ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงจับ ผู้ต้องหาค้ากัญชา และค้ายาบ้า 2 รายใหญ่ พบวงเงินหมุนเวียนสูงหลายล้าน คาดทำมาแล้วเป็นเวลานาน
วันนี้ (4 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.)พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.ก.พร้อมด้วย พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผบก.ทล.พ.ต.อ.ชัช สุกแก้วณรงค์ ผกก.ฝ่ายปฏิบัติการ4 บก.ทล.และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปฏิบัติการ 4 บก.ทล.แถลงผลติดตามจับกุมคนร้าย พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งจำนวน 473 แท่งๆ ละประมาณ 1 กก.มูลค่าประมาณ 1.4 ล้านบาท และรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน ทะเบียน ผฉ 3681 นครราชสีมา
พล.ต.ท.อดิศร กล่าวว่า ชุดปราบปรามฝ่ายปฏิบัติการ 4 บก.ทล.ได้รับแจ้งว่าจะมีกลุ่มผู้ลักลอบขนยาเสพติดมากับรถยนต์กระบะสีน้ำเงิน โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 213 สกลนคร-กาฬสินธุ์ จาก จ.สกลนคร มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ จึงได้วางกำลังสังเกตการณ์บริเวณ กม.117-118 หน้าหน่วยบริการสร้างค้อ ต.สร้างค้อ อ.ภูพาน จ.สกลนคร จนกระทั่งเวลา 05.00 น.วานนี้ รถกระบะคันดังกล่าววิ่งผ่านจุดสังเกตการณ์ด้วยความเร็ว เมื่อตำรวจให้สัญญาณเพื่อหยุดตรวจค้น คนขับกลับขับหลบหนีไป
พล.ต.ท.อดิศร กล่าวว่า ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ขับรถติดตามคนร้ายไปจนถึง กม.114-115 คนร้ายได้จอดรถกระบะทิ้งไว้โดยไม่ได้ดับเครื่อง แล้วเปิดประตูวิ่งหนีไป แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามติดตามหลายชั่วโมงแต่เนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างมืด ประกอบกับภูมิประเทศเป็นป่าทึบแถบเทือกเขาภูพาน ทำให้คนร้ายอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้ในที่สุด เมื่อกลับมาตรวจค้นรถยนต์ที่คนร้ายจอดทิ้งไว้ พบในกระบะหลังมีถุงสีดำจำนวน 16 ถุง ตรวจสอบข้างในเป็นถุงปุ๋ยบรรจุกัญชาแห้งอัดแท่ง รวม 473 แท่ง พร้อมจะส่งให้พนักงานสอบสวน บช.ปส. สืบสวนขยายผลและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนั้น พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.ก.ยังได้แถลงผลการจับกุม นายเสกสรร ไพรกระจ่าง อายุ 30 ปี นายสมบัติ เนื่องอุทัย อายุ 32 ปี นายชลอ แก้วจรูญ อายุ 43 ปี และนายสัญญา เปรมปรี อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาค้ายาบ้า พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 4,090 เม็ด เงินสด 560,000 บาท รถยนต์บีเอ็มดับบลิวสีดำ ทะเบียน ฐฉ 4739 กทม. รถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ฉ7793 กทม. รถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีดำ ทะเบียน ถก3141 กทม.กระสุนปืนอีกกว่า 50 นัด
พล.ต.ท.อดิศร กล่าวว่า ชุดปราบปราม ฝ่ายปฏิบัติการ 1 บก.ทล.ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบขนยาเสพติดโดยใช้เส้นทางหลวงถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าเข้า กทม.ระหว่าง กม.ที่ 48-49 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.คืนที่ผ่านมา จึงได้ตั้งจุดสกัดบริเวณดังกล่าว
จนกระทั่งถึงเวลาตามที่ได้รับแจ้ง นายเสกสรร และ นายสมบัติ รถบีเอ็มดับเบิลยู ผ่านด่านตรวจและแสดงพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงเรียกเพื่อตรวจค้นพบยาบ้า ซุกซ่อนที่นั่งใต้คนขับ จำนวน 10ถุง ถุงละประมาณ 200เม็ด และเงินสดจำนวน 150,00บาท และทำการสอบสวนจนสามารถขยายผลการจับกุมนายชลอและนายสัญญาได้ที่ ถ.สุวินทวงศ์ กม.40-41 เขตหนองจอก กทม. พร้อมของกลางยาบ้าอีกจำนวน 2,000 เม็ด ทั้งนี้จากการตรวจสอบสมุดบัญชีของแก๊งค้ายาบ้ารายนี้ยังพบมียอดเงินหมุนเวียนจากการค้ายาบ้าสูงถึง 13 ล้านบาท คาดว่าน่าจะผู้ค้าที่ทำมานานและเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาบ้ารายใหญ่ ซึ่งจะส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีและติดตามขยายผลต่อไป
