“จ่ามี” มือฆ่าแม่ “คมคาย พลบุตร” เส้นเลือดหัวใจตีบ น้ำท่วมปอด ทรุดหนักขณะรออุทธรณ์โทษประหาร ราชทัณฑ์ส่งตัวเข้า รพ.ตำรวจ อธิบดีราชทัณฑ์เชื่ออาการทรุดจากความเครียด
วันนี้ (5 มี.ค.) รายงานข่าวจากกรมราชทัณฑ์แจ้งว่า นายสิทธิพร ขำอาจ หรือจ่ามี อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ จำเลยในคดีฆาตกรรมนางปัทมา เฟื่องประยูร มารดานางคมคาย พลบุตร อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถูกศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษประหารชีวิต ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ต่อสู้คดี โดยนายสิทธิพรถูกควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำกลางคลองเปรม (แดนความมั่นคงสูง) และถูกย้ายไปคุมขังที่เรือนจำกลางเขาบิน จังหวัดราชบุรี ตามนโยบายระบายผู้ต้องขังออกจากเรือนจำกลางบางขวาง และเรือนจำกลางคลองเปรม เพื่อไม่ให้นักโทษอุกฉกรรจ์ในเรือนจำความมั่นคงสูงถูกคุมขังรวมกันหนาแน่นเกินไป
ล่าสุด ในสัปดาห์นี้ นายสิทธิพรถูกส่งตัวจากเรือนจำกลางเขาบินมายังโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หลังมีอาการแน่นหน้าอกอย่างรุนแรงและช็อกจนหมดสติ แพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ช่วยเหลือเบื้องต้นแต่ไม่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์เฉพาะทางจึงต้องส่งตัวนักโทษไปรักษาที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลตำรวจ โดยมีญาติและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด
นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานว่านายสิทธิพรมีอาการแน่นหน้าอกอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงต้องนำตัวเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่นักโทษมีอาการหนัก เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งนำตัวส่งไปรักษาที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลตำรวจ เบื้องต้นพบว่านายสิทธิพรมีเส้นเลือดหัวใจตีบ น้ำท่วมปอด และอยู่ระหว่างดูอาการของแพทย์ ทั้งนี้ นายสิทธิพรมีโรคประจำตัวอยู่ก่อนหน้าที่จะถูกคุมขังในเรือนจำ และมีกินยารักษาอาการเจ็บป่วยอย่างต่อเนื่อง คาดว่าอาการป่วยกำเริบจากความเครียด คงไม่มีนักโทษอื่นไปทำร้ายร่างกายนายสิทธิพร อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่นายสิทธิพรเข้ารับรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาล เรือนจำจะส่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เฝ้าอาการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากนายสิทธิพรเป็นนักโทษประหาร
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบยังโรงพยาบาลตำรวจ ได้รับการเปิดเผยจากพล.ต.ต.นพ.สมยศ ดีมาก รองนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวถึงอาการของนายสิทธิพร ขำอาจ หรือจ่ามี อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น นายธานินท์ ขำอาจ จำเลยในคดีฆาตกรรมนางปัทมา เฟื่องประยูร มารดานางคมคาย พลบุตร อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายธานินท์มารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา จากการตรวจของแพทย์พบว่านายธานินท์ มีอาการแน่นหน้าอก ความดันโลหิตตก จนทำให้เกิดอาการช็อก เจ้าหน้าที่จึงนำตัวเข้ารักษายังหอผู้ป่วยหนักหัวใจและหลอดเลือด (ซีซียู) ตึกข้าราชการตำรวจศูนย์รักษาโรคหัวใจ
พล.ต.ต.นพ.สมยศ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้แพทย์ได้ทำการรักษาอาการป่วยของนายธานินท์ด้วยการฉีดสีเข้าหลอดเลือด เพื่อดูอาการก่อนว่าสามารถทำบอลลูนหรือผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ทราบผลการทดสอบ ต้องทดสอบด้วยการฉีดสีอีกครั้งภายใน 2 สัปดาห์นี้ ขณะนี้หลังจากแพทย์ได้ให้ยาละลายเกร็ดเลือดและยาขยายเส้นเลือดหัวใจกับนายธานนินท์แล้ว ปรากฏว่าอาการก็ทุเลาลง แต่ผู้ป่วยยังคงต้องให้ออกซิเจนทางจมูกอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คอยเฝ้าอย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง โดยปกติหากคนป่วยเป็นผู้ต้องหาจะต้องพักรักษาที่จะพักอยู่ที่ตึกเฉลิมพระเกียรติ ห้องผู้ต้องหา ชั้น 5 แต่กรณีนี้ผู้ป่วยมีอาการหนัก จึงให้พักรักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยหนักไปก่อนจนกว่าอาการจะทุเลา