แพทย์ระบุอาการหนุ่มส่งลูกชิ้นสาหัสเป็นตายเท่ากันโอกาสรอดแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ พบแผลไฟไหม้ทั้งตัว เผย ก่อนหน้านี้ หัวใจหยุดเต้นแล้ว แต่แพทย์ช่วยปั๊มหัวใจไว้ทัน น้องชายเผยพี่ชอบการเมืองมาก แต่ช่วงหลังมีอาการเครียดออกเพี้ยนบ่อยๆ ตร.เร่งหาสาเหตุ พร้อมตามญาติสอบถามว่ามีอาการทางประสาทหรือไม่
วันนี้ (21 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลดุสิต เปิดเผยความคืบหน้ากรณี นายแมน ตรวจมรรคา อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 259 หมู่ 1 ต.กระสังข์ อ.กระสังข์ จ.บุรีรัมย์ คนงานส่งลูกชิ้น จุดไฟเผาตัวเองหน้ารัฐสภา ว่า สั่งการให้ พ.ต.ต.เอกชัย ศรีระหงษ์ สารวัตรเวรสอบสวนเจ้าของคดีตรวจสอบประวัติของ นายแมน อย่างละเอียด และให้สอบถามไปยังญาติตามที่อยู่ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และเบอร์โทรศัพท์ที่ตรวจค้นได้ พบว่า นายแมน มีน้องชายอยู่ที่บุรีรัมย์อีก 1 คน ส่วนพ่อแม่เสียชีวิตแล้ว
โดย น้องชาย ระบุว่า นายแมน เป็นคนชอบเรื่องการเมืองมาก จนช่วงหลังเริ่มมีอาการเครียดเพี้ยนๆ บ่อยๆ จนมาอยู่กรุงเทพฯก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก และบอกว่า พวกตนไม่มีญาติที่ไหนมีเพียงน้าสาวอีกคนที่อยู่ กทม.แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน
พ.ต.อ.สมชาย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัวน้าสาวคนดังกล่าวมาสอบปากคำ พร้อมตรวจสอบประวัติการตรวจรักษาอาการทางประสาทกับแพทย์ที่เคยตรวจรักษานายแมน ว่า มีอาการทางประสาทเครียดจริงหรือไม่ ส่วนการสอบสวนนายแมนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในตอนนี้ เพราะนายแมนยังไม่รู้สึกตัวยังคงรักษาในห้องไอซียู มีอาการบาดเจ็บสาหัสไม่สามารถพูดคุยตอบโต้อะไรได้ ต้องรอสักระยะให้หายดีก่อนจึงจะรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร
พ.ต.อ.สมชาย กล่าวต่อว่า ปกติบริเวณหน้ารัฐสภามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลอย่างแน่นหนามีกล้องวงจรปิดด้านหน้า แต่เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรแล้วไม่พบภาพขณะที่นายแมนก่อเหตุ เนื่องจากจุดที่ก่อเหตุเผาตัวเองนั้น เป็นมุมมืดอยู่ห่างจากมุมกล้องที่ส่องไปถึงเพราะกล้องวงจรปิดที่อยู่ด้านหน้าจะเน้นเฉพาะจุดเข้าออกและครอบคลุมบริเวณถนนด้านหน้าและฝั่งตรงข้ามเท่านั้น ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดที่นายแมนเผาตัวนั้นอยู่ห่างออกไปอีกเยื้องไปทางฝั่งขวาจุดเดียวกับที่ ร.ต.ฉลาด วรฉัตร นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยเคยปักหลักอดข้าวประท้วง อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนจะเดินทางไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรัฐสภา เพื่อสอบถามเหตุการณ์เกิดขึ้นถึงที่มาที่ไปของการจุดไฟเผาตัวเองในครั้งนี้
ต่อมา เมื่อเวลา 14.00 น.นพ.ชัยวัน เจริญโชคทวี ผอ.วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิระพยาบาล เปิดเผยถึงอาการ นายแมน ที่จุดไฟเผาตนเองหน้ารัฐสภา ว่า คนไข้มีโอกาสจะรอดชีวิตน้อยมากมีเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งผู้ป่วยได้สูญเสียผิวหนังไปมาก โดยผิวหนังปกติจะมีหน้าที่ป้องกันเชื้อโรคและสิ่งอื่นๆ ไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่หากสูญเสียผิวหนังไปประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ก็จะเสียชีวิตแล้ว แต่คนไข้รายนี้สูญเสียผิวหนังไปมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ จึงมีโอกาสรอดชีวิตน้อยมาก อีกทั้งนอกจากจะสูญเสียผิวหนังแล้วยังส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีการแถลงข่าว นพ.ชัยวัน กล่าวว่า คนไข้หัวใจหยุดเต้น แพทย์ได้ทำการปั้มหัวใจช่วยชีวิต ซึ่งคาดว่า คนไข้น่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน วันพรุ่งนี้ (22 มี.ค.) ซึ่งขณะนี้คนไข้อยู่ระหว่างรับการรักษาที่หอผู้ป่วยไฟไหม้น้ำร้อนลวก โดยแพทย์ได้ใช้วัตถุห่อหุ้มร่างกายแทนผิวหนัง และให้น้ำทดแทนผ่านทางสายน้ำเกลือ เพราะร่างกายคนไข้สูญเสียน้ำมาก ขณะนี้คนไข้ไม่รู้สึกตัว ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ คนไข้ถูกไฟเผาทั้งตัว ซึ่งทางแพทย์ได้พยายามติดต่อญาติแล้วแต่ติดต่อไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม แพทย์จะดูแลผู้ป่วยเป็นอย่างดี
สยอง..หนุ่มส่งลูกชิ้นคลั่งแก้ผ้าจุดไฟเผาตัวเองหน้ารัฐสภาตะโกนไล่ “ทั่นยุทธ” ออกไป!!
