ญาติผู้ต้องขังซุกยาบ้าเกือบ 1,000 เม็ด มาในกระป๋องแป้งเภสัช แต่เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางคลองเปรม ตรวจพบก่อน ผบ.คลองเปรม เผย แต่ละวันเจ้าหน้าที่ต้องตรวจพัสดุถึงวันละ 200 กล่อง เตือนบรรดาญาติผู้ต้องขัง หากตรวจพบจับดำเนินคดีแน่นอน
วันนี้ (20 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่เรือนจำกลางคลองเปรม นายไพรชยนต์ พรมชา ผอ.ส่วนควบคุม นายวิฑูร พรหมทองดี หน.ฝ่ายควบคุมกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่งานสงเคราะห์ เบิกตัวผู้ต้องขังคดียาเสพติดรายสำคัญจำนวน 16 คน จากแดน 2 เพื่อรับพัสดุที่ญาติส่งให้ โดยได้เปิดต่อหน้าผู้รับด้วยวิธีผ่าดูสิ่งของที่มองไม่เห็นภายใน ซึ่งหากผู้รับไม่ยินยอมให้ผ่าก็จะตั้งกรรมการทำลาย โดยการเปิดรับพัสดุกล่องอื่นๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่เมื่อถึงกล่องพัสดุของ นช.สมัย คุ้มกัน ผู้ต้องขังคดียาเสพติดที่ได้รับโทษจำคุก 20 ปี 10 เดือน ไม่ขอรับพัสดุของตน โดยอ้างว่าไม่รู้จักชื่อผู้ส่ง ที่ส่งมาจากชายผู้หนึ่งระบุที่อยู่ที่ ม.7 ต.นิคม อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธ์ แต่หากไม่มีของผิดกฎหมายจะขอรับไว้ และเมื่อเจ้าหน้าที่เปิดกล่องดูพบว่ามีสิ่งของ 4 รายการ ประกอบด้วย สบู่ 1 ก้อน ยาสีฟัน 1 หลอด ผ้าขนหนู 1 ผืน และแป้งเย็นยี่ห้อเภสัชกลิ่นมาดาม 1 กระป๋อง แต่เมื่อผ่าสิ่งของออกดูจึงพบยาบ้าชนิดเม็ดสีแดงและสีชมพูบรรจุในถุงพลาสติกจำนวน 5 ถุง แบ่งเป็นถุงละ 200 เม็ด จำนวน 3 ถุง 198 เม็ด 1 ถุง และ194 เม็ด 1 ถุง รวม 992 เม็ดบรรจุอยูในกระป๋องแป้งดังกล่าว หลังการตรวจพบจึงรายงานให้นายสมศักดิ์ รังสิโยภาส ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม ทราบ พร้อมส่งหลักฐานให้ สน.ประชาชื่นเจ้าของพื้นที่และส่งข้อมูลให้กับ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เพื่อสืบสวนขยายผลต่อไป
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ปัญหาการลักลอบซุกซ่อนของผิดกฎหมายเข้ามาในเรือนจำด้วยการซุกซ่อนมาในพัสดุเป็นปัญหาใหญ่ของเรือนจำในการรับพัสดุ เพราะกำลังเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอต้องมาตรวจพัสดุที่ส่งเข้าเรือนจำประมาณวันละ 200 กล่องต่อวัน ทำให้การตรวจอาจไม่ละเอียดเท่าที่ควร ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่ญาติจะซุกซ่อนของผิดระเบียบและผิดกฎหมายเข้ามาในรูปแบบต่างๆ เป็นประจำ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ตรวจพบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ จำนวน 6 เครื่อง ซิมการ์ด 5 อัน เข้ามาทางพัสดุ จึงขอเตือนญาติของผู้ต้องขังทุกคน หากมีการฝ่าฝืนเมื่อตรวจพบจะต้องถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน
วันนี้ (20 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่เรือนจำกลางคลองเปรม นายไพรชยนต์ พรมชา ผอ.ส่วนควบคุม นายวิฑูร พรหมทองดี หน.ฝ่ายควบคุมกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่งานสงเคราะห์ เบิกตัวผู้ต้องขังคดียาเสพติดรายสำคัญจำนวน 16 คน จากแดน 2 เพื่อรับพัสดุที่ญาติส่งให้ โดยได้เปิดต่อหน้าผู้รับด้วยวิธีผ่าดูสิ่งของที่มองไม่เห็นภายใน ซึ่งหากผู้รับไม่ยินยอมให้ผ่าก็จะตั้งกรรมการทำลาย โดยการเปิดรับพัสดุกล่องอื่นๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่เมื่อถึงกล่องพัสดุของ นช.สมัย คุ้มกัน ผู้ต้องขังคดียาเสพติดที่ได้รับโทษจำคุก 20 ปี 10 เดือน ไม่ขอรับพัสดุของตน โดยอ้างว่าไม่รู้จักชื่อผู้ส่ง ที่ส่งมาจากชายผู้หนึ่งระบุที่อยู่ที่ ม.7 ต.นิคม อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธ์ แต่หากไม่มีของผิดกฎหมายจะขอรับไว้ และเมื่อเจ้าหน้าที่เปิดกล่องดูพบว่ามีสิ่งของ 4 รายการ ประกอบด้วย สบู่ 1 ก้อน ยาสีฟัน 1 หลอด ผ้าขนหนู 1 ผืน และแป้งเย็นยี่ห้อเภสัชกลิ่นมาดาม 1 กระป๋อง แต่เมื่อผ่าสิ่งของออกดูจึงพบยาบ้าชนิดเม็ดสีแดงและสีชมพูบรรจุในถุงพลาสติกจำนวน 5 ถุง แบ่งเป็นถุงละ 200 เม็ด จำนวน 3 ถุง 198 เม็ด 1 ถุง และ194 เม็ด 1 ถุง รวม 992 เม็ดบรรจุอยูในกระป๋องแป้งดังกล่าว หลังการตรวจพบจึงรายงานให้นายสมศักดิ์ รังสิโยภาส ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม ทราบ พร้อมส่งหลักฐานให้ สน.ประชาชื่นเจ้าของพื้นที่และส่งข้อมูลให้กับ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เพื่อสืบสวนขยายผลต่อไป
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ปัญหาการลักลอบซุกซ่อนของผิดกฎหมายเข้ามาในเรือนจำด้วยการซุกซ่อนมาในพัสดุเป็นปัญหาใหญ่ของเรือนจำในการรับพัสดุ เพราะกำลังเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอต้องมาตรวจพัสดุที่ส่งเข้าเรือนจำประมาณวันละ 200 กล่องต่อวัน ทำให้การตรวจอาจไม่ละเอียดเท่าที่ควร ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่ญาติจะซุกซ่อนของผิดระเบียบและผิดกฎหมายเข้ามาในรูปแบบต่างๆ เป็นประจำ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ตรวจพบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ จำนวน 6 เครื่อง ซิมการ์ด 5 อัน เข้ามาทางพัสดุ จึงขอเตือนญาติของผู้ต้องขังทุกคน หากมีการฝ่าฝืนเมื่อตรวจพบจะต้องถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน