นักธุรกิจชาวไทย แจ้งจับหนุ่มสวีเดนฉ้อโกงทรัพย์ หลังจากรับจ้างลากจูงเรือดำน้ำปลดประจำการของรัสเซีย ยู-194 ในค่าจ้างกว่า 20 ล้านบาท มาไว้ในพิพิธภัณฑ์ส่วนตัว แต่หนุ่มสวีเดนกลับทำเรือดำน้ำจมสู่ก้นทะเลลึกที่เดนมาร์ก เมื่อนักธุรกิจไทยตรวจสอบหาสาเหตุ พบว่า หนุ่มสวีเดน ดันใช้เรือสำราญลากจูง ถือเป็นการฉ้อโกง ทำให้ชวดได้ครอบครองเรือดำน้ำ
วันนี้ (14 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น.นายออตโต คูรเกอร์ (mr.otto kreuger) อายุ 29 ปี สัญชาติสวีเดน พร้อมทนายความได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ธนัตถ์ ทนงศักดิ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ฉ้อโกงทรัพย์ หลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีหมายเรียกให้มาพบ กรณีถูก นายเจษฎา เดชสกุลฤทธิ์ นักธุรกิจใหญ่ เจ้าของบริษัท เจษฎา เทคนิคมิวเซียม จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 100 ถนนพุทธมณฑลสาย 8 ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มอบหมายให้ พล.ต.ต.เจริญ มณีวงศ์ อายุ 65 ปี เป็นตัวแทนเข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายออตโต ซึ่งหลังจากนำตัวมาพิมพ์ลายนิ้วมือและสอบปากคำแล้ว ทาง นายออตโต ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่า จะไปให้ปากคำในชั้นศาลเท่านั้น ทาง พ.ต.ท.ธนัตถ์จึงได้อ่านรายละเอียดคำให้การในเบื้องต้น ก่อนที่ นายออตโต จะเดินทางกลับในทันที
ทั้งนี้ ก่อนถูกแจ้งความดำเนินคดีจนเป็นข่าวโด่งดังทางทีวี และ ซีเอ็นเอ็น มาแล้วนั้น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ม.ย.2548 นายเจษฎา ได้สั่งซื้อเรือดำน้ำรัสเซีย ชื่อ ยู-194 ซึ่งปลดประจำการแล้ว เพื่อนำกลับมาตั้งแสดงในพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวของตนเองในประเทศไทย ในราคา 28,029,815 บาท ต่อมาเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2549 นายออตโต ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับบ้านจัดสรรอยู่ที่ ต.บางแสน อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้ติดต่อมาที่ นายสุธรรม คนไว ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก นายเจษฎา ให้เป็นตัวแทนเจรจา จนในที่สุดได้มีการว่าจ้างให้ลากเรือ ยู-194 จากประเทศสวีเดน มายังประเทศไทย โดยได้เซ็นสัญญากันเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2549 ที่บ้านเลขที่ 62/1 หมู่ 2 ซ.วัดบางไกรไน ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ด้วยราคาค่าลากจูงเป็นเงินทั้งสิ้น 20,406,600 บาท ซึ่งทาง นายเจษฎา ได้จ่ายเงินมัดจำไปแล้วเป็นจำนวน 7,820,868 บาท
ต่อมา เมื่อมีการลากเรือ ยู-194 จากประเทศสวีเดน มายังประเทศไทย ปรากฏว่า เรือ ยู-194 ลำดังกล่าวได้จมลงในทะเลที่ประเทศเดนมาร์ก ที่ตำแหน่ง 56-33,75 n007-25e ในวันที่ 5 ก.พ.2550 ภายหลังจากทราบว่า เรือดำน้ำที่ตนเองสั่งซื้อได้จมลง ทาง นายเจษฎา จึงได้หาสาเหตุของเรือจมในครั้งนี้ จึงได้ทำหนังสือสอบถามไปที่อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2550 หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2550 อธิบดีกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ได้มีหนังสือเลขที่ คค 0309/4480 แจ้งให้ นายเจษฎา ทราบว่า เรือที่ใช้ในการลากจูงเรือ ยู-194 ครั้งนี้ ไม่ใช่เรือที่จดทะเบียนที่ใช้ในการลากจูงแต่อย่างใด แต่เป็นเรือ “สำราญในการพาณิชย์ที่ไม่จำกัดพื้นที่ประกอบกิจการ” เมื่อทราบดังกล่าวข้างต้นนายเจษฎา จึงเห็นว่า การที่ นายออตโต กับพวกนำเรือที่จดทะเบียนสำราญในการพาณิชย์มาลากจูงเรือดำน้ำของนายเจษฎาในครั้งนี้ เป็นการไม่แจ้งแก่นายเจษฎาตามความเป็นจริง เป็นเหตุให้หลงเชื่อตามที่ นายออตโต กล่าวว่า เป็นเรื่อที่ใช้ในการลากจูงในมหาสมุทรข้ามประเทศ และเคยทำงานลากจูงมาแล้วหลายครั้งจนชำนาญ เป็นเหตุให้นายเจษฎาหลงเชื่อจึงได้ว่าจ้างให้นายออตโตกับพวกทำการลากจูงจนเป็นเหตุให้เรือดำน้ำจมลงในทะเลลึกดังกล่าว
ดังนั้น นายเจษฎา จึงได้มอบหมายให้ตัวแทน คือ พล.ต.ต.เจริญ มณีวงศ์ นำความเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ธนัตถ์ ทนงศักดิ์ รอง ผกก.สส.เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายออตโตกับพวกในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ของนายเจษฎา ซึ่งได้มีหนังสือออกหมายเรียกนายออตโตให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ จนกระทั่ง นายออตโต ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาโดยปฎิเสธและขอไปให้การในชั้นศาล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไปแล้ว