วันนี้ (21 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลดุสิต เปิดเผยความคืบหน้ากรณี นายแมน ตรวจมรรคา อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 259 หมู่ 1 ต.กระสังข์ อ.กระสังข์ จ.บุรีรัมย์ คนงานส่งลูกชิ้น จุดไฟเผาตัวเองหน้ารัฐสภา ว่า สั่งการให้ พ.ต.ต.เอกชัย ศรีระหงษ์ สารวัตรเวรสอบสวนเจ้าของคดีตรวจสอบประวัติของ นายแมน อย่างละเอียด และให้สอบถามไปยังญาติตามที่อยู่ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และเบอร์โทรศัพท์ที่ตรวจค้นได้ พบว่า นายแมน มีน้องชายอยู่ที่บุรีรัมย์อีก 1 คน ส่วนพ่อแม่เสียชีวิตแล้ว
โดย น้องชาย ระบุว่า นายแมน เป็นคนชอบเรื่องการเมืองมาก จนช่วงหลังเริ่มมีอาการเครียดเพี้ยนๆ บ่อยๆ จนมาอยู่กรุงเทพฯก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก และบอกว่า พวกตนไม่มีญาติที่ไหนมีเพียงน้าสาวอีกคนที่อยู่ กทม.แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน
พ.ต.อ.สมชาย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัวน้าสาวคนดังกล่าวมาสอบปากคำ พร้อมตรวจสอบประวัติการตรวจรักษาอาการทางประสาทกับแพทย์ที่เคยตรวจรักษานายแมน ว่า มีอาการทางประสาทเครียดจริงหรือไม่ ส่วนการสอบสวนนายแมนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในตอนนี้ เพราะนายแมนยังไม่รู้สึกตัวยังคงรักษาในห้องไอซียู มีอาการบาดเจ็บสาหัสไม่สามารถพูดคุยตอบโต้อะไรได้ ต้องรอสักระยะให้หายดีก่อนจึงจะรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร
พ.ต.อ.สมชาย กล่าวต่อว่า ปกติบริเวณหน้ารัฐสภามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลอย่างแน่นหนามีกล้องวงจรปิดด้านหน้า แต่เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรแล้วไม่พบภาพขณะที่นายแมนก่อเหตุ เนื่องจากจุดที่ก่อเหตุเผาตัวเองนั้น เป็นมุมมืดอยู่ห่างจากมุมกล้องที่ส่องไปถึงเพราะกล้องวงจรปิดที่อยู่ด้านหน้าจะเน้นเฉพาะจุดเข้าออกและครอบคลุมบริเวณถนนด้านหน้าและฝั่งตรงข้ามเท่านั้น ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดที่นายแมนเผาตัวนั้นอยู่ห่างออกไปอีกเยื้องไปทางฝั่งขวาจุดเดียวกับที่ ร.ต.ฉลาด วรฉัตร นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยเคยปักหลักอดข้าวประท้วง อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนจะเดินทางไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรัฐสภา เพื่อสอบถามเหตุการณ์เกิดขึ้นถึงที่มาที่ไปของการจุดไฟเผาตัวเองในครั้งนี้
ต่อมา เมื่อเวลา 14.00 น.นพ.ชัยวัน เจริญโชคทวี ผอ.วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิระพยาบาล เปิดเผยถึงอาการ นายแมน ที่จุดไฟเผาตนเองหน้ารัฐสภา ว่า คนไข้มีโอกาสจะรอดชีวิตน้อยมากมีเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งผู้ป่วยได้สูญเสียผิวหนังไปมาก โดยผิวหนังปกติจะมีหน้าที่ป้องกันเชื้อโรคและสิ่งอื่นๆ ไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่หากสูญเสียผิวหนังไปประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ก็จะเสียชีวิตแล้ว แต่คนไข้รายนี้สูญเสียผิวหนังไปมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ จึงมีโอกาสรอดชีวิตน้อยมาก อีกทั้งนอกจากจะสูญเสียผิวหนังแล้วยังส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีการแถลงข่าว นพ.ชัยวัน กล่าวว่า คนไข้หัวใจหยุดเต้น แพทย์ได้ทำการปั้มหัวใจช่วยชีวิต ซึ่งคาดว่า คนไข้น่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน วันพรุ่งนี้ (22 มี.ค.) ซึ่งขณะนี้คนไข้อยู่ระหว่างรับการรักษาที่หอผู้ป่วยไฟไหม้น้ำร้อนลวก โดยแพทย์ได้ใช้วัตถุห่อหุ้มร่างกายแทนผิวหนัง และให้น้ำทดแทนผ่านทางสายน้ำเกลือ เพราะร่างกายคนไข้สูญเสียน้ำมาก ขณะนี้คนไข้ไม่รู้สึกตัว ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ คนไข้ถูกไฟเผาทั้งตัว ซึ่งทางแพทย์ได้พยายามติดต่อญาติแล้วแต่ติดต่อไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม แพทย์จะดูแลผู้ป่วยเป็นอย่างดี
สยอง..หนุ่มส่งลูกชิ้นคลั่งแก้ผ้าจุดไฟเผาตัวเองหน้ารัฐสภาตะโกนไล่ “ทั่นยุทธ” ออกไป!!