แฉอดีตรอง ผบ.ตร. และผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และรับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และเงินค่าตอบแทนเฉียดแสนบาท แต่ไม่เคยย่างกรายไปทำงานยังทำเนียบรัฐบาล จะด้วยเหตุผลกลใดไม่มีใครทราบ ในขณะที่ “เสรีพิศุทธ์” เริ่มไปทำงานวันแรกแล้ว เพื่อเริ่มศึกษาการทำหน้าที่ตามที่จะได้รับมอบหมาย
วันนี้ (13 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถูกคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าทำงานเป็นวันแรก วันนี้(13 มี.ค.) นั้น เจ้าหน้าที่ได้จัดห้องทำงานบริเวณชั้น 3 อาคารตึกบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาลไว้รองรับ ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่าขอเวลาศึกษาการทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก่อน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ภายหลังจากที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ซึ่งนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเป็นประธานการประชุมนัดแรกในฐานะประธาน ก.ตร.นั้น การประชุมดังกล่าวที่ประชุมมีมติให้เปิดตำแหน่งรอง ผบ.ตร. และผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้น แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะให้นายตำรวจคนใดไปดำรงตำแหน่งดังกล่าว แต่ก็มีรายงานว่าทั้ง 2 ตำแหน่งดังกล่าวนั้นถูกเปิดไว้ เพื่อรอให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตรอง ผบ.ตร. ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พี่ชายคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาสู่ตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ฝ่ายบริหาร ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งหลัก และจะเป็นรอง ผบ.ตร.ที่มีอาวุโสอันดับ 1 มีความชอบธรรมที่จะขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.คนต่อไป ในขณะที่ตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.นั้น ถูกเปิดไว้ เพื่อรองรับการกลับมาสู่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของ พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อนร่วมรุ่น นรต.26 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นนายตำรวจคนสำคัญในสมัยระบอบทักษิณเรืองอำนาจ ที่ดำเนินคดีต่อแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในขณะนั้น
มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค. เข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ที่ผ่านมา คปค.ได้มีคำสั่งให้นายตำรวจ 4 นาย ประกอบด้วย พล.ต.อ.เพรียว์พันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.(ขณะนั้น) พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (ขณะนั้น) พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ขณะนั้น) และพล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(ขณะนั้น) ไปช่วยราชการยังสำนักนายกรัฐมนตรีทั้ง 4 นายนั้น
ในส่วนของ พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหาร 11) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหาร 11) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนั้น มีเงินเดือน 61,860 บาท เงินประจำตำแหน่ง 21,000 บาท และเงินค่าตอบแทนรายเดือน 21,000 บาท โดย พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เดินทางไปทำงานทุกวัน หลังจากที่ถูกย้ายมาทำเนียบและนั่งทำงานอยู่ห้องชั้นล่าง ตึกบัญชาการ 2 ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2550 ได้รับเงินเดือนทุกครั้ง ก่อนที่จะย้ายห้องทำงานไปตึกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลค.) หรือตึก 44 (กรุข้าราชการประจำ) เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา
ส่วน พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (นักบริหาร 11) สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหาร 11) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และล่าสุดกลับไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ.10) เทียบเท่า รอง ผบ.ตร.นั้น มีเงินเดือน 61,860 บาท เงินประจำตำแหน่ง 21,000 บาท ค่าตอบแทนรายเดือน 21,000 บาท โดย พล.ต.อ.จุมพล เดินทางไปทำงานทุกวันตั้งแต่ถูกย้าย และนั่งประจำอยู่ตึกบัญชาการ 2 ชั้น 3 แต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา หลังจากมีกระแสข่าวว่า จะกลับไปยัง ตร.ก็ไม่ได้เดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาลอีก จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา สบ.10 ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ขณะที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตรอง ผบ.ตร. ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้านความมั่นคง (นักบริหาร 10) กลุ่มงานยุทศาสตร์และการวางแผนสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนั้น มีเงินเดือน 61,860 บาท เงินประจำตำแหน่ง 14,500 บาท เงินค่าตอบแทนรายเดือน 14,500 บาท โดยเมื่อครั้งถูกคำสั่งใหม่ๆ นั้นมีกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ จะย้ายไปทำงานที่ ตึก 44 (กรุข้าราชการประจำ) โดยมีห้องทำงานอยู่ด้วยแต่จากนั้นมาก็ไม่เคยเดินทางเข้าไปทำงานเลย
ด้าน พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำฝ่ายความมั่นคง (นักบริหาร 10) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนั้น มี เงินเดือน 61,860 บาท เงินประจำตำแหน่ง 14,500 บาท และเงินค่าตอบแทนรายเดือน 14,500 บาท ก็ได้ปฏิบัติเช่นเดียวกับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์เช่นกัน
วันนี้ (13 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถูกคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าทำงานเป็นวันแรก วันนี้(13 มี.ค.) นั้น เจ้าหน้าที่ได้จัดห้องทำงานบริเวณชั้น 3 อาคารตึกบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาลไว้รองรับ ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่าขอเวลาศึกษาการทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก่อน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ภายหลังจากที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ซึ่งนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเป็นประธานการประชุมนัดแรกในฐานะประธาน ก.ตร.นั้น การประชุมดังกล่าวที่ประชุมมีมติให้เปิดตำแหน่งรอง ผบ.ตร. และผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้น แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะให้นายตำรวจคนใดไปดำรงตำแหน่งดังกล่าว แต่ก็มีรายงานว่าทั้ง 2 ตำแหน่งดังกล่าวนั้นถูกเปิดไว้ เพื่อรอให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตรอง ผบ.ตร. ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พี่ชายคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาสู่ตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ฝ่ายบริหาร ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งหลัก และจะเป็นรอง ผบ.ตร.ที่มีอาวุโสอันดับ 1 มีความชอบธรรมที่จะขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.คนต่อไป ในขณะที่ตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.นั้น ถูกเปิดไว้ เพื่อรองรับการกลับมาสู่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของ พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อนร่วมรุ่น นรต.26 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นนายตำรวจคนสำคัญในสมัยระบอบทักษิณเรืองอำนาจ ที่ดำเนินคดีต่อแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในขณะนั้น
มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค. เข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ที่ผ่านมา คปค.ได้มีคำสั่งให้นายตำรวจ 4 นาย ประกอบด้วย พล.ต.อ.เพรียว์พันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.(ขณะนั้น) พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (ขณะนั้น) พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ขณะนั้น) และพล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(ขณะนั้น) ไปช่วยราชการยังสำนักนายกรัฐมนตรีทั้ง 4 นายนั้น
ในส่วนของ พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหาร 11) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหาร 11) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนั้น มีเงินเดือน 61,860 บาท เงินประจำตำแหน่ง 21,000 บาท และเงินค่าตอบแทนรายเดือน 21,000 บาท โดย พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เดินทางไปทำงานทุกวัน หลังจากที่ถูกย้ายมาทำเนียบและนั่งทำงานอยู่ห้องชั้นล่าง ตึกบัญชาการ 2 ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2550 ได้รับเงินเดือนทุกครั้ง ก่อนที่จะย้ายห้องทำงานไปตึกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลค.) หรือตึก 44 (กรุข้าราชการประจำ) เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา
ส่วน พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (นักบริหาร 11) สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหาร 11) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และล่าสุดกลับไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ.10) เทียบเท่า รอง ผบ.ตร.นั้น มีเงินเดือน 61,860 บาท เงินประจำตำแหน่ง 21,000 บาท ค่าตอบแทนรายเดือน 21,000 บาท โดย พล.ต.อ.จุมพล เดินทางไปทำงานทุกวันตั้งแต่ถูกย้าย และนั่งประจำอยู่ตึกบัญชาการ 2 ชั้น 3 แต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา หลังจากมีกระแสข่าวว่า จะกลับไปยัง ตร.ก็ไม่ได้เดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาลอีก จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา สบ.10 ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ขณะที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตรอง ผบ.ตร. ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้านความมั่นคง (นักบริหาร 10) กลุ่มงานยุทศาสตร์และการวางแผนสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนั้น มีเงินเดือน 61,860 บาท เงินประจำตำแหน่ง 14,500 บาท เงินค่าตอบแทนรายเดือน 14,500 บาท โดยเมื่อครั้งถูกคำสั่งใหม่ๆ นั้นมีกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ จะย้ายไปทำงานที่ ตึก 44 (กรุข้าราชการประจำ) โดยมีห้องทำงานอยู่ด้วยแต่จากนั้นมาก็ไม่เคยเดินทางเข้าไปทำงานเลย
ด้าน พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำฝ่ายความมั่นคง (นักบริหาร 10) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนั้น มี เงินเดือน 61,860 บาท เงินประจำตำแหน่ง 14,500 บาท และเงินค่าตอบแทนรายเดือน 14,500 บาท ก็ได้ปฏิบัติเช่นเดียวกับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์เช่นกัน