่งดูแล้วพฤติกรรมเหมือนกับครั้งนี้ทุกอย่าง จึงอาจจะเป็นคนร้ายรายเดียวกันก็ได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า คนร้ายที่ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านเซเว่นทั้งสองสาขานั้น น่าจะเป็นคนร้ายรายเดียวกัน เนื่องจากมีพฤติกรรมเหมือนกันหมด คือเข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานทันทีโดยไม่ทำทีขอซื้อสินค้า อีกทั้งยังสั่งให้เอาเงินใส่ถุงพลาสติกของทางร้าน และสั่งให้พนักงานหมอบกับพื้นห้ามมองตาม ไม่งั้นจะยิงทิ้งอีกเช่นเดียวกัน ซึ่งเจ้าหนาที่จะประสานขอภาพวงจรปิดของทั้ง 2 สาขาไปตรวจสอบเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป