ศาลยังไม่ได้รับการติดต่อจากอัยการที่จะขอคัดค้านการประกันตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่อัยการระบุคดีอาญาที่จำเลยมอบตัวไม่จำเป็นต้องยื่นคัดค้านการประกันตัว ส่วนบรรยากาศที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตำรวจพรึบ 1 กองร้อยดูแลความปลอดภัย และกำลังอีก 1 กองร้อยประจำ ณ ที่ตั้ง พร้อมเสมอหากสถานการณ์วิกฤติหรือรุนแรง ขณะที่กองเชียร์ทยอยเดินทางมาคอยให้กำลังใจแล้ว
วันนี้ (28 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องเดินทางมาเข้ามอบตัวในคดีคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก มูลค่า 772 ล้านบาท ซึ่งมี พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ภริยาเป็นจำเลยที่ 1 และ 2 กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 100, 122 และมาตรา 4 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 และ 157 ภายหลังเดินทางจากฮ่องกงมาถึงยังสนามบินสุวรรณภูมิ และต้องถูกตำรวจควบคุมตัวมายังศาลฎีกาฯ ทันทีว่า โดยรอบบริเวณถนนหน้าหับเผย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 กองร้อยจำนวน 150 นาย ยืนคุมพื้นที่โดยรอบ และมีการนำแผงเหล็กมากั้นตลอดแนวตั้งแต่ด้านหน้าช่วงถนนราชดำเนินตัดเข้าถนนหน้าหับเผย จนถึงประตูทางเข้าอาคารศาลฎีกาฯ และกันไม่ให้บุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าไปภายใน ส่วนด้านหน้าอาคารมีการนำรั้วมากั้นโดยรอบ และให้สื่อมวลชนบันทึกภาพทำข่าวได้เพียงนอกรั้วเท่านั้น นอกจากนี้ ที่ด้านนนอกยังมีป้ายติดเป็นข้อความเตือนว่า “การส่งเสียงรบกวนการพิจารณาของศาล อาจเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล”
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 ซึ่งเดินทางไปดูแลความปลอดภัย กล่าวว่า ได้จัดเตรียมกำลังจำรวจ 150 นายดูแลพื้นที่โดยรอบ ซึ่งคาดว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น และนอกจากนี้ ยังมีกำลังตำรวจเตรียมพร้อม ณ ที่ตั้งอีก 1 กองร้อย และยังมีตำรวจนอกเครื่องแบบกระจายอยู่พื้นที่โดยรอบเพื่อติดตามหาข่าว แต่ทั้งนี้เชื่อว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้มีประชาชนเดินทางมายรังบริเวณศาลฎีกาเพื่อคอยให้กำลังใจพ.ต.ท.ทักษิณ ประมาณ 100 คน บางคนสวมเสื้อมีข้อความ “เรารักทักษิณ” พร้อมทั้งมีการนำหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวเกี่ยวกับกาาเดินทางกลับบ้านของ พ.ต.ท.ทักษิณมาชู หรือบางคนยังคงตะโกนเชียร์ให้กำลังใจด้วยถ้อยคำ “ยินดีต้อนรับทักษิณกลับบ้าน” เป็นต้น
ด้าน นายรักเกียรติ์ วัฒนพงษ์ เลขานุการ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กล่าวถึงขั้นตอนต่างๆ เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาถึงศาลว่า เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมายังถึงศาลอาญาแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งจะควบคุมตัวทักษิณขึ้นมายังห้องพักคู่ความ บนชั้น 4 อาคารศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยระหว่าง การพิจารณาประกันตัว ศาล จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ นั่งรอฟังคำสั่งอยู่ในห้องพักดังกล่าว ส่วนการพิจารณาประกันจะมีนายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนพร้อมผู้พิพากษาองค์คณะอีก 2 คน ร่วมกันพิจารณาคำสั่งว่าจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่ ซึ่งองค์คณะผู้พิพากษาจะแยกอยู่คนละห้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
อย่างไรก็ดี ในการพิจารณาประกันตัวนั้น ไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะยื่นคำร้องเพิ่มเติมขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศหรือไม่ ศาลก็จะพิจารณา กำหนดเงื่อนไขในการประกันตัวเอง ซึ่งจะมีลักษณะเช่นเดียวกับกรณีของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จำเลยที่ 2 ที่เคยได้ยื่นประกันตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนหลักทรัพย์ที่ศาลจะพิจารณา ในการประกันตัวนั้น ขณะนี้ ไม่ได้กำหนดว่าจะมีมูลค่าจำนวนเท่าใด ทั้งนี้ต้องพิจารณาหลักทรัพย์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะยื่นอีกครั้ง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะใช้จำนวนเท่ากับที่คุณหญิงพจมานเคยยื่นไว้จำนวน 5 ล้านบาท หรือมากกว่าก็ได้
นายรักเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่อัยการสูงสุดในฐานะโจทก์ที่ยื่นฟ้องคดีนี้ จะยื่นคัดค้านการประกันตัวหรือไม่นั้น ในการพิจารณาประกันตัวนั้น ศาลสามารถใช้ดุลยพินิจในการประกันตัวได้ พร้อมกำหนดเงื่อนไขการประกันตัวได้เอง และเนื่องจากคดีนี้ โทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 10 ปี ดังนั้น ในการพิจารณาประกันตัว ศาลก็ไม่จำเป็นจะต้องสอบถามอัยการโจทก์ว่าจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่ ขณะที่เวลานี้ก็ไม่ปรากฏว่านายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ได้ยื่นหนังสือคัดค้านประกันตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาแต่อย่างใด
นายรักเกียรติ กล่าวด้วยว่า ในการพิจารณาของศาลในวันนี้จะใช้เวลาทั้งสิ้นไม่เกิน 1 ชั่วโมง โดย หลังจากที่ศาลพิจารณาประกันตัวแล้วจะได้กำหนดนัดวันพิจารณาครั้งแรก เพื่อสอบคำให้การจำเลยต่อไป
ขณะเดียวกัน นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์ว่าอัยการคงไม่ได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากตามปกติในการดำเนินคดีอาญากับจำเลย หากจำเลยเข้ามอบตัวก็จะไม่มีการยื่นคัดค้านแต่อย่างใด
พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ต.วัจนนท์ ถิระวัฒน์ รอง ผบช.น. ได้เดินทางมาดูแลความเรียบร้อยบริเวณด้านหน้าอาคารศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดย พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า ในส่วนนี้ได้กำชับไปยัง พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช ผบก.น.8 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรอบพื้นที่บริเวณโรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ ย่านคลองสาน ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะใช้เป็นที่พัก ส่วนที่บ้านพักจันทร์ส่องหล้า ได้สั่งกำชับให้ พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.7 ดูแลโดยรอบ
“กรณีที่มีกระแสข่าวการลอบสังหารนั้น ผมขอยืนยันว่าไม่มีแน่นอน อย่าฟังเสียงลือ ไม่มีก็คือไม่มี ส่วนข่าวว่าอาวุธปืนซุ่มยิงระยะไกลจำนวน 3 กระบอก ยี่ห้อ SIG 3000 ขนาด 7.62 มม. ระยะหวังผล 600 เมตร ของทหารหายไปนั้น เรื่องนี้ผมไม่ทราบ อีกทั้งปืนก็เป็นปืนทหาร ทหารควรจะต้องรู้ และถ้าหายจริงก็ต้องมีการแจ้งความไว้แล้ว” พล.ต.ท.อัศวินกล่าวย้ำ
ที่โรงแรมเพนนินซูล่ากรุงเทพฯ ย่านคลองสาน ภายหลังมีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะใช้เป็นสถานที่พัก ในช่วงระหว่างต่อสู้คดี มีพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรมออกตรวจตามจุดต่าง ๆ ทั้งด้านในและนอกโรงแรมอย่างเข้มงวด รวมทั้งที่บ้านพักจันทร์ส่องหล้า ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ได้สั่งการให้ตำรวจ 191 ผลัดเปลี่ยนดูแลความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง โดยตำรวจ 2 นาย จะออกตรวจรอบบ้านทุก 20 นาที ผลัดเปลี่ยนกะทุก 4 ชั่วโมง
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พ.ต.อ.อาคม จันทนราช ผกก.สน.พหลโยธิน กล่าวภายหลังเข้าตรวจสอบความเรียบร้อยในสำนักงานอัยการสูงสุดว่า ไม่มีการเพิ่มกำลังตรวจเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้จัดชุดเจ้าหน้าตำรวจกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด กองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าตรวจสอบความเรียบร้อย รวมถึงวัตถุต้องสงสัยทุกชั้นก็ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด ทั้งนี้ได้มีการจัดเตรียมกำลังตำรวจกองบังคับการสันติบาล 2 ไว้จำนวน 2 กองร้อย เพื่อดูแลความเรียบร้อย รวมถึงการตรวจสอบตึกสูงโดยรอบ เพื่อป้องกันการใช้อาวุธปืนระยะไกลซุ่มยิง อีกทั้งเตรียมเจ้าหน้าที่ปราบปรามจลาจลไว้ ณ ที่ตั้งอีก 50 นาย หากมีกลุ่มผู้สนับสนุนมาให้กำลังใจ และกลุ่มต่อต้านอาจเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายได้
ส่วนบรรยากาศขณะนี้บริเวณสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาฯ ยังคงเงียบเหงาไม่มีกลุ่มผู้สนับสนุน เดินทางมาต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เตรียมส่งมอบตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ต้องหาคดีปกปิดการผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเซท ให้กับพนักงานอัยการภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ในส่วนของการวางกำลังรักษาความปลอดภัย ได้มีการนำกำลังตำรวจจาก บก.น.2 จำนวน 200 นาย ตำรวจปราบจราจลไม่ระบุจำนวน โดยให้ประจำ ณ ที่ตั้ง พร้อมเรียกปฏบัติการได้ใน 30 นาที โดยแบ่งกำลังบริเวณรอบอาคารสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ด้านล่างอาคารมีการวางแนวกั้นรั้ว ไม่ให้ผู้สื่อข่าวและประชาชนเข้าบริเวณอาคาร ส่วนบรรยายกาศล่าสุดที่สำนักงานอัยการเริ่มมีประชาชนทะยอยเดินทางมาให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เรื่อยๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขั้นตอนหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พนักงานสอบสวนก็จะต้องแจ้งข้อกล่าวหา กระทำผิดตาม พรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จากนั้นพนักงานสอบสวนก็จะสอบปากคำ ซึ่งจะเป็นการสอบสวนระหว่างพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกับอัยการฝ่ายคดีพิเศษ และก็จะส่งตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานอัยการ ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับพนังานอัยการว่าจะให้ประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์เท่าใด ซึ่งพนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการประกันตัว
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.43 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเลยที่ 1 ในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ เดินทางถึงศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อมอบตัวแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนรถของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั่งรถไคล์เลอร์ สีเทา ทะเบียน ธค-1991 กทม. โดยนั่งมากับนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ทั้งนี้ ในขบวนดังกล่าว มีรถจักรยานยนต์ตำรวจนำขบวน 5 คัน ตามด้วยรถยนต์ตำรวจติดไซเรน 2 คัน รถยนต์เลกซัส สีดำ ทะเบียน วข-9999 กทม. ของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย และรถยนต์ของพ.ต.ท.ทักษิณ จากนั้นมีรถตู้ปิดขบวนอีก 2 คัน
เมื่อมาถึง รถของพ.ต.ท.ทักษิณ ไปจอดที่หน้าตึกทางขึ้นอาคารศาลฎีกา มีพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ไปรอตอนรับ เมื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ลงมาจากรถ ได้ยกมือไหว้รับพล.ต.ท.อัศวิน จากนั้น โบกมือให้กับประชาชนที่มารอให้กำลังใจ แล้วเดินขึ้นอาคารศาลฎีกาไปในทันที
วันนี้ (28 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องเดินทางมาเข้ามอบตัวในคดีคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก มูลค่า 772 ล้านบาท ซึ่งมี พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ภริยาเป็นจำเลยที่ 1 และ 2 กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 100, 122 และมาตรา 4 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 และ 157 ภายหลังเดินทางจากฮ่องกงมาถึงยังสนามบินสุวรรณภูมิ และต้องถูกตำรวจควบคุมตัวมายังศาลฎีกาฯ ทันทีว่า โดยรอบบริเวณถนนหน้าหับเผย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 กองร้อยจำนวน 150 นาย ยืนคุมพื้นที่โดยรอบ และมีการนำแผงเหล็กมากั้นตลอดแนวตั้งแต่ด้านหน้าช่วงถนนราชดำเนินตัดเข้าถนนหน้าหับเผย จนถึงประตูทางเข้าอาคารศาลฎีกาฯ และกันไม่ให้บุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าไปภายใน ส่วนด้านหน้าอาคารมีการนำรั้วมากั้นโดยรอบ และให้สื่อมวลชนบันทึกภาพทำข่าวได้เพียงนอกรั้วเท่านั้น นอกจากนี้ ที่ด้านนนอกยังมีป้ายติดเป็นข้อความเตือนว่า “การส่งเสียงรบกวนการพิจารณาของศาล อาจเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล”
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 ซึ่งเดินทางไปดูแลความปลอดภัย กล่าวว่า ได้จัดเตรียมกำลังจำรวจ 150 นายดูแลพื้นที่โดยรอบ ซึ่งคาดว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น และนอกจากนี้ ยังมีกำลังตำรวจเตรียมพร้อม ณ ที่ตั้งอีก 1 กองร้อย และยังมีตำรวจนอกเครื่องแบบกระจายอยู่พื้นที่โดยรอบเพื่อติดตามหาข่าว แต่ทั้งนี้เชื่อว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้มีประชาชนเดินทางมายรังบริเวณศาลฎีกาเพื่อคอยให้กำลังใจพ.ต.ท.ทักษิณ ประมาณ 100 คน บางคนสวมเสื้อมีข้อความ “เรารักทักษิณ” พร้อมทั้งมีการนำหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวเกี่ยวกับกาาเดินทางกลับบ้านของ พ.ต.ท.ทักษิณมาชู หรือบางคนยังคงตะโกนเชียร์ให้กำลังใจด้วยถ้อยคำ “ยินดีต้อนรับทักษิณกลับบ้าน” เป็นต้น
ด้าน นายรักเกียรติ์ วัฒนพงษ์ เลขานุการ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กล่าวถึงขั้นตอนต่างๆ เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาถึงศาลว่า เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมายังถึงศาลอาญาแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งจะควบคุมตัวทักษิณขึ้นมายังห้องพักคู่ความ บนชั้น 4 อาคารศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยระหว่าง การพิจารณาประกันตัว ศาล จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ นั่งรอฟังคำสั่งอยู่ในห้องพักดังกล่าว ส่วนการพิจารณาประกันจะมีนายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนพร้อมผู้พิพากษาองค์คณะอีก 2 คน ร่วมกันพิจารณาคำสั่งว่าจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่ ซึ่งองค์คณะผู้พิพากษาจะแยกอยู่คนละห้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