วันนี้ (4 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.)พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.ก.พร้อมด้วย พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผบก.ทล.พ.ต.อ.ชัช สุกแก้วณรงค์ ผกก.ฝ่ายปฏิบัติการ4 บก.ทล.และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปฏิบัติการ 4 บก.ทล.แถลงผลติดตามจับกุมคนร้าย พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งจำนวน 473 แท่งๆ ละประมาณ 1 กก.มูลค่าประมาณ 1.4 ล้านบาท และรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน ทะเบียน ผฉ 3681 นครราชสีมา
พล.ต.ท.อดิศร กล่าวว่า ชุดปราบปรามฝ่ายปฏิบัติการ 4 บก.ทล.ได้รับแจ้งว่าจะมีกลุ่มผู้ลักลอบขนยาเสพติดมากับรถยนต์กระบะสีน้ำเงิน โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 213 สกลนคร-กาฬสินธุ์ จาก จ.สกลนคร มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ จึงได้วางกำลังสังเกตการณ์บริเวณ กม.117-118 หน้าหน่วยบริการสร้างค้อ ต.สร้างค้อ อ.ภูพาน จ.สกลนคร จนกระทั่งเวลา 05.00 น.วานนี้ รถกระบะคันดังกล่าววิ่งผ่านจุดสังเกตการณ์ด้วยความเร็ว เมื่อตำรวจให้สัญญาณเพื่อหยุดตรวจค้น คนขับกลับขับหลบหนีไป
พล.ต.ท.อดิศร กล่าวว่า ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ขับรถติดตามคนร้ายไปจนถึง กม.114-115 คนร้ายได้จอดรถกระบะทิ้งไว้โดยไม่ได้ดับเครื่อง แล้วเปิดประตูวิ่งหนีไป แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามติดตามหลายชั่วโมงแต่เนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างมืด ประกอบกับภูมิประเทศเป็นป่าทึบแถบเทือกเขาภูพาน ทำให้คนร้ายอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้ในที่สุด เมื่อกลับมาตรวจค้นรถยนต์ที่คนร้ายจอดทิ้งไว้ พบในกระบะหลังมีถุงสีดำจำนวน 16 ถุง ตรวจสอบข้างในเป็นถุงปุ๋ยบรรจุกัญชาแห้งอัดแท่ง รวม 473 แท่ง พร้อมจะส่งให้พนักงานสอบสวน บช.ปส. สืบสวนขยายผลและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนั้น พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.ก.ยังได้แถลงผลการจับกุม นายเสกสรร ไพรกระจ่าง อายุ 30 ปี นายสมบัติ เนื่องอุทัย อายุ 32 ปี นายชลอ แก้วจรูญ อายุ 43 ปี และนายสัญญา เปรมปรี อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาค้ายาบ้า พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 4,090 เม็ด เงินสด 560,000 บาท รถยนต์บีเอ็มดับบลิวสีดำ ทะเบียน ฐฉ 4739 กทม. รถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ฉ7793 กทม. รถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีดำ ทะเบียน ถก3141 กทม.กระสุนปืนอีกกว่า 50 นัด
พล.ต.ท.อดิศร กล่าวว่า ชุดปราบปราม ฝ่ายปฏิบัติการ 1 บก.ทล.ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบขนยาเสพติดโดยใช้เส้นทางหลวงถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าเข้า กทม.ระหว่าง กม.ที่ 48-49 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.คืนที่ผ่านมา จึงได้ตั้งจุดสกัดบริเวณดังกล่าว
จนกระทั่งถึงเวลาตามที่ได้รับแจ้ง นายเสกสรร และ นายสมบัติ รถบีเอ็มดับเบิลยู ผ่านด่านตรวจและแสดงพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงเรียกเพื่อตรวจค้นพบยาบ้า ซุกซ่อนที่นั่งใต้คนขับ จำนวน 10ถุง ถุงละประมาณ 200เม็ด และเงินสดจำนวน 150,00บาท และทำการสอบสวนจนสามารถขยายผลการจับกุมนายชลอและนายสัญญาได้ที่ ถ.สุวินทวงศ์ กม.40-41 เขตหนองจอก กทม. พร้อมของกลางยาบ้าอีกจำนวน 2,000 เม็ด ทั้งนี้จากการตรวจสอบสมุดบัญชีของแก๊งค้ายาบ้ารายนี้ยังพบมียอดเงินหมุนเวียนจากการค้ายาบ้าสูงถึง 13 ล้านบาท คาดว่าน่าจะผู้ค้าที่ทำมานานและเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาบ้ารายใหญ่ ซึ่งจะส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีและติดตามขยายผลต่อไป