ตร.สมุทรปราการ บุกทลาย “แก๊งเขี้ยวเพชร” วิ่งราวทรัพย์ผู้อื่น หลังชาวบ้านร้องเรียนว่าถูกแก๊งดังกล่าววิ่งราวฉกทรัพย์สิน รวบผู้ต้องหา 7 ราย พร้อมของกลางอีกกว่า 16 รายการ เผยหัวหน้าแก๊งเป็นคนพิการขาขาด หนำซ้ำแม่และพี่สาวร่วมขบวนการด้วย
วานนี้ (3 ก.พ.) ที่ สภ.สำโรงเหนือ พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ แถลงข่าวผลการจับกุม “แก๊งเขี้ยวเพชร” วิ่งราวทรัพย์ พร้อมผู้ต้องหาจำนวน 7 คน ประกอบด้วย 1.นายชานนท์ เนตรสืบสาย หรืออ๊อฟ อายุ 28 ปี ซึ่งพิการขาข้างซ้ายขาดใส่ขาปลอม 2.น.ส.กชกร ลักษณะ อายุ 19 ปี ภรรยา 3.นางแฉล้ม ชั้วชั้น อายุ 65 ปี มารดาของนายอ๊อฟ 4.น.ส.กรองกาญจน์ ชั้วชั้น อายุ 42 ปี พี่สาว 5.น.ส.ขวัญใจ ทองคำนุช อายุ 31 ปี 6.นายอานพ ศรีจันทรา อายุ 43 ปี 7.นายเกรียงไกร รุ่งแสงสุวรรณ อายุ 32 ปี
โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่บ้านเลขที่ 34/308 หมู่ 4 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พร้อมยึดของกลางที่ลงมือก่อเหตุจำนวน 16 รายการ 1.โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง 2.แหวนทองคำฝังมุกล้อมเพชร 1 วง 3.ต่างหูฝังมุกล้อมเพชร 1 คู่ 4.ตั๋วจำนำ 10 ใบ 5.ใบฝากทองร้านค้าทอง 5 ใบ 6.กระเป๋าสะพายสตรีแบบต่างๆ จำนวน 17 ใบ 7.กระเป๋าสตางค์แบบสตรีจำนวน 42 ใบ 8.ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือระบบต่างๆ จำนวน 39 ซิม 9.สายชาร์จโทรศัพท์และหูฟังจำนวน 12 ชุด 10.นาฬิกายี่ห้อต่างๆ จำนวน 15 เรือน 11.เครื่องประดับสตรีชิดต่างๆ จำนวน 17 ชิ้น 12.ตัวบันทึกข้อมูลจำนวน 2 ตัว 13.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า นูโว สีแดง ทะเบียน ลขจ-267 กทม.1 คันที่ใช้ในการก่อเหตุ 14.เสื้อแจ็กเกตแขนยาว สีแดง กลางหลังปักอักษรคำว่า ปราการเจริญยนต์ 1 ตัว 15.มวกกันน็อกสีดำ 1 เต็มใบจำนวน 1 ใบ 16.ปืนปลอมขนาด 11 มม.1 กระบอก
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า มีผู้เสียหายจำนวนมากได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจว่าถูกแก๊งวิ่งราวทรัพย์เอาทรัพย์สินไปโดยเฉพาะกระเป๋าสะพายของสุภาพสตรี โดยก่อเหตุทุกวันวันละหลายครั้ง จึงให้ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ออกสืบสวนหาข่าวจนกระทั่งทราบเป็นที่แน่ชัดว่าผู้ที่ลงมือก่อเหตุวิ่งราวเป็นแก๊งเขี้ยวเพชร โดยมีนายชานนท์ หรือนายอ๊อฟ ซึ่งเป็นชายพิการขาซ้ายขาดต้องใส่ขาปลอม เป็นหัวหน้าแก๊ง จึงเข้าจับกุมนายอ๊อฟได้ในขณะที่อยู่ในบ้านพักพร้อมกับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด จึงตรวจค้นภายในบ้านกระทั่งพบของกลางทั้งหมด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้ยานพาหนะ หรือรับของโจร ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เพื่อดำเนินคดีต่อไป