รมว.ยุติธรรม ไปตรวจเยี่ยมเด็กแว้น จำนวน 29 คน ที่เข้าอบรมโปรแกรมช็อกเทอราปี บ้านเมตตา เป็นเวลา 5 วัน เชื่อทุกคนจะสำนึกผิด ไม่กลับไปกระทำผิดซ้ำ
วันนี้ (12 ก.พ.) เวลา 15.00 น.ที่ศูนย์แรกรับเด็กและเยาวชนชายบ้านเมตา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม เดินทางไปตรวจเยี่ยมเด็กและเยาวชนชาย จำนวน 29 คน หลังถูกตำรวจจับดำเนินคดีแข่งรถบนทางสาธารณะในท้องที่ สน.ตลาดพลู และ สน.ท่าข้าม มี นายไพศาล วิเชียรเกื้อ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมคณะผู้บริหารกรมพินิจฯ นำตรวจความเรียบร้อยก่อน รมว.ยุติธรรม ให้โอวาทแก๊งเด็กแว้น สรุปว่า ทุกคนยังมีสิทธิของความเป็นพลเมืองทุกอย่าง รัฐบาล และกระทรวงยุติธรรม พร้อมดูแลให้กลับออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่มีประวัติด่างพร้อย เชื่อว่าหลังทุกคนผ่านโปรแกรมช็อกเทอราปีแล้วจะสำนึกไม่กลับไปซิ่งอีก
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกสงสาร ตอนเด็กเราก็เกเร แต่เด็กเหล่านี้เกเรกว่าเรา ต้องหาวิธีบำบัดไม่ให้นานเกินไปพร้อมให้กำลังใจ รวมทั้งต้องให้ครูอาจารย์ผู้ปกครองร่วมกันดูแลเด็กใกล้ชิดตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่สถานพินิจฯ เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ส่วนการจับรวมกลุ่มต้องให้ความเป็นธรรม ได้รับรายงานจากอธิบดีกรมพินิจฯ ว่า มีเด็กที่ผ่านไปประสบเหตุแต่ถูกจับกุมต้องช่วยเหลือ ส่วนกรณีการสอนเปิดสนามแข่งรถให้เด็กประลองความเร็ว เชื่อว่า เด็กคงไม่ไป เพราะธรรมชาติของเด็กชอบความท้าทาย หากแข่งรถแล้วหนีตำรวจจะมันกว่า อย่างไรก็ตาม การลงโทษผู้กระทำผิดในปัจจุบันไม่ควรคุมขังผู้กระทำผิดเพียงเล็กน้อย คดีไม่อุกฉกรรจ์ ควรให้ไปทำบริการสังคม เพื่อเปิดกาสให้กลับตัวเป็นพลเมืองดีไม่ใช่ส่งไปฝึกวิทยายุทธในเรือนจำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเยาวชนบางรายเคยถูกจับกุมแล้วยังมากระทำซ้ำ จะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ตอนนี้มีกฎหมายบางฉบับที่เตรียมประกาศใช้ กรณีที่เยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ที่กระทำผิดข้อหาไม่รุนแรง อาจจะมีมาตรการลงโทษแบบเบา หรือไม่ต้องถูกจองจำ แต่ให้ทำประโยชน์แก่สังคมแทนหรือให้สวมใส่กำไลข้อมือ ที่ติดสัณญาณ แทนการจองจำ โดยมีการจำกัดพื้นที่ ห้ามออกไปนอกปริมณฑลที่กำหนด หากเขาออกนอกพื้นที่ดังกล่าวก็จะมีสัญญาณดังขึ้น เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่า มาตรการเหล่านี้จะช่วยให้เยาวชนกลับตัวเป็นคนดีได้ เพราะบางครั้งการที่เด็กถูกจองจำ จะทำให้เขาได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์ที่ไม่ดีจากคนอื่นๆ มากขึ้น
วันนี้ (12 ก.พ.) เวลา 15.00 น.ที่ศูนย์แรกรับเด็กและเยาวชนชายบ้านเมตา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม เดินทางไปตรวจเยี่ยมเด็กและเยาวชนชาย จำนวน 29 คน หลังถูกตำรวจจับดำเนินคดีแข่งรถบนทางสาธารณะในท้องที่ สน.ตลาดพลู และ สน.ท่าข้าม มี นายไพศาล วิเชียรเกื้อ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมคณะผู้บริหารกรมพินิจฯ นำตรวจความเรียบร้อยก่อน รมว.ยุติธรรม ให้โอวาทแก๊งเด็กแว้น สรุปว่า ทุกคนยังมีสิทธิของความเป็นพลเมืองทุกอย่าง รัฐบาล และกระทรวงยุติธรรม พร้อมดูแลให้กลับออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่มีประวัติด่างพร้อย เชื่อว่าหลังทุกคนผ่านโปรแกรมช็อกเทอราปีแล้วจะสำนึกไม่กลับไปซิ่งอีก
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกสงสาร ตอนเด็กเราก็เกเร แต่เด็กเหล่านี้เกเรกว่าเรา ต้องหาวิธีบำบัดไม่ให้นานเกินไปพร้อมให้กำลังใจ รวมทั้งต้องให้ครูอาจารย์ผู้ปกครองร่วมกันดูแลเด็กใกล้ชิดตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่สถานพินิจฯ เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ส่วนการจับรวมกลุ่มต้องให้ความเป็นธรรม ได้รับรายงานจากอธิบดีกรมพินิจฯ ว่า มีเด็กที่ผ่านไปประสบเหตุแต่ถูกจับกุมต้องช่วยเหลือ ส่วนกรณีการสอนเปิดสนามแข่งรถให้เด็กประลองความเร็ว เชื่อว่า เด็กคงไม่ไป เพราะธรรมชาติของเด็กชอบความท้าทาย หากแข่งรถแล้วหนีตำรวจจะมันกว่า อย่างไรก็ตาม การลงโทษผู้กระทำผิดในปัจจุบันไม่ควรคุมขังผู้กระทำผิดเพียงเล็กน้อย คดีไม่อุกฉกรรจ์ ควรให้ไปทำบริการสังคม เพื่อเปิดกาสให้กลับตัวเป็นพลเมืองดีไม่ใช่ส่งไปฝึกวิทยายุทธในเรือนจำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเยาวชนบางรายเคยถูกจับกุมแล้วยังมากระทำซ้ำ จะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ตอนนี้มีกฎหมายบางฉบับที่เตรียมประกาศใช้ กรณีที่เยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ที่กระทำผิดข้อหาไม่รุนแรง อาจจะมีมาตรการลงโทษแบบเบา หรือไม่ต้องถูกจองจำ แต่ให้ทำประโยชน์แก่สังคมแทนหรือให้สวมใส่กำไลข้อมือ ที่ติดสัณญาณ แทนการจองจำ โดยมีการจำกัดพื้นที่ ห้ามออกไปนอกปริมณฑลที่กำหนด หากเขาออกนอกพื้นที่ดังกล่าวก็จะมีสัญญาณดังขึ้น เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่า มาตรการเหล่านี้จะช่วยให้เยาวชนกลับตัวเป็นคนดีได้ เพราะบางครั้งการที่เด็กถูกจองจำ จะทำให้เขาได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์ที่ไม่ดีจากคนอื่นๆ มากขึ้น