วันนี้ (14 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น.นายออตโต คูรเกอร์ (mr.otto kreuger) อายุ 29 ปี สัญชาติสวีเดน พร้อมทนายความได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ธนัตถ์ ทนงศักดิ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ฉ้อโกงทรัพย์ หลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีหมายเรียกให้มาพบ กรณีถูก นายเจษฎา เดชสกุลฤทธิ์ นักธุรกิจใหญ่ เจ้าของบริษัท เจษฎา เทคนิคมิวเซียม จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 100 ถนนพุทธมณฑลสาย 8 ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มอบหมายให้ พล.ต.ต.เจริญ มณีวงศ์ อายุ 65 ปี เป็นตัวแทนเข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายออตโต ซึ่งหลังจากนำตัวมาพิมพ์ลายนิ้วมือและสอบปากคำแล้ว ทาง นายออตโต ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่า จะไปให้ปากคำในชั้นศาลเท่านั้น ทาง พ.ต.ท.ธนัตถ์จึงได้อ่านรายละเอียดคำให้การในเบื้องต้น ก่อนที่ นายออตโต จะเดินทางกลับในทันที
ทั้งนี้ ก่อนถูกแจ้งความดำเนินคดีจนเป็นข่าวโด่งดังทางทีวี และ ซีเอ็นเอ็น มาแล้วนั้น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ม.ย.2548 นายเจษฎา ได้สั่งซื้อเรือดำน้ำรัสเซีย ชื่อ ยู-194 ซึ่งปลดประจำการแล้ว เพื่อนำกลับมาตั้งแสดงในพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวของตนเองในประเทศไทย ในราคา 28,029,815 บาท ต่อมาเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2549 นายออตโต ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับบ้านจัดสรรอยู่ที่ ต.บางแสน อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้ติดต่อมาที่ นายสุธรรม คนไว ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก นายเจษฎา ให้เป็นตัวแทนเจรจา จนในที่สุดได้มีการว่าจ้างให้ลากเรือ ยู-194 จากประเทศสวีเดน มายังประเทศไทย โดยได้เซ็นสัญญากันเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2549 ที่บ้านเลขที่ 62/1 หมู่ 2 ซ.วัดบางไกรไน ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ด้วยราคาค่าลากจูงเป็นเงินทั้งสิ้น 20,406,600 บาท ซึ่งทาง นายเจษฎา ได้จ่ายเงินมัดจำไปแล้วเป็นจำนวน 7,820,868 บาท
ต่อมา เมื่อมีการลากเรือ ยู-194 จากประเทศสวีเดน มายังประเทศไทย ปรากฏว่า เรือ ยู-194 ลำดังกล่าวได้จมลงในทะเลที่ประเทศเดนมาร์ก ที่ตำแหน่ง 56-33,75 n007-25e ในวันที่ 5 ก.พ.2550 ภายหลังจากทราบว่า เรือดำน้ำที่ตนเองสั่งซื้อได้จมลง ทาง นายเจษฎา จึงได้หาสาเหตุของเรือจมในครั้งนี้ จึงได้ทำหนังสือสอบถามไปที่อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2550 หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2550 อธิบดีกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ได้มีหนังสือเลขที่ คค 0309/4480 แจ้งให้ นายเจษฎา ทราบว่า เรือที่ใช้ในการลากจูงเรือ ยู-194 ครั้งนี้ ไม่ใช่เรือที่จดทะเบียนที่ใช้ในการลากจูงแต่อย่างใด แต่เป็นเรือ “สำราญในการพาณิชย์ที่ไม่จำกัดพื้นที่ประกอบกิจการ” เมื่อทราบดังกล่าวข้างต้นนายเจษฎา จึงเห็นว่า การที่ นายออตโต กับพวกนำเรือที่จดทะเบียนสำราญในการพาณิชย์มาลากจูงเรือดำน้ำของนายเจษฎาในครั้งนี้ เป็นการไม่แจ้งแก่นายเจษฎาตามความเป็นจริง เป็นเหตุให้หลงเชื่อตามที่ นายออตโต กล่าวว่า เป็นเรื่อที่ใช้ในการลากจูงในมหาสมุทรข้ามประเทศ และเคยทำงานลากจูงมาแล้วหลายครั้งจนชำนาญ เป็นเหตุให้นายเจษฎาหลงเชื่อจึงได้ว่าจ้างให้นายออตโตกับพวกทำการลากจูงจนเป็นเหตุให้เรือดำน้ำจมลงในทะเลลึกดังกล่าว
ดังนั้น นายเจษฎา จึงได้มอบหมายให้ตัวแทน คือ พล.ต.ต.เจริญ มณีวงศ์ นำความเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ธนัตถ์ ทนงศักดิ์ รอง ผกก.สส.เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายออตโตกับพวกในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ของนายเจษฎา ซึ่งได้มีหนังสือออกหมายเรียกนายออตโตให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ จนกระทั่ง นายออตโต ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาโดยปฎิเสธและขอไปให้การในชั้นศาล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไปแล้ว
