ตำรวจสืบ 6 บุกทลายแผงค้าซีดีเถื่อน “เจ๊กิ๊ก” ในคลองถมเซ็นเตอร์ พบวีซีดี-ดีวีดีภาพยนตร์กับเพลงละเมิดลิขสิทธิ์เป็นจำนวนมาก หลังบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เข้าร้องเรียน ส่วนเจ้าของร้านไหวตัวทันปิดร้าน-ย้ายของกลางหนีไปได้บางส่วน
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (7 ก.พ.) พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.กก.สส.บก.น.6 พ.ต.ท.กรณ์กิตฐ์ ค้ำชู รอง ผกก.กก.สส.บก.น.6 และ พ.ต.ท.นิรันดร์ ประดิษฐ์อัสดร สว.กก.สส.บก.น.6 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.6 นำหมายค้นศาลแขวงดุสิต เลขที่ ค.23/2550 ลงวันที่ 7 ก.พ.51 เข้าตรวจค้นแผงค้าซีดีเถื่อน “เจ๊กิ๊ก” ภายในตลาดคลองถมเซ็นเตอร์ โซนบี 23 ห้องที่ 1-2 ถนนวรจักร แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบ กทม. หลังได้รับแจ้งจากนายสิงห์ทอง ปิ่นมณี ผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ว่าที่ร้านค้าซีดีดังกล่าวมีการลักลอบจำหน่ายภาพยนตร์ และเพลงละเมิดลิขสิทธิ์ ของผู้ประกอบการหลายราย
ร้านซีดีดังกล่าวเป็นห้องแบ่งให้เช่า เนื้อที่ความยาวติดกันจำนวน 2 คูหา สูง 2 ชั้น แต่ในวันนี้ไม่ได้เปิดแผงค้าขายตามปกติ โดยเจ้าของร้านใช้แม่กุญแจล็อกบานประตูเลื่อนเอาไว้ทุกด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานไปยังฝ่ายดูแลอาคารคลองถมเซ็นเตอร์ ให้ช่วยติดต่อเจ้าของร้านมาทำการเปิดประตูให้เข้าไปตรวจสอบ จนเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้คีมตัดเหล็กตัดกุญแจเข้าไปตรวจสอบภายในร้าน
จากการตรวจสอบภายในร้านทั้งชั้นบนและชั้นล่าง เจ้าหน้าที่พบแผ่นดีวีดี และแผ่นวีซีดีภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ประกอบการหลายค่ายจำนวนกว่า 2,000 แผ่น เช่นเรื่องสวยสิงห์กระทิงแซด ผีเลี้ยงลูกคน และตั๊ดสู้ฟุด ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของแกรมมี่ และภาพยนตร์เรื่องหม่ำเดียว หัวเหลี่ยมหัวแหลม และ warlords ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของ บริษัทสหมงคลฟิล์ม นอกจากนี้ยังพบว่ามีแผ่นผลงานเพลงจากศิลปินชื่อดังหลายค่ายถูกนำมารวมกันเอาไว้ในแผ่นเดียวกัน เพื่อขายให้กับลูกค้าราคาแผ่นละ 70 บาท โดยมีป้ายบอกโปรโมชั่นหากลูกค้าซื้อ 3 แผ่นลดราคาเหลือเพียง 200 บาท ขณะเดียวกัน เจ้าหน้ายังพบปกแสดงชื่อเรื่องภาพยนตร์ และผลงานเพลงของศิลปินค่ายต่างๆ อีกจำนวนกว่า 10,000 ชิ้น จึงทำการยึดของกลางทั้งหมดไว้เพื่อออกหมายเรียกตัวเจ้าของร้านมาดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.สมบัติ กล่าวว่า การเข้าตรวจสอบในวันนี้ เจ้าหน้าที่ทำตามคำร้องทุกข์ของผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท แกรมมี่ โดยหลังจากนี้จะยึดของกลางที่พบทั้งหมดไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่า ภาพยนตร์หรือเพลงละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ประกอบการค่ายใดบ้าง จากนั้นจะเรียกเจ้าของค่ายมาร่วมตรวจสอบครั้งหนึ่ง ส่วนทางเจ้าของร้านดังกล่าวนั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่ติดต่อไปแล้ว แต่กลับไม่ยอมเดินทางมาก็จะออกหมายเรียกมารับทราบข้อหาจำหน่ายวีซีดี และดีวีดีละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นในภายหลัง
“สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาผู้ค้าซีดีเถื่อนในพื้นที่ บก.น.6 นั้น ต่อจากนี้ตำรวจจะมีการเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการจับกุมกันมาตลอดอยู่แล้ว และจะมีการเรียกผู้ประกอบการจากค่ายต่างๆ เข้ามาหารือกันเพื่อหาทางออกโดยเร็วที่สุด ซึ่งจากนี้ไปอาจจะให้ผู้รับมอบอำนาจ หรือตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์ มาเดินตรวจตรา และจับกุมพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยก็ได้ แต่เหตุผลสำคัญที่สุดคือ การจับกุมแต่ละครั้งจะต้องมีผู้มาแจ้งความร้องทุกข์เสียก่อนตำรวจจึงจะดำเนินการได้ตามกฎหมาย ซึ่งตนขอยืนยันว่า ตำรวจทุกนายพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว” พ.ต.อ.สมบัติ กล่าว
ด้าน นายสิงห์ทอง ซึ่งเป็นผู้รับมอบจากบริษัท แกรมมี่ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนและเจ้าหน้าที่ของบริษัทอีกหลายคนจะคอยสลับสับเปลี่ยนกันมาซุ่มดู รวมทั้งปลอมตัวเป็นลูกค้ามาซื้อแผ่นภาพยนตร์ที่แผงค้าซีดีแห่งนี้หลายครั้ง จนทราบแน่ชัดว่าเจ้าของแผงเป็นผู้ค้ารายใหญ่ จึงการประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาร่วมตรวจสอบ แต่คาดว่าเจ้าของแผงน่าจะไหวตัวทันเนื่องจากช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาตำรวจเข้มงวดปราบปรามซีดีเถื่อนมากเป็นพิเศษจึงรีบโยกย้ายของกลางออกไปเป็นบางส่วนและปิดแผงหนีได้ทันเวลา