“สมพงษ์” เข้าเยี่ยมคาราวะประธานศาลฎีกา หารือกฎหมาย ป.ป.ท.หวั่นชกลมเก้อ หากข้าราชการที่ถูกสอบทุจริตร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความกฎหมาย กรณี สนช.ร่วมประชุมไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ด้าน “จรัญ” ไม่ขอแสดงความเห็นเรื่องเปิดบ่อนเสรี
วันนี้ (5 มี.ค.) เวลา 10.00 น.ที่ศาลฎีกา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าเยี่ยมคาราวะนายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกาว่า ประธานศาลฎีกาได้ให้คำแนะนำหลายเรื่องในเรื่องข้อกฎหมาย โดยตนได้หารือเกี่ยวกับกฎหมายที่ออกโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กว่า 200 ฉบับ ซึ่งมีปัญหาสมาชิกเข้าร่วมประชุมไม่ถึงกึ่งหนึ่ง จึงเกรงจะมีปัญหาโดยเฉพาะกับการทำงานของสำนักงานป้องกันและปราบการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งจะต้องตรวจสอบกรณีทุจริตของข้าราชการตั้งแต่ระดับ 7 ลงมา จำนวนกว่า 6,000 คดี โดยฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาอาจมีข้อโต้แย้งว่า การผ่านกฎหมาย ป.ป.ท.ของ สนช.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และส่งเรื่องให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ ดังนั้น ถ้า ป.ป.ท.ทำงานไปโดยแล้วตัวกฎหมายไม่ถูกต้องจะกลายเป็นการชกลม ซึ่งประธานศาลฎีกาได้ให้คำแนะนำให้ดูในเนื้อหากฎหมายเป็นหลัก
นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ไม่มีการพูดคุยเรื่องที่นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ขอโอนกลับศาลยุติธรรม และเห็นว่าไม่ควรนำมาพูด เพราะเป็นเรื่องของนายจรัญ ต้องไปสอบถามกันเอง ซึ่งพวกท่านเองก็มีโอกาสพบปะพูดคุยกันบ่อยกว่าตน
นายสมพงษ์กล่าวถึงการเตรียมพร้อมประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ เพื่อเดินหน้าประกาศสงครามกับยาเสพติดว่า ตนได้เสนอให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานการประชุมด้วยตนเอง ขณะนี้วางแนวทางเบื้องต้นให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) วางยุทธศาสตร์และแนวทางปฏิบัติให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ในการประชุมกำหนดยุทธศาสตร์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตนจะเชิญกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการเข้าร่วมหารือด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจรัญซึ่งร่วมคณะเดินทางมาเยี่ยมคาราวะประธานศาลฎีกา ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทั้งเรื่องความคืบหน้าการขอโอนกลับศาลยุติธรรม และความเห็นกรณีการขายหวยบนดิน และการตั้งบ่อนกาสิโนในประเทศไทย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยมีบทบาทสำคัญในการคัดค้านการกำหนดนโยบายที่คาบเกี่ยวกับอบายมุข อาทิ หวยบนดิน
วันนี้ (5 มี.ค.) เวลา 10.00 น.ที่ศาลฎีกา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าเยี่ยมคาราวะนายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกาว่า ประธานศาลฎีกาได้ให้คำแนะนำหลายเรื่องในเรื่องข้อกฎหมาย โดยตนได้หารือเกี่ยวกับกฎหมายที่ออกโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กว่า 200 ฉบับ ซึ่งมีปัญหาสมาชิกเข้าร่วมประชุมไม่ถึงกึ่งหนึ่ง จึงเกรงจะมีปัญหาโดยเฉพาะกับการทำงานของสำนักงานป้องกันและปราบการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งจะต้องตรวจสอบกรณีทุจริตของข้าราชการตั้งแต่ระดับ 7 ลงมา จำนวนกว่า 6,000 คดี โดยฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาอาจมีข้อโต้แย้งว่า การผ่านกฎหมาย ป.ป.ท.ของ สนช.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และส่งเรื่องให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ ดังนั้น ถ้า ป.ป.ท.ทำงานไปโดยแล้วตัวกฎหมายไม่ถูกต้องจะกลายเป็นการชกลม ซึ่งประธานศาลฎีกาได้ให้คำแนะนำให้ดูในเนื้อหากฎหมายเป็นหลัก
นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ไม่มีการพูดคุยเรื่องที่นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ขอโอนกลับศาลยุติธรรม และเห็นว่าไม่ควรนำมาพูด เพราะเป็นเรื่องของนายจรัญ ต้องไปสอบถามกันเอง ซึ่งพวกท่านเองก็มีโอกาสพบปะพูดคุยกันบ่อยกว่าตน
นายสมพงษ์กล่าวถึงการเตรียมพร้อมประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ เพื่อเดินหน้าประกาศสงครามกับยาเสพติดว่า ตนได้เสนอให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานการประชุมด้วยตนเอง ขณะนี้วางแนวทางเบื้องต้นให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) วางยุทธศาสตร์และแนวทางปฏิบัติให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ในการประชุมกำหนดยุทธศาสตร์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตนจะเชิญกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการเข้าร่วมหารือด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจรัญซึ่งร่วมคณะเดินทางมาเยี่ยมคาราวะประธานศาลฎีกา ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทั้งเรื่องความคืบหน้าการขอโอนกลับศาลยุติธรรม และความเห็นกรณีการขายหวยบนดิน และการตั้งบ่อนกาสิโนในประเทศไทย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยมีบทบาทสำคัญในการคัดค้านการกำหนดนโยบายที่คาบเกี่ยวกับอบายมุข อาทิ หวยบนดิน
