เด็กแว้น! ที่ถูกจับกุมคดีแข่งรถซิ่ง หลั่งน้ำตาหลังเจอหน้าพ่อแม่ ในวันสุดท้ายของโปรแกรมช็อกเทอราปี ที่บ้านเมตตา ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้พ่อแม่ประกันตัวและรับกลับบ้าน
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ศูนย์แรกรับเด็กและเยาวชนบ้านเมตตา ถนนแจ้งวัฒนะ นายสุรินทร์ เสถียรมาศ รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีปิดค่ายพัฒนาศักยภาพเชิงบวก หรือโปรมแกรมช็อกเทอราปี สำหรับเด็กและเยาวชนชาย 29 คน หลังถูกตำรวจจับกุมฐานแข่งรถในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาติในท้องที่ สน.ตลาดพลู สน.ท่าข้าม เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเปิดโอกาสให้พ่อแม่ผู้ปกครองทำกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ร่วมกับบุตรหลาน ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นหลายครอบครัวโผเข้ากอดร้องไห้ด้วยความคิดถึง ก่อนยื่นหลักทรัพย์ 3,000 บาท ประกันตัวบุตรหลานออกไปสู้คดี
นายสุรินทร์ เสถียรมาศ รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สถานพินิจฯ ได้สอบข้อเท็จจริงของเด็กทุกคนไว้ ก่อนเสนอให้อัยการสรุปรายงานส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ภายในเวลา 30 วัน เพื่อวินิจฉัยแนวทางแก้ไขพฤติกรรม คงต้องให้โอกาสผู้กระทำผิดยังเป็นเยาวชน แต่ถ้ากระทำผิดซ้ำซากต้องหามาตรการเข้มข้นในการบำบัด อย่างไรก็ตาม คดีนี้มีเพียงรายเดียวเคยถูกจับคดีรถซิ่งเป็นครั้งที่สอง
รองอธิบดีกรมพินิจฯ กล่าวต่อว่า ตนเป็นห่วงพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กมากที่สุด เนื่องจากวันนี้ผู้ปกครองส่วนใหญ่ก็เดินทางมาจากต่างจังหวัด อาชีพหาเช้ากินค่ำ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูก บทเรียนที่ผู้ปกครองได้พบเห็นในการเข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้ปกครองจะได้ตระหนักและให้ความดูแลบุตรหลานมากขึ้นและเป็นหน้าที่โดยตรงของพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ที่จะต้องดูแลบุตรหลานให้มีการศึกษาที่ดี มีชีวิตอยู่รอดในสังคม
สำหรับสถานการณ์การกระทำผิดของเด็กและเยาวชนตอนนี้ ตนเป็นห่วงคดีเกี่ยวกับยาเสพติดที่เริ่มมากขึ้น แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นคดีลักทรัพย์ก็ตาม คิดว่า รัฐบาลใหม่คงมีนโยบายที่จะเร่งรัดการแก้ปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดมากขึ้น โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของยาเสพติดในสถานศึกษา
ส่วนการดูแลเด็กที่เข้ามาอยู่ในบ้านเมตตานี้ จะให้เจ้าหน้าที่ช่วยดูแลประคับประคองจนกว่าเด็กจะอบรมโปรแกรมนี้เสร็จสิ้น เพราะหากให้พ่อแม่ประกันตัวทันที เด็กอาจจะไม่เข็ดหลาย แต่ก็มีผู้ปกครองบางรายที่ใจแข็ง ไม่ยอมประกันตัวลูก ปล่อยให้ในบ้านเมตตา แต่มาเยี่ยมทุกวัน ก็เป็นวิธีหนึ่งที่เห็นว่าผู้ปกครองให้ความร่วมมือดีและจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้มากขึ้น
ด้าน นายเลอพงษ์ ปิ่นทอง หัวหน้าส่วนงานประมวลข้อเท็จจริงคดีอาญา สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้วางเงื่อนไขให้เด็กและเยาวชนที่ได้รับประกันตัวให้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตามนัดเพื่อให้ปากคำ รวมทั้งกำชับพ่อแม่ผู้ปกครองให้เชื่อฟังพนักงานคุมประพฤติที่ได้แนะนำวิธีในการดูแลบุตรหลานให้ใกล้ชิดกว่าเดิม หากเด็กและเยาวชนกลุ่มดังกล่าวทำผิดเงื่อนไขอาจพิจารณาการถอนประกันตัว
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ศูนย์แรกรับเด็กและเยาวชนบ้านเมตตา ถนนแจ้งวัฒนะ นายสุรินทร์ เสถียรมาศ รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีปิดค่ายพัฒนาศักยภาพเชิงบวก หรือโปรมแกรมช็อกเทอราปี สำหรับเด็กและเยาวชนชาย 29 คน หลังถูกตำรวจจับกุมฐานแข่งรถในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาติในท้องที่ สน.ตลาดพลู สน.ท่าข้าม เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเปิดโอกาสให้พ่อแม่ผู้ปกครองทำกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ร่วมกับบุตรหลาน ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นหลายครอบครัวโผเข้ากอดร้องไห้ด้วยความคิดถึง ก่อนยื่นหลักทรัพย์ 3,000 บาท ประกันตัวบุตรหลานออกไปสู้คดี
นายสุรินทร์ เสถียรมาศ รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สถานพินิจฯ ได้สอบข้อเท็จจริงของเด็กทุกคนไว้ ก่อนเสนอให้อัยการสรุปรายงานส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ภายในเวลา 30 วัน เพื่อวินิจฉัยแนวทางแก้ไขพฤติกรรม คงต้องให้โอกาสผู้กระทำผิดยังเป็นเยาวชน แต่ถ้ากระทำผิดซ้ำซากต้องหามาตรการเข้มข้นในการบำบัด อย่างไรก็ตาม คดีนี้มีเพียงรายเดียวเคยถูกจับคดีรถซิ่งเป็นครั้งที่สอง
รองอธิบดีกรมพินิจฯ กล่าวต่อว่า ตนเป็นห่วงพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กมากที่สุด เนื่องจากวันนี้ผู้ปกครองส่วนใหญ่ก็เดินทางมาจากต่างจังหวัด อาชีพหาเช้ากินค่ำ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูก บทเรียนที่ผู้ปกครองได้พบเห็นในการเข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้ปกครองจะได้ตระหนักและให้ความดูแลบุตรหลานมากขึ้นและเป็นหน้าที่โดยตรงของพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ที่จะต้องดูแลบุตรหลานให้มีการศึกษาที่ดี มีชีวิตอยู่รอดในสังคม
สำหรับสถานการณ์การกระทำผิดของเด็กและเยาวชนตอนนี้ ตนเป็นห่วงคดีเกี่ยวกับยาเสพติดที่เริ่มมากขึ้น แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นคดีลักทรัพย์ก็ตาม คิดว่า รัฐบาลใหม่คงมีนโยบายที่จะเร่งรัดการแก้ปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดมากขึ้น โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของยาเสพติดในสถานศึกษา
ส่วนการดูแลเด็กที่เข้ามาอยู่ในบ้านเมตตานี้ จะให้เจ้าหน้าที่ช่วยดูแลประคับประคองจนกว่าเด็กจะอบรมโปรแกรมนี้เสร็จสิ้น เพราะหากให้พ่อแม่ประกันตัวทันที เด็กอาจจะไม่เข็ดหลาย แต่ก็มีผู้ปกครองบางรายที่ใจแข็ง ไม่ยอมประกันตัวลูก ปล่อยให้ในบ้านเมตตา แต่มาเยี่ยมทุกวัน ก็เป็นวิธีหนึ่งที่เห็นว่าผู้ปกครองให้ความร่วมมือดีและจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้มากขึ้น
ด้าน นายเลอพงษ์ ปิ่นทอง หัวหน้าส่วนงานประมวลข้อเท็จจริงคดีอาญา สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้วางเงื่อนไขให้เด็กและเยาวชนที่ได้รับประกันตัวให้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตามนัดเพื่อให้ปากคำ รวมทั้งกำชับพ่อแม่ผู้ปกครองให้เชื่อฟังพนักงานคุมประพฤติที่ได้แนะนำวิธีในการดูแลบุตรหลานให้ใกล้ชิดกว่าเดิม หากเด็กและเยาวชนกลุ่มดังกล่าวทำผิดเงื่อนไขอาจพิจารณาการถอนประกันตัว
