ป.ป.ส.เล็งสอบแก๊ง ตชด.เรียกคืนเงินรางวัลจับยาบ้า

เลขาฯ ป.ป.ส.เผยเตรียมรื้อสำนวนคดี แก๊ง ตชด.เล็งเรียกคืนเงินรางวัลการจับกุมยา ด้านเหยื่อแก๊งอุ้มรีดทรัพย์ยัดยาบ้าโผล่เพิ่มชุมพร เตรียมเข้าพบ ผบ.ตร.จันทร์นี้ ด้านโฆษก ตร.เตรียมลงใต้หาแนวทางเยียวยาเหยื่อพรุ่งนี้

วันนี้ (2 ก.พ.) นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า ภายหลังผู้เสียหายหลายรายเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชนนิธิวณิชย์