“พงศพัศ” ติดตามคดี “แชร์รถเช่า” เรียกประชุมพนักงานสอบสวน พบปัญหาสำคัญเรื่องการตามรถของกลางคืนเจ้าของ เตรียมจับเข่าคุยกระทรวงพาณิชย์ บรรเทาความเดือดร้อนค่างวดรถ พร้อมนำข้อมูลรถและผู้เสียหายไว้ในเว็บไซต์ www.police.co.th เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบว่าใช่รถที่ครอบครองโดยสุจริตหรือไม่ พรุ่งนี้ออกหมายจับเพิ่มอีก 3-4 ราย วอนผู้ต้องหาที่หลบหนีให้มอบตัว
วันนี้ (17 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ สน.มีนบุรี พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามคดีแชร์รถเช่า โดยมี พล.ต.ต.จุติ ธรรมมโนวานิช รอง ผบช.น. พ.ต.อ.จักษ์ จิตตธรรม ผกก.สน.มีนบุรี และพนักงานสอบสวนเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนผู้เสียหาย ซึ่งได้ทยอยเข้ามาแจ้งความตามสถานีตำรวจต่างๆ ครอบคลุมไปหลายจังหวัดแล้ว จากการสอบถามพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี สน.บางพลัด และอีก 2-3 แห่ง ทราบว่า ไม่มีปัญหาในเรื่องการรับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหาย เนื่องจากมีการจัดเตรียมพนักงานสอบสวนไว้อย่างเพียงพอ แต่มีปัญหาสำคัญ คือ การติดตามรถยนต์ดังกล่าวมาคืนเจ้าของ เนื่องจากเจ้าของก็มีความเดือดร้อน เพราะต้องชำระค่างวดให้กับบริษัทไฟแนนซ์ ซึ่งทางตำรวจจะให้ข้อมูลส่วนนี้กับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อร่วมมือกันบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้เสียหาย โดยจะได้เรียกบริษัทไฟแนนซ์ ต่างๆ มาหารือร่วมกันเพื่อหาข้อสรุปในการช่วยเหลือ เช่น ผู้เสียหายอาจจะไม่ต้องส่งค่างวด เป็นเวลา 5-6 งวด ซึ่งจะต้องพูดคุยกันให้ได้ข้อสรุป
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการขยายผลติดตามจับกุมผู้กระทำผิดนั้น ตนเองมีข้อมูลที่ชัดเจนจากตำรวจสันติบาล ซึ่งจะนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวน ส่วนผู้ต้องหาที่ได้มีการออกหมายจับไปแล้วก็จะมีการติดตามจับกุมอยู่อย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นผู้ที่ถูกจับกุมก็ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ในวันพรุ่งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะนำข้อมูลรถทั้งหมดที่ผู้เสียหายได้มีการแจ้งความไว้ประมาณ 700 คัน ทั้งข้อมูลเลขทะเบียนรถ ยี่ห้อ เลขเครื่อง และเลขตัวถัง รวมถึงสถานีตำรวจที่ผู้เสียหายไปร้องทุกข์ไว้ บรรจุไว้ในเว็บไซต์ www.police.go.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงอยากให้ประชาชนคนใดก็ตามที่ครอบครองรถ ไม่ว่าโดยสุจริต หรือไม่สุจริต หากสงสัยว่ารถที่ใช้หรือครอบครองอยู่เป็นรถที่มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้หรือไม่ ก็ให้เข้าไปตรวจสอบในเว็ปไซต์ดังกล่าวได้ ทั้งนี้ หากพบว่ารถที่ใช้อยู่ ตรงกับรถที่แจ้งไว้ในเว็บไซต์ก็ให้นำรถไปคืนได้ที่สถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด ซึ่งหากผู้ใดครอบครองรถโดยสุจริตใจ ก็ขอให้สบายใจได้ว่าจะไม่มีความผิดอย่างแน่นอน
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีซึ่งถูกสังคมตั้งคำถามว่าล่าช้า ว่า ตนรู้สึกเห็นใจ หากตนเองเป็นประชาชนก็จะรู้สึกแปลกใจเช่นกัน ว่า ทำไมผู้ที่ถูกออกหมายจับและจับกุมตัวได้ ทำไมจึงไม่มีการแถลงข่าวให้ทราบว่า มีการรับรถมาจากแหล่งใด เอารถไปส่งขายที่ไหน ซึ่งขอเรียนว่าเป็นเรื่องแนวทางการสืบสวน ที่ต้องเป็นความลับ หากมีการเปิดเผยออกไปผู้ต้องหาก็จะหลบหนีหมด จึงอยากขอเวลาให้ตำรวจทำงานสักระยะหนึ่ง ขอให้มั่นใจเพราะคดีนี้มีการทำเป็นขบวนการที่ค่อนข้างใหญ่ ตำรวจจึงอยากจับกุมผู้ต้องหาให้ได้ทั้งหมดและต่อเนื่อง สำหรับความล่าช้าของคดี ตนก็ได้ตำหนิพนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวน เพราะบางทีการทำอะไรชักช้าจะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการทำลายพยานหลักฐานขณะเดียวกันก็ขาดความเชื่อมั่นจากประชาชน อย่างไรก็ตามก็ต้องเห็นใจพนักงานสอบสวน เพราะการจับกุมหรือออกหมายจับจะต้องขออนุมัติจากศาล ซึ่งขั้นตอนจะต้องมีพยานหลักฐานเพียงพอ แต่ทั้งนี้เชื่อว่าผู้ที่ถูกออกหมายจับไปแล้ว คงหนีไม่รอด
“ก็มีบางส่วนที่ติดต่อเข้ามอบตัวแล้ว จึงอยากฝากถึงผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ว่า ท่านหนีไปได้ไม่ไกล เพราะความผิดที่ท่านได้ทำแม้ไม่ใช่ความผิดคดีฆ่าคนตาย แต่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งตำรวจเองก็จะไล่ล่าสุดขอบฟ้า” โฆษก ตร.กล่าว
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวด้วยว่า พรุ่งนี้ (18 ก.พ.) จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 3-4 ราย ซึ่งผู้ต้องหาที่ออกหมายจับเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีทั้งในส่วนต้น ส่วนกลาง ส่วนปลาย โดยในส่วนต้นเป็นนายหน้าที่ติดต่อให้ประชาชนนำรถและรับรถมาให้บริษัทดังกล่าวเช่า ซึ่งบริษัทดังกล่าวจะส่งต่อไปยังคนที่นำรถไปกระจายต่อ ซึ่งสุจริตบ้าง ไม่สุจริตบ้าง ซึ่งพวกนี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามจะถูกดำเนินคดีทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามถึงการติดตามรถที่มีการนำไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน โฆษก ตร.กล่าวว่า ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.สส.ทำการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดและดูว่าในส่วนของรถที่เชื่อว่าถูกนำไปขายต่างประเทศจะทำอย่างไร เพื่อให้ได้รถกลับคืนมา ซึ่งจากรายงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันว่า ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ จนถึงวันนี้ยังไม่มีรถคันใดออกนอกประเทศ ซึ่งตอนนี้ต้องหารือกันว่าทำอย่างไรที่จะติดตามนำรถที่ถูกนำออกไปขายก่อนหน้านี้มาคืนเจ้าของให้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.00 น.วันที่ 18 ก.พ.กลุ่มผู้เสียหายจะนัดรวมตัวกัน เพื่อเดินทางไปยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือ เรื่องผ่อนผันการส่งค่างวดให้กับไฟแนนซ์ที่กระทรวงพาณิชย์
ยอดเหยื่อแชร์รถเช่าทยอยแจ้งความร่วม 300 คันแล้ว
ผู้เสียหายแชร์รถเช่าแห่มาดูรถที่สน.มีนบุรี ท้อ!ยอมถูกฟ้องล้มละลาย
รถหลอกเช่าโผล่จอดทิ้งกลางโรงพัก ตร.ระบุมีผู้เสียหายกว่า 200 ราย!
“อัศวิน” สั่ง สาวถึงใครฟันไม่เลี้ยง “ตุ๋นแชร์รถตู้”
คุม “3 สันติบาล” สอบโยงขบวนการรถเช่า! แปลกอาจถูกขังแค่ 30 วัน
“ส.ต.อ.” สันติบาลจนมุม รับขับรถโจร-แฉสารวัตรตัวการ!
สันติบาลเร่งตามหา “สมชาย” คนฝากรถโจรซุก สตช.
ตร.ฉาวอีก! พบ “พ.ต.ท.” พัวพันแก๊งแชร์รถเช่า
“เสรีพิศุทธ์” สั่งสอบสันติบาลแกล้งโง่ปล่อยรถตู้โจรเข้า สตช.หรือไม่!
นครบาลตั้งทีมขยายผลจับบริษัทหลอกเช่ารถ
จุดไต้ตำตอ! เหยื่อแชร์รถยนต์จ๊ะเอ๋ “รถของกลาง” จอดคา สตช.!