อย่างไรก็ดี ในการพิจารณาประกันตัวนั้น ไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะยื่นคำร้องเพิ่มเติมขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศหรือไม่ ศาลก็จะพิจารณา กำหนดเงื่อนไขในการประกันตัวเอง ซึ่งจะมีลักษณะเช่นเดียวกับกรณีของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จำเลยที่ 2 ที่เคยได้ยื่นประกันตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนหลักทรัพย์ที่ศาลจะพิจารณา ในการประกันตัวนั้น ขณะนี้ ไม่ได้กำหนดว่าจะมีมูลค่าจำนวนเท่าใด ทั้งนี้ต้องพิจารณาหลักทรัพย์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะยื่นอีกครั้ง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะใช้จำนวนเท่ากับที่คุณหญิงพจมานเคยยื่นไว้จำนวน 5 ล้านบาท หรือมากกว่าก็ได้
นายรักเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่อัยการสูงสุดในฐานะโจทก์ที่ยื่นฟ้องคดีนี้ จะยื่นคัดค้านการประกันตัวหรือไม่นั้น ในการพิจารณาประกันตัวนั้น ศาลสามารถใช้ดุลยพินิจในการประกันตัวได้ พร้อมกำหนดเงื่อนไขการประกันตัวได้เอง และเนื่องจากคดีนี้ โทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 10 ปี ดังนั้น ในการพิจารณาประกันตัว ศาลก็ไม่จำเป็นจะต้องสอบถามอัยการโจทก์ว่าจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่ ขณะที่เวลานี้ก็ไม่ปรากฏว่านายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ได้ยื่นหนังสือคัดค้านประกันตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาแต่อย่างใด
นายรักเกียรติ กล่าวด้วยว่า ในการพิจารณาของศาลในวันนี้จะใช้เวลาทั้งสิ้นไม่เกิน 1 ชั่วโมง โดย หลังจากที่ศาลพิจารณาประกันตัวแล้วจะได้กำหนดนัดวันพิจารณาครั้งแรก เพื่อสอบคำให้การจำเลยต่อไป
ขณะเดียวกัน นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์ว่าอัยการคงไม่ได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากตามปกติในการดำเนินคดีอาญากับจำเลย หากจำเลยเข้ามอบตัวก็จะไม่มีการยื่นคัดค้านแต่อย่างใด
พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ต.วัจนนท์ ถิระวัฒน์ รอง ผบช.น. ได้เดินทางมาดูแลความเรียบร้อยบริเวณด้านหน้าอาคารศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดย พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า ในส่วนนี้ได้กำชับไปยัง พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช ผบก.น.8 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรอบพื้นที่บริเวณโรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ ย่านคลองสาน ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะใช้เป็นที่พัก ส่วนที่บ้านพักจันทร์ส่องหล้า ได้สั่งกำชับให้ พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.7 ดูแลโดยรอบ
“กรณีที่มีกระแสข่าวการลอบสังหารนั้น ผมขอยืนยันว่าไม่มีแน่นอน อย่าฟังเสียงลือ ไม่มีก็คือไม่มี ส่วนข่าวว่าอาวุธปืนซุ่มยิงระยะไกลจำนวน 3 กระบอก ยี่ห้อ SIG 3000 ขนาด 7.62 มม. ระยะหวังผล 600 เมตร ของทหารหายไปนั้น เรื่องนี้ผมไม่ทราบ อีกทั้งปืนก็เป็นปืนทหาร ทหารควรจะต้องรู้ และถ้าหายจริงก็ต้องมีการแจ้งความไว้แล้ว” พล.ต.ท.อัศวินกล่าวย้ำ
ที่โรงแรมเพนนินซูล่ากรุงเทพฯ ย่านคลองสาน ภายหลังมีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะใช้เป็นสถานที่พัก ในช่วงระหว่างต่อสู้คดี มีพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรมออกตรวจตามจุดต่าง ๆ ทั้งด้านในและนอกโรงแรมอย่างเข้มงวด รวมทั้งที่บ้านพักจันทร์ส่องหล้า ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ได้สั่งการให้ตำรวจ 191 ผลัดเปลี่ยนดูแลความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง โดยตำรวจ 2 นาย จะออกตรวจรอบบ้านทุก 20 นาที ผลัดเปลี่ยนกะทุก 4 ชั่วโมง
