ตำรวจรวบมือจ้างวานส่งเค้กพิษนักเรียนโรงเรียนสาธุประดิษฐ์พาณิชยการแล้ว เป็นเด็กสาวสถาบันเดียวกัน สารภาพเอายาฆ่าแมลงโรยใส่เค้กหวังล้างแค้นโดนรุมทำร้าย ไม่หวังให้ถึงตาย ตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายส่งตัวเข้าสถานพินิจ
จากเหตุการณ์เด็กนักเรียนพาณิชย์โรงเรียนสาธุประดิษฐ์พาณิชยการรับประทานเค้กที่มีวินจักรยานยนต์นำมาฝากไว้ให้ แล้วเกิดอาเจียนปวดศีรษะอย่างรุนแรงคล้ายถูกวางยา จนต้องนำตัวส่งตามโรงยาบาลต่างๆ รวมจำนวน 25 คน แบ่งเป็นนักเรียนชาย 12 คน นักเรียนหญิง 13 คน เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (22 ก.พ.) นั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (23 ก.พ.) พ.ต.ต. ณัฐพงษ์ เกิดเยี่ยม พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.บางโพงพาง เจ้าของคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า ได้นำเค้กที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นตัวอย่างในเกิดเหตุ ส่งไปตรวจพิสูจน์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อหาสารปนเปื้อนที่เป็นต้นเหตุให้บรรดานักเรียนเกิดอาการแพ้แล้ว โดยคาดว่าผลการตรวจพิสูจน์น่าจะออกมาในอาทิตย์หน้า โดยผู้ก่อเหตุต้องถูกดำเนินคดีทำร้ายร่างกาย แต่หากพบว่าในเค้กมีสารปนเปื้องที่ร้ายแรงจนสามารถทำให้ถึงเสียชีวิตได้นั้นก็สามารถแจ้งข้อหาพยายามฆ่ากับผู้ก่อเหตุได้
ต่อมาเวลา 10.00 น.พ.ต.ท.กฤษณ์ แจ้งแสง สว.สส.สน.บางโพงพาง ได้เชิญตัวนายอภิชาติ กมขุนทด อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 588 ม.1 ต.ห้วยยายจิ๋ว อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ จักรยานยนต์รับจ้างวินตลาดลานทรายใกล้ซอยสาธุประดิษฐ์ 51 เสื้อวินเบอร์ 6 ที่เป็นคนรับจ้างส่งขนมเค้กไปที่โรงเรียนที่เกิดเหตุมาสอบปากคำเพิ่มเติม
เบื้องต้นนายอภิชาติ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีผู้หญิงอายุประมาณ 16-18 ปี สูงประมาณ 160 ซม. ผมยาวประบ่า ผิวดำแดง มีไฝที่ริมฝีปากด้านบน สวมเสื้อยืดคอกลมสีชมพู กางเกงขาสั้นสีฟ้า มาว่าจ้างให้ตนนำกล่องขนมเค้กไปส่งที่โรงเรียน พร้อมจ่ายเงินให้ 30 บาท โดยครั้งแรกตนขับไปส่งที่โรงเรียนแล้วแต่ไม่พบผู้รับจึงกลับขับมาที่วิน ต่อมาผู้หญิงคนเดิมก็กลับมาหา พร้อมทั้งจ้างตนอีกครั้งในราคาเท่าเดิมให้เอาเค้กไปส่งที่ห้องธุรการของโรงเรียน ตนก็ไปส่งให้ตามที่บอก
นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นประมาณชั่วโมงเศษหญิง ผู้หญิงคนเดิมก็กลับมาหาตนอีกครั้ง แต่คราวนี้สวมหวกกันน็อกแบบครึ่งใบ มือขวากำเงินประมาณ 3-4 พันบาท ไม่สวมรองเท้า เสื้อผ้าก็เปื้อนน้ำคล้ายรอยโดนสาด อีกทั้งก็มีร่องรอยขีดข่วนตามลำตัว คล้ายเพิ่งไปทะเลาะกับใครมา โดยหญิงคนดังกล่าวบอกตนว่า “พี่อย่าบอกใครนะว่า หนูฝากขนมไปให้พี่ส่ง” หลังจากนั้นหญิงคนดังกล่าวก็รีบเดินไปปากซอยสาธุประดิษฐ์ 49 โดยตนไม่ได้สังเกตว่า มีใครมารับหรือไม่ จนกระทั่งมารู้จากเพื่อนว่าขนมเค้กที่ตนเอาไปส่งที่โรงเรียนนั้นมีสารพิษเจือปนอยู่ จึงติดต่อกับทางฝ่ายสืบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ต่อมาเวลา 15.00 น. พ.ต.ท.กฤษณ์ แจ้งแสง สว.สส.สน.บางโพงพาง พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน ได้เดินทางเข้าไปติดต่อภายในโรงเรียนที่เกิดเหตุ ก็ได้ร้บข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือนเศษ มีกลุ่มนักเรียนชั้น ปวช.3 แผนกคอมพิวเตอร์ มีเรื่องกระทบกระทั่งกันถึงขั้นลงไม้ลงมือ โดยมีเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งคือ น.ส.โอ๋ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ถูกพักการเรียนไป ประกอบกับเด็กคนดังกล่าวไม่กล้ามาเรียนด้วย แต่อาจารย์ก็ให้สิทธิ์ให้อ่านหนังสืออยู่บ้าน ให้เข้าสอบได้เมื่อถึงเวลา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบขอดูรูปและตรวจสอบประวัติของเด็กนักเรียนหญิงคนดังกล่าวพร้อมทั้งนำรูปมาให้นายอภิชาติดู ก็ปรากฏว่าตรงกับผู้หญิงที่นำเค้กมาว่าจ้างให้นายอภิชาติไปส่งที่โรงเรียน เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปยังบ้านพักของ น.ส.โอ๋ เพื่อพบผู้ปกครองแจ้งเรื่องให้ทราบ พร้อมประสานให้ผู้ปกครองนำตัวมามอบตัวที่ สน.บางโพงพาง โดยมี พ.ต.อ.อาจินต์ จารุวร รอง ผบก.น.5 ร่วมทำการสอบปากคำโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
จากนั้น พ.ต.อ.อาจินต์ เปิดเผยว่า หลังจากจักรยานยนต์รับจ้างออกมาแสดงความบริสุทธิ์ในเรื่องนี้ พร้อมให้ข้อมูลกับเกี่ยวกับคนว่าจ้างแล้ว เจ้าหนาที่ก็ได้กันตัวไว้เป็นพยาน จากนั้นก็ได้ไปสอบที่โรงเรียนที่เกิดเหตุจนทราบสาเหตที่ทำให้มีการวางยาในเค้ก โดยจากการสอบปากคำ น.ส.โอ๋ ก็ให้การรับสารภาพว่าที่ทำไปเพราะโกรธแค้นเพื่อน เนื่องจากเมื่อประมาณ 1 เดือนเศษ ได้ทะเลาะกันแล้วมีกลุ่มเพื่อนเข้ามารุมตบตีทำร้ายร่างกาย น.ส.โอ๋ จนกระทั่งโดนพักการเรียนไป แต่ทางโรงเรียนก็เห็นใจและให้อ่านหนังสืออยู่บ้านแล้วเดินทางมาสอบได้
พ.ต.อ.อาจินต์ กล่าวต่อว่า น.ส.โอ๋ รับสารภาพอีกว่า วางแผนแก้แค้นเพื่อน โดยในวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านได้ไปซื้อเค้กที่ตลาดรุ่งเจริญ ถนนสาธุประดิษฐ์ จำนวน 3 กล่อง กล่องละ 2 ปอนด์ ราคารวม 250 บาท จากนั้นก็นำยาฆ่าแมลงชนิดผงสีฟ้า แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นชนิดใดมาโรยหน้าเค้ก ซึ่งผงยาฆ่าแมลงดังกล่าวก็ได้มาจากเพื่อนที่เรียนวิชาการเกษตรที่ต่างจังหวัด หลังจากใช้แล้วก็นำยาฆ่าแมลงไปทิ้งขยะ จากนั้นในวันศุกร์ น.ส.โอ๋ ก็นำเค้กไปว่าจ้างให้นายอภิชาตินำไปส่งที่โรงเรียน
พ.ต.อ.อาจินต์ กล่าวต่อว่า ดูจากลักษณะการก่อเหตุแล้ว เชื่อว่า น.ส.โอ๋ ไม่ต้องการให้ถึงแก่ความตาย เพราะโรยไว้ในแต่ละชิ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายไว้ก่อน ส่วนจะแจ้งข้อหาเพิ่มหรือไม่นั้นต้องรอผลการตรวจสารพิษจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่า เป็นสารพิษดังกล่าวมีฤทธิ์ร้ายแรงทำให้ถึงแก่ความตายได้หรือไม่ ซึ่งหากเป็นชนิดร้ายแรงก็สามารถแจ้งข้อหาพยายามได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะนำตัว น.ส.โอ๋ ส่งสถานพินิจบ้านปรานี พร้อมทั้งจะรับตัวมาสอบปากคำอีกครั้งพร้อมเจ้าหน้าสหวิชาชีพ คือ อัยการ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ และบุคคลที่เด็กไว้วางไว้วางใจ ส่วนการสอบปากคำผู้เสียหายซึ่งเป็นนักเรียนทั้ง 25 คนนั้น ขณะนี้ทราบว่าออกจากโรงพยาบาลหมดแล้ว ซึ่งจะติดต่อมาสอบปากคำภายหลัง
