เจ้าของแชร์รถยนต์หลบซุกปีกนายพล!

เจ้าของบริษัทตุ๋นเหยื่อให้ส่งรถไปให้เช่า แอบหนีไปกบดานในค่ายทหารแห่งหนึ่ง กับนายพล ด้าน ผบ.ตร.เชื่อ 3 สันติบาลแค่ถูกหลอก ไม่มีเอี่ยวแชร์รถยนต์ พร้อมสั่งตรวจสอบหา ตร.เกี่ยวข้องเอารถแชร์ไปใช้ ขณะที่ยอดเหยื่อในพื้นที่ สน.มีนบุรี มียอดผู้เสายหายเข้าแจ้งความ 284 ราย มีรถที่ถูกฉ้อโกงไปรวม 368 คัน ขณะที่ผู้ต้องหาจับได้เพียงรายเดียว หลบหนีอยู่อีก 3 ราย

วันที่ (18 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงคดีแชร์รถตู้ ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบผลรายงานการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี ตำรวจสันติบาล 3 นายที่เกี่ยวพันกับรถตู้ของผู้เสียหายคดีแชร์รถเช่า อย่างไรก็ตาม ต้องดูรายละเอียดว่า ตำรวจทั้ง 3 นายนั้น เข้าไปเกี่ยวข้องส่วนไหน ตั้งแต่ต้นเลยหรือไม่ หรือเข้าไปร่วมกระทำผิดแค่ไหน อาจแค่ส่วนท้าย หรือเป็นเพียงหนึ่งในผู้ถูกหลอก เท่านั้น หรือว่า แค่เอารถมาเพื่อรับจ้างขับหารายได้พิเศษเท่านั้น บางทีเขาอาจไม่ทราบเรื่อง

ผบ.ตร.กล่าวว่า สั่งการให้ตำรวจทุก บช.ตรวจสอบ ว่า มีตำรวจคนไหนเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ หรือว่ามีตำรวจคนไหนเอารถจากกระบวนการนี้ไปใช้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ นี้ ตนจะไปมอบนโยบายให้กับกองบัญชาการสันติบาล และจะไปพูดคุยกันเรื่องนี้ด้วย

ที่ สน.มีนบุรี เมื่อเวลา 09.30 น. พ.ต.อ.นักรบ สุดใจ รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.จักษ์ จิตตธรรม ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รอง ผกก.สส.ได้เรียกพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีที่มีผู้เสียหายเข้าร้องเรียน ว่า ถูกบริษัท ยูฟูกุ เดคเคอเรท จำกัด หลอกเช่ารถไปจำนวนมาก โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้น พ.ต.อ.นักรบ ได้เรียกผู้เสียหายมาชี้แจงเอกสารและข้อมูลต่างๆ ซึ่งทางผู้เสียหายได้กล่าวขอบคุณการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะรวมตัวกันกว่า 100 คน เดินทางไปยังกระทรวงพาณิชย์

ด้าน พ.ต.ท.โชติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ มีผู้เสียหายในพื้นที่ สน.มีนบุรี มาแจ้งความไว้จำนวน 284 ราย มีรถที่ถูกฉ้อโกงไปจำนวน 368 คัน โดยยังมีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความพร้อมแจ้งเบาะแสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยวันนี้ ได้เรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกประมาณ 50 ราย และจะมีการสอบปากคำทุกวันๆ ละ 50 ราย

“เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาแก๊งนี้ได้แล้ว 1 ราย คือ นายพีรพงศ์ ภิรักษ์ชวนันท์ อายุ 31 ปี ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ ที่ยังหลบหนีอยู่มีจำนวน 3 คน คือ น.ส.ณัฐนรินทร์ มูฮำหมัด อายุ 32 ปี นายจรัล สุภาพ อายุ 38 ปี และ นางธิติรัตน์ สีมุก อายุ 32 ปี โดยในเร็วๆ นี้ จะขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดมีนบุรี เพื่อจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 3-4 ราย ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากเกรงว่าจะเสียรูปคดี” พ.ต.ท.โชติ กล่าว

ด้าน นายราญ ฟองมณี รองประธานสภาทนายความจังหวัดมีนบุรี ได้กล่าวว่า ทางสภาทนายความจังหวัดมีนบุรีได้มีการตั้งโต๊ะเพื่อให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้เสียหายโดยจะมีการให้คำแนะนำให้คำปรึกษาทางข้อกฎหมายต่างๆ ฟรี แต่ค่าธรรมเนียมทางผู้เสียหายต้องออกเอง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน เนื่องจากยังมีกลุ่มผู้เสียหายเดินทางมาร้องเรียนอีกจำนวนมาก

ต่อมาได้มี นายพงศ์นรา บัวพลอย อายุ 53 ปี ชาวชลบุรี เดินทางมาที่ สน.มีนบุรี เพื่อตรวจสอบ รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กบ-9848 ชลบุรี และรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ผฉ 8199 ชลบุรี ที่เคยแจ้งหายไว้ที่ สภ.ชลบุรี และถูกที่เจ้าหน้าตำรวจติดตามยึดมาได้

นายพงศ์นรา เปิดเผยว่า ที่ จ.ชลบุรี ก็มีลักษณะการฉ้อโกงรถด้วยเช่นกัน คือ มีบริษัท ช.โชค อุดมรัตน์ จำกัด ตั้งอยู่ในเขต อ.เมือง จ.ชลบุรี มี นายจักรินทร์ พลอยสารักษ์ อยู่บ้านเลขที่ 83/85 หมู่ 3 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็นกรรมการผู้จัดการ โดยมีพฤติกรรมเหมือนกับที่คดีที่เกิดขึ้นใน กทม.โดยเมื่อต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ทางกลุ่มผู้เสียหายได้พยายามไปแจ้งความ ที่ สภ.ชลบุรี แต่ตำรวจบ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับแจ้ง จนมีข่าวครึกโครม ตำรวจจึงยอมรับแจ้งความ ซึ่งขณะนี้มีเจ้าทุกข์เข้าแจ้งความที่ สภ.ชลบุรี จำนวน 100 ราย มีรถสูญหายไป ประมาณ 200 คัน

ด้าน นายวสันต์ ฮาซัน อายุ 28 ปี หนึ่งในผู้เสียหายคดีนี้ เปิดเผยว่า ตนเองถูก น.ส.ณัฐนรินทร์ หลอกเช่ารถไปจำนวน 2 คัน ทั้งๆ ที่ตนกับ น.ส.ณัฐนรินทร์ ก็รู้จักกันมานาน นอกจากนี้ ตนยังทราบมาว่า น.ส.ณัฐนรินทร์ ยังได้หลอกเอารถพี่สาวของตัวเองไปอีกหลายคันด้วย

นายวสันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับ นางณัฐนรินทร์ เคยมีชื่อเดิมว่า ไพรินทร์ และเคยเปิดบริษัทเกี่ยวกับการแฮกข้อมูล โดยทำการแฮกข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์และบัตรเติมเงินของเครือข่ายยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นเงินจำนวนมาก จากนั้นก็ไปแต่งงานกับนายทหารระดับนายพลคนหนึ่ง ก่อนจะมาเปิดบริษัท ยูฟูกุ เดคคอเรท จำกัด และตุ๋นรถยนต์ไปจำนวนมาก

มีรายงานข่าวว่า พนักงานของบริษัท ยูฟูกุ เดคคอเรท จำกัด คนหนึ่ง ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญของคดีนี้ ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า หลังจากเกิดเรื่องขึ้น น.ส.ณัฐนรินทร์ ได้ไปขอความช่วยเหลือจากปลัดอำเภอหญิงคนหนึ่ง ก่อนที่จะพากันไปขอความช่วยเหลือจากนายทหารระดับสูงในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขอหลบซ่อนตัวในค่ายทหารแห่งหนึ่งด้วย

เตรียมออกหมายจับเพิ่ม “แก๊งแชร์รถเช่า”-เปิดเว็บไซต์ ตร.แจงข้อมูลรถ
ยอดเหยื่อแชร์รถเช่าทยอยแจ้งความร่วม 300 คันแล้ว
ผู้เสียหายแชร์รถเช่าแห่มาดูรถที่สน.มีนบุรี ท้อ!ยอมถูกฟ้องล้มละลาย
รถหลอกเช่าโผล่จอดทิ้งกลางโรงพัก ตร.ระบุมีผู้เสียหายกว่า 200 ราย!
“อัศวิน” สั่ง สาวถึงใครฟันไม่เลี้ยง “ตุ๋นแชร์รถตู้”
คุม “3 สันติบาล” สอบโยงขบวนการรถเช่า! แปลกอาจถูกขังแค่ 30 วัน
“ส.ต.อ.” สันติบาลจนมุม รับขับรถโจร-แฉสารวัตรตัวการ!
สันติบาลเร่งตามหา “สมชาย” คนฝากรถโจรซุก สตช.
ตร.ฉาวอีก! พบ “พ.ต.ท.” พัวพันแก๊งแชร์รถเช่า
“เสรีพิศุทธ์” สั่งสอบสันติบาลแกล้งโง่ปล่อยรถตู้โจรเข้า สตช.หรือไม่!
นครบาลตั้งทีมขยายผลจับบริษัทหลอกเช่ารถ
จุดไต้ตำตอ! เหยื่อแชร์รถยนต์จ๊ะเอ๋ “รถของกลาง” จอดคา สตช.!
หมายจับเพิ่มอีก 5 สมาชิกแก๊งหลอกเช่ารถหรู-ตามรวบแล้ว 2
โคตรไว! บุกรวบสาวแสบเปิดบริษัทหลอกเช่ารถหรู-เชิดขายต่อนับร้อยคัน
หลอกเช่ารถหรู "วิช-ฟอร์จูนเนอร์-คัมรี่"สูญกว่า 200 คัน!