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พ.ต.อ.อาคม จันทนราช ผกก.สน.พหลโยธิน กล่าวภายหลังเข้าตรวจสอบความเรียบร้อยในสำนักงานอัยการสูงสุดว่า ไม่มีการเพิ่มกำลังตรวจเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้จัดชุดเจ้าหน้าตำรวจกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด กองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าตรวจสอบความเรียบร้อย รวมถึงวัตถุต้องสงสัยทุกชั้นก็ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด ทั้งนี้ได้มีการจัดเตรียมกำลังตำรวจกองบังคับการสันติบาล 2 ไว้จำนวน 2 กองร้อย เพื่อดูแลความเรียบร้อย รวมถึงการตรวจสอบตึกสูงโดยรอบ เพื่อป้องกันการใช้อาวุธปืนระยะไกลซุ่มยิง อีกทั้งเตรียมเจ้าหน้าที่ปราบปรามจลาจลไว้ ณ ที่ตั้งอีก 50 นาย หากมีกลุ่มผู้สนับสนุนมาให้กำลังใจ และกลุ่มต่อต้านอาจเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายได้
ส่วนบรรยากาศขณะนี้บริเวณสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาฯ ยังคงเงียบเหงาไม่มีกลุ่มผู้สนับสนุน เดินทางมาต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เตรียมส่งมอบตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ต้องหาคดีปกปิดการผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเซท ให้กับพนักงานอัยการภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ในส่วนของการวางกำลังรักษาความปลอดภัย ได้มีการนำกำลังตำรวจจาก บก.น.2 จำนวน 200 นาย ตำรวจปราบจราจลไม่ระบุจำนวน โดยให้ประจำ ณ ที่ตั้ง พร้อมเรียกปฏบัติการได้ใน 30 นาที โดยแบ่งกำลังบริเวณรอบอาคารสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ด้านล่างอาคารมีการวางแนวกั้นรั้ว ไม่ให้ผู้สื่อข่าวและประชาชนเข้าบริเวณอาคาร ส่วนบรรยายกาศล่าสุดที่สำนักงานอัยการเริ่มมีประชาชนทะยอยเดินทางมาให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เรื่อยๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขั้นตอนหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พนักงานสอบสวนก็จะต้องแจ้งข้อกล่าวหา กระทำผิดตาม พรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จากนั้นพนักงานสอบสวนก็จะสอบปากคำ ซึ่งจะเป็นการสอบสวนระหว่างพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกับอัยการฝ่ายคดีพิเศษ และก็จะส่งตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานอัยการ ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับพนังานอัยการว่าจะให้ประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์เท่าใด ซึ่งพนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการประกันตัว
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.43 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเลยที่ 1 ในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ เดินทางถึงศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อมอบตัวแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนรถของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั่งรถไคล์เลอร์ สีเทา ทะเบียน ธค-1991 กทม. โดยนั่งมากับนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ทั้งนี้ ในขบวนดังกล่าว มีรถจักรยานยนต์ตำรวจนำขบวน 5 คัน ตามด้วยรถยนต์ตำรวจติดไซเรน 2 คัน รถยนต์เลกซัส สีดำ ทะเบียน วข-9999 กทม. ของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย และรถยนต์ของพ.ต.ท.ทักษิณ จากนั้นมีรถตู้ปิดขบวนอีก 2 คัน
เมื่อมาถึง รถของพ.ต.ท.ทักษิณ ไปจอดที่หน้าตึกทางขึ้นอาคารศาลฎีกา มีพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ไปรอตอนรับ เมื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ลงมาจากรถ ได้ยกมือไหว้รับพล.ต.ท.อัศวิน จากนั้น โบกมือให้กับประชาชนที่มารอให้กำลังใจ แล้วเดินขึ้นอาคารศาลฎีกาไปในทันที
