xs
xsm
sm
md
lg

บุกเดี่ยวจี้ร้านทองในห้างบิ๊กซีพลาด ตร.เจ๋งจับได้ทันควัน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

คนร้ายลงมือก่อเหตุ บุกเดี่ยวควงปืนลุกโม่ .32 เข้าไปจี้ชิงทองในร้านทองโต๊ะกัง ภายในห้างบิ๊กซีลาดพร้าว แต่เจอเจ้าของร้านออกมาตะโกนโวยวายว่า “ปืนปลอม” เลยตกใจหนีเตลิดไปในลานจอดรถ ตำรวจรับแจ้งเหตุไปปิดล้อมทันควันและจับกุมตัวได้ในที่สุด สารภาพเสียงอ่อยหาเงินค่าเทอมให้ลูก

วันนี้ (13 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ร.ต.ท.เมธี เลาหเมธี พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุคนร้ายพยายามเข้าไปชิงทรัพย์ภายในร้ายทองโต๊ะกัง เลขที่ 2539 ภายในห้างบิ๊กซี ชั้น 1 สาขาลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาททราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.กัมปนาท โสภโณดร ผกก. พ.ต.ท.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ รองผกก.ป. พ.ต.ต.หฤษฎ์ คำจุมพล สวป. พ.ต.ต.ธรากร เลิศพรเจริญ สว.สส. พร้อมกำลังตำรวจสายตรวจ และกำลังฝ่ายสืบสวน

ในที่เกิดเหตุ ตำรวจพบ น.ส.วิไลรัตน์ อาจหาญ อายุ 23 ปี พนักงานขายทองของร้านดังกล่าว ยืนรอให้การด้วยอาการตื่นตระหนกตกใจยังไม่หายว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังยืนรอขายทองอยู่นั้น มีคนร้ายเป็นชาย สวมเสื้อแจ็กเกตสีดำแขนแดง นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว และสวมหมวกกันน็อกสีบรอนซ์เงินแบบเต็มใบ แต่เปิดกระจกบังลมขึ้น เดินเข้ามาในที่ร้าน พร้อมกับใช้อาวุธปืนลูกโม่จี้บังคับให้ตนนำทองใส่กระเป๋าสะพายสีดำที่เตรียมมา แต่ขณะนั้นเพื่อนพนักงานอีกคนเห็นเหตุการณ์จึงรีบวิ่งเข้าไปด้านหลังร้านเพื่อเรียกนายสุชาติ เหล่าสุวรรณรัตน์ อายุ 47 ปี เจ้าของร้าน ทำให้นายสุชาติวิ่งออกมาและพยายามตะโกนโวยวายว่า “ปืนปลอม” ตนจึงรีบก้มหมอบลงกับพื้น และเมื่อสิ้นเสียงนายสุชาติทำให้คนร้ายตกใจรีบวิ่งหนีออกไปทางประตูลานจอดรถด้านหลังที่อยู่ใกล้ร้านหลบหนีไป

หลังตำรวจทราบเรื่องได้กระจายกำลังกันปิดทางเข้าออกของห้างทุกทาง และตรวจค้นชายต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นคนร้าย จนกระทั่งพบกระเป๋า เสื้อแจ็กเกต หมวกกันน็อก ถูกทิ้งไว้ในห้องน้ำชั้น 4 ของห้าง นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนลูกโม่ .32 มีกระสุนเต็มลูกโม่ในถังขยะในห้องน้ำชั้นใต้ดิน ทางฝ่ายสืบสวนจึงนำกล้องวงจรปิดของร้านมาตรวจสอบ พร้อมกับกล้องวงจรปิดของทางห้าง แล้วพบว่าคนร้ายเป็นชายวัยกลางคนมีหนวดเครา

อย่างไรก็ตาม ขณะที่กำลังตรวจค้นชายต้องสงสัยทั่วไปอยู่นั้น มีนายอดุลย์ ศิริเพ็ญ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 282/14 ซอยลาดพร้าว 87 ถนนลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. มายืนด้อมๆ มองๆ อยู่หน้าร้านทองที่เกิดเหตุ ตำรวจสังเกตเห็นจึงเดินเข้าไปสอบถาม ปรากฏว่านายอดุลย์แสดงอาการพิรุธให้เห็น ตำรวจจึงเชิญตัว น.ส.วิไลรัตน์ พนักงานขายทองที่ถูกจี้มาดูตัวนายอดุลย์ ปรากฏว่า น.ส.วิไลรัตน์จดจำน้ำเสียงคนร้ายได้ จึงยืนยันกับตำรวจว่านายอดุลย์เป็นคนร้าย

เมื่อ น.ส.วิไลรัตน์ ยืนยันว่านายอดุลย์เป็นคนร้าย ตำรวจจึงทำการเค้นสอบปากคำ ในที่สุดนายอดุลย์ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง แต่ที่ทำไปเป็นเพราะก่อนหน้านี้เปิดร้านขายของอยู่ที่หน้าห้าง หลังจากนั้นประสบชะตากรรมตกงานไม่มีเงินที่จะต้องเลี้ยงดูลูกสาว และต้องการหาเงินไปเป็นค่าเทอมให้ลูกเรียน จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

นายอดุลย์ให้การรับสารภาพต่อว่า ก่อนลงมือก่อเหตุได้ขับรถมิตซูบิชิ รุ่นจีวากอน สีขาวคาดครีม หมายเลขทะเบียน สส-2725 กทม. มาจอดที่ห้าง และนำซีพียูคอมพิวเตอร์ซ่อมที่ร้านดีเอ็น ฮาร์ดแวร์ จากนั้นไปหาซื้อหมวกกันน็อกภายในห้างใส่ในราคา 650 บาท และนำมาก่อเหตุดังกล่าวจนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ในที่สุด

ต่อมา ตำรวจนำตัวนายอดุลย์ไปค้นที่บ้านพัก พบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยมีผู้เสียหายมาแจ้งความไว้ที่ สน.โชคชัย ว่านำรถไปจอดบริเวณถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และถูกคนร้ายทุบกระจกรถขโมยคอมพิวเตอร์โน้คบุ๊กไป โดยตำรวจพบเบาะแสว่าคนร้ายที่ก่อเหตุใช้รถมิตซูบิชิ จีวากอน สีขาวคาดครีมเหมือนนายอดุลย์ เป็นพาหนะ ซึ่งจะเรียกผู้เสียหาย เจ้าของคอมพิวเตอร์โน้คบุ๊กมาตรวจสอบว่า ใช่คอมพิวเตอร์โน้คบุ๊กของผู้เสียหายหรือไม่ต่อไป หากใช่จะได้ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับนายอดุลย์อีกกระทง แต่เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและใช้ยานพาหนะ จากนั้นควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น