หมายจับเพิ่มอีก 5 สมาชิกแก๊งหลอกเช่ารถหรู-ตามรวบแล้ว 2
โคตรไว! บุกรวบสาวแสบเปิดบริษัทหลอกเช่ารถหรู-เชิดขายต่อนับร้อยคัน
หลอกเช่ารถหรู "วิช-ฟอร์จูนเนอร์-คัมรี่"สูญกว่า 200 คัน!
วันนี้ (17 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ สน.มีนบุรี พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามคดีแชร์รถเช่า โดยมี พล.ต.ต.จุติ ธรรมมโนวานิช รอง ผบช.น. พ.ต.อ.จักษ์ จิตตธรรม ผกก.สน.มีนบุรี และพนักงานสอบสวนเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนผู้เสียหาย ซึ่งได้ทยอยเข้ามาแจ้งความตามสถานีตำรวจต่างๆ ครอบคลุมไปหลายจังหวัดแล้ว จากการสอบถามพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี สน.บางพลัด และอีก 2-3 แห่ง ทราบว่า ไม่มีปัญหาในเรื่องการรับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหาย เนื่องจากมีการจัดเตรียมพนักงานสอบสวนไว้อย่างเพียงพอ แต่มีปัญหาสำคัญ คือ การติดตามรถยนต์ดังกล่าวมาคืนเจ้าของ เนื่องจากเจ้าของก็มีความเดือดร้อน เพราะต้องชำระค่างวดให้กับบริษัทไฟแนนซ์ ซึ่งทางตำรวจจะให้ข้อมูลส่วนนี้กับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อร่วมมือกันบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้เสียหาย โดยจะได้เรียกบริษัทไฟแนนซ์ ต่างๆ มาหารือร่วมกันเพื่อหาข้อสรุปในการช่วยเหลือ เช่น ผู้เสียหายอาจจะไม่ต้องส่งค่างวด เป็นเวลา 5-6 งวด ซึ่งจะต้องพูดคุยกันให้ได้ข้อสรุป
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการขยายผลติดตามจับกุมผู้กระทำผิดนั้น ตนเองมีข้อมูลที่ชัดเจนจากตำรวจสันติบาล ซึ่งจะนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวน ส่วนผู้ต้องหาที่ได้มีการออกหมายจับไปแล้วก็จะมีการติดตามจับกุมอยู่อย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นผู้ที่ถูกจับกุมก็ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ในวันพรุ่งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะนำข้อมูลรถทั้งหมดที่ผู้เสียหายได้มีการแจ้งความไว้ประมาณ 700 คัน ทั้งข้อมูลเลขทะเบียนรถ ยี่ห้อ เลขเครื่อง และเลขตัวถัง รวมถึงสถานีตำรวจที่ผู้เสียหายไปร้องทุกข์ไว้ บรรจุไว้ในเว็บไซต์ www.police.go.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงอยากให้ประชาชนคนใดก็ตามที่ครอบครองรถ ไม่ว่าโดยสุจริต หรือไม่สุจริต หากสงสัยว่ารถที่ใช้หรือครอบครองอยู่เป็นรถที่มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้หรือไม่ ก็ให้เข้าไปตรวจสอบในเว็ปไซต์ดังกล่าวได้ ทั้งนี้ หากพบว่ารถที่ใช้อยู่ ตรงกับรถที่แจ้งไว้ในเว็บไซต์ก็ให้นำรถไปคืนได้ที่สถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด ซึ่งหากผู้ใดครอบครองรถโดยสุจริตใจ ก็ขอให้สบายใจได้ว่าจะไม่มีความผิดอย่างแน่นอน
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีซึ่งถูกสังคมตั้งคำถามว่าล่าช้า ว่า ตนรู้สึกเห็นใจ หากตนเองเป็นประชาชนก็จะรู้สึกแปลกใจเช่นกัน ว่า ทำไมผู้ที่ถูกออกหมายจับและจับกุมตัวได้ ทำไมจึงไม่มีการแถลงข่าวให้ทราบว่า มีการรับรถมาจากแหล่งใด เอารถไปส่งขายที่ไหน ซึ่งขอเรียนว่าเป็นเรื่องแนวทางการสืบสวน ที่ต้องเป็นความลับ หากมีการเปิดเผยออกไปผู้ต้องหาก็จะหลบหนีหมด จึงอยากขอเวลาให้ตำรวจทำงานสักระยะหนึ่ง ขอให้มั่นใจเพราะคดีนี้มีการทำเป็นขบวนการที่ค่อนข้างใหญ่ ตำรวจจึงอยากจับกุมผู้ต้องหาให้ได้ทั้งหมดและต่อเนื่อง สำหรับความล่าช้าของคดี ตนก็ได้ตำหนิพนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวน เพราะบางทีการทำอะไรชักช้าจะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการทำลายพยานหลักฐานขณะเดียวกันก็ขาดความเชื่อมั่นจากประชาชน อย่างไรก็ตามก็ต้องเห็นใจพนักงานสอบสวน เพราะการจับกุมหรือออกหมายจับจะต้องขออนุมัติจากศาล ซึ่งขั้นตอนจะต้องมีพยานหลักฐานเพียงพอ แต่ทั้งนี้เชื่อว่าผู้ที่ถูกออกหมายจับไปแล้ว คงหนีไม่รอด
“ก็มีบางส่วนที่ติดต่อเข้ามอบตัวแล้ว จึงอยากฝากถึงผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ว่า ท่านหนีไปได้ไม่ไกล เพราะความผิดที่ท่านได้ทำแม้ไม่ใช่ความผิดคดีฆ่าคนตาย แต่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งตำรวจเองก็จะไล่ล่าสุดขอบฟ้า” โฆษก ตร.กล่าว
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวด้วยว่า พรุ่งนี้ (18 ก.พ.) จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 3-4 ราย ซึ่งผู้ต้องหาที่ออกหมายจับเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีทั้งในส่วนต้น ส่วนกลาง ส่วนปลาย โดยในส่วนต้นเป็นนายหน้าที่ติดต่อให้ประชาชนนำรถและรับรถมาให้บริษัทดังกล่าวเช่า ซึ่งบริษัทดังกล่าวจะส่งต่อไปยังคนที่นำรถไปกระจายต่อ ซึ่งสุจริตบ้าง ไม่สุจริตบ้าง ซึ่งพวกนี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามจะถูกดำเนินคดีทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามถึงการติดตามรถที่มีการนำไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน โฆษก ตร.กล่าวว่า ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.สส.ทำการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดและดูว่าในส่วนของรถที่เชื่อว่าถูกนำไปขายต่างประเทศจะทำอย่างไร เพื่อให้ได้รถกลับคืนมา ซึ่งจากรายงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันว่า ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ จนถึงวันนี้ยังไม่มีรถคันใดออกนอกประเทศ ซึ่งตอนนี้ต้องหารือกันว่าทำอย่างไรที่จะติดตามนำรถที่ถูกนำออกไปขายก่อนหน้านี้มาคืนเจ้าของให้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.00 น.วันที่ 18 ก.พ.กลุ่มผู้เสียหายจะนัดรวมตัวกัน เพื่อเดินทางไปยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือ เรื่องผ่อนผันการส่งค่างวดให้กับไฟแนนซ์ที่กระทรวงพาณิชย์
ยอดเหยื่อแชร์รถเช่าทยอยแจ้งความร่วม 300 คันแล้ว
ผู้เสียหายแชร์รถเช่าแห่มาดูรถที่สน.มีนบุรี ท้อ!ยอมถูกฟ้องล้มละลาย
รถหลอกเช่าโผล่จอดทิ้งกลางโรงพัก ตร.ระบุมีผู้เสียหายกว่า 200 ราย!
“อัศวิน” สั่ง สาวถึงใครฟันไม่เลี้ยง “ตุ๋นแชร์รถตู้”
คุม “3 สันติบาล” สอบโยงขบวนการรถเช่า! แปลกอาจถูกขังแค่ 30 วัน
“ส.ต.อ.” สันติบาลจนมุม รับขับรถโจร-แฉสารวัตรตัวการ!
สันติบาลเร่งตามหา “สมชาย” คนฝากรถโจรซุก สตช.
ตร.ฉาวอีก! พบ “พ.ต.ท.” พัวพันแก๊งแชร์รถเช่า
“เสรีพิศุทธ์” สั่งสอบสันติบาลแกล้งโง่ปล่อยรถตู้โจรเข้า สตช.หรือไม่!
นครบาลตั้งทีมขยายผลจับบริษัทหลอกเช่ารถ
จุดไต้ตำตอ! เหยื่อแชร์รถยนต์จ๊ะเอ๋ “รถของกลาง” จอดคา สตช.!
หมายจับเพิ่มอีก 5 สมาชิกแก๊งหลอกเช่ารถหรู-ตามรวบแล้ว 2
โคตรไว! บุกรวบสาวแสบเปิดบริษัทหลอกเช่ารถหรู-เชิดขายต่อนับร้อยคัน
หลอกเช่ารถหรู "วิช-ฟอร์จูนเนอร์-คัมรี่"สูญกว่า 200 คัน!
