ระอุ!! เมืองปากน้ำ เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดศึกตะลุมบ่อนกับอาสาสมัครมูลนิธิสยามร่วมใจ ซัดกันนัว บาดเจ็บเพียบ ตร.ปิดล้อมจับได้แค่ 4 คน ต่างฝ่ายต่างอ้างถูกด่าทอเสียหาย ก่อนถูกขับรถตามทำร้าย ตร.วุ่น เร่งหาสาเหตุทะเลาะวิวาท
วันนี้ (9 มี.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. ร.ต.อ.กันตภณ ปิ่นทอง ร้อยเวร สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุอาสาสมัครกู้ชีพก่อเหตุตะลุมบอน ทะเลาะวิวาทกันได้รับบาดเจ็บ บริเวณริมถนนศรีนครินทร์ เยื้องปากทางเข้า รพ.เปาโลเมมโมเรียลสมุทรปราการ ต.บางเมือง อ. เมือง จ.สมุทรปราการ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และสายตรวจ เข้าระงับเหตุ
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนหลายคนกำลังตะลุมบอนกันอย่างชุลมุน จึงได้ทำการปิดล้อมเข้าจับกุมไว้ได้จำนวน 4 คน หลบหนีไปได้ส่วนหนึ่ง ทราบชื่อ นายสุทธิรัตน์ หมั่นสุวรรณวดี อายุ 27 ปี นายจุมพล ศรีวิเศษ อายุ 26 ปี ทั้งสองเป็นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นายทวีศักดิ์ ทวีทรัพย์ อายุ 26 ปี นายสัญญา เพชรส่ง อายุ 28 ปี ใกล้กันพบรถกระบะ นิสสัน สีขาว ทะเบียน 8ป-3023 กทม. สภาพถูกทุบกระจกจนแตกกระจาย ตรวจสอบภายในรถ พบนายอรรถวัฒน์ นักวัตร อายุ 35 ปี และนายวรพจน์ ดาวท่าน อายุ 32 ปี พร้อมของกลาง ปืนพกออโตเมติก ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 8 นัด ปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 1 นัด พร้อมชุดเครื่องแบบกู้ชีพมูลนิธิสยามร่วมใจ จำนวน 1 ชุด
นอกจากนี้ยังพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีขาว ทะเบียน รมข 672 กทม. สภาพถูกชนท้ายจนพังยับ พลิกคว่ำในที่เกิดเหตุ ห่างไปราว 5 เมตร พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีแดง-ดำ ทะเบียน ลคต 855 กทม. ไฟหน้าแตกล้มคว่ำอยู่อีก 1 คัน ทั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 คน ถูกนำตัวส่ง รพ.สมุทรปราการ ก่อนหน้าทราบชื่อ นายประกาศิต สัตตา อายุ 20 ปี นายพงษ์เทพ โช้สีมา อายุ 19 ปี ได้รับบาดเจ็บมีแผลตามร่างกาย ท่อนขาทั้งสองข้าง เลือดไหลโชก ขณะเดียวกันยังพบรถกู้ชีพของมูลนิธิร่วมกตัญญูจอดอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุจำนวนหลายคันล้อมรถกระบะนิสันคันดังกล่าว
สอบสวน นายสายชล คำทิพย์ อายุ 31 ปี พยานในที่เกิดเหตุให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีขาว ซึ่งผู้ขับขี่สวมชุดมูลนิธิร่วมกตัญญูขับขี่ไปตามถนนพร้อมเพื่อน ระหว่างนั้นสังเกตเห็นมีรถจักรยานยนต์แบบออโตเมติกจำนวน 3 คัน ขับขี่ติดตาม โดยแต่ละคันมีผู้ขับขี่นั่งซ้อน 3 ซึ่งผู้ขับขี่สวมเครื่องแบบอาสาสมัครมูลนิธิสยามร่วมใจ หลังจากนั้นได้มีจักรยานยนต์ 1 ใน 3 คันขับขี่ชนท้ายรถจักรยานยนต์ของอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูจนล้มคว่ำ ซึ่งผู้บาดเจ็บได้ลุกขึ้นมาพร้อมมีปากเสียง แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็ถูกรุมกินโต๊ะจนอุตลุดกันไปมาทั้งสองฝ่าย ระหว่างนั้นจำได้ว่ารถกระบะสีขาวดังกล่าวได้ตามมาสมทบภายหลัง แต่ก็ได้ถูกทีมอาสาสมัครของมูลนิธิร่วมกตัญญูซึ่งได้ตั้งจุดรวมพลบริเวณปั๊มน้ำมันเจ็ท สาขาศรีนครินทร์ ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 500 เมตร ตามมาปิดล้อมภายหลังเพื่อไม่ให้เกิดเหตุบานปลาย
จากการสอบสวนคู่กรณีทั้งสองฝ่าย อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูให้การว่า กลุ่มอาสาสมัครของสยามร่วมใจได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เกาะกลุ่มเข้ามาในปั๊มเจ็ทศรีนครินทร์ พร้อมส่งเสียงด่าทอพวกตนอย่างสาดเสียเทเสียแต่ไม่ได้สนใจ จนกระทั่งเพื่อนในกลุ่มขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากปั๊มเพื่อจะกลับบ้านจึงประสบเหตุ
ในขณะที่ นายสัญญา เพชรส่ง อายุ 28 ปี ให้การว่า ตนพร้อมเพื่อนซึ่งเป็นอาสาสมัครมูลนิธิสยามร่วมใจ และได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในปั๊มน้ำมันเจ็ทเพื่อเปลี่ยนยางแต่กลับถูกมูลนิธิร่วมกตัญญูหาเรื่อง จึงได้ขับขี่จักรยานยนต์หลบหนี จนถูกตามมาทำร้ายภายหลัง
ด้าน ร.ต.อ.กันตภณ ปิ่นทอง ร้อยเวร กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ต้องแยกออกถึง 3 คดี คดีแรกคือ คดีรถชน คดีที่สองคือ ทะเลาะวิวาท และคดีอาวุธปืน สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นกำลังอยู่ในระหว่างสอบสวนว่ เป็นอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกันจนเกิดการทะเลาะวิวาท หรือเกิดจากความขัดแย้งไม่พอใจกันเป็นการส่วนตัว ซึ่งหลังจากที่อาสามูลนิธิทั้งสองได้ถึงขั้นลงไม้ลงมือชกต่อยกันแล้วก็ได้มีพรรคพวกของทั้งสองฝ่ายเข้ามาสมทบ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งก็คงจะต้องมีการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบปากคำพยานเพิ่มเติมในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองฝ่าย ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาสมัครใจทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหา พกพาและครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อเจ้าของรถกระบะที่กำลังจะตามเข้ามาสมทบ