"พินิจ สุเสารัจ" เผย ศาลยุติธรรมกำหนด 4 มาตรการป้องกันแพทย์-บุคลากรสาธารณสุขโดนฟ้อง ฐานประมาทเลินเล่อทำให้ผู้อื่นตายขณะดูแลรักษา ล้อมคอกไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยคดีศาลจังหวัดทุ่งสง
วันนี้(15 มี.ค.)นายพินิจ สุเสารัจ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีคดีการฟ้องร้องเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของแพทย์ และบุคลากรด้านสาธารณสุขเกี่ยวกับการให้บริการรักษาพยาบาลทางการแพทย์จำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะกรณีความขัดแย้งของญาติผู้ป่วยที่เสียชีวิต ขณะอยู่ในการดูแลรักษาพยาบาลกับแพทย์ผู้ทำการรักษาพยาบาลที่อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นคดีขึ้นสู่ศาลจังหวัดทุ่งสง และต่อมาศาลได้มีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกแพทย์ผู้ทำการรักษาฐานประมาทเลินเล่อทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งกรณีดังกล่าวได้ก่อให้เกิคความวิตกกังวลและความหวั่นไหวของแพทย์และบุคลากรด้านสาธารณสุขและประชาชนทั่วไป ดังนั้นจากปัญหาดังกล่าว สำนักงานยุติธรรม ไม่ได้นิ่งนอนใจและตระหนักดีว่าปัญหาดังกล่าวมิได้กระทบแต่เฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่กระทบภาพรวมความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อการให้บริการด้านสาธารณสุข และกระบวนการยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม จึงได้จัดประชุมร่วมในหน่วยงานเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมและคณะผู้พิพากษา เพื่อระดมแนวคิดหาข้อสรุปในแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยเบื้องต้นมี 4 แนวทางคือ 1. สำนักงานศาลยุติธรรมจะเชิญปลัดปลัดกระทรวงสาธารณสุขและแพทยสภามาร่วมประชุมเพื่อพิจารณาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการฟ้องคคีแพทย์และบุคลากรด้านสาธารณสุข และแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน 2. สำนักงานศาลยุติธรรมจะดำเนินการขึ้นทะเบียนผู้เชี่ยวชาญกรณีพิเศษตามข้อบังคับประธานศาลฎีกาว่าด้วยผู้เชี่ยวชาญของศาลยุติธรรม พ.ศ. 2546 หมวด 3 เพื่อให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์สาขาต่าง ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลยุติธรรม 3. สำนักงานศาลยุติธรรมจะส่งเสริมให้มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยผู้ไกล่เกลี่ยซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความน่าเชื่อ
ถือและผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ก่อนมีการฟ้องคดีแพทย์และบุคลากรทางสาธารณสุข เพื่อให้มีคดีขึ้นสู่ศาลน้อยที่สุด ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขและสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้เสียหาย รวมทั้งส่งเสริมให้มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชั้นอุทธรณ์และฎีกา ซึ่งอาจรวมถึงคดีที่ศาลจังหวัดทุ่งสงพิพากษาจำคุกแพทย์ ที่อยู่ในระหว่างการอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นด้วย 4. สำนักงานศาลยุติธรรมจะจัดเสวนาระหว่างหน่วยงานสาธารณสุขและเครือข่ายผู้เสียหาย เพื่อสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
นายพินิจ กล่าวเชื่อมั่นว่า มาตราการทั้ง 4 ข้อจะเป็นแนวทางที่นำมาแก้ปัญหาได้เกิดประโยชน์ และจะเป็นส่วนช่วยบรรเทาความวิตกกังวล และความหวั่นไหวของแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบวิชาชีพในสายงานต่าง ๆ ได้ดีในอนาคต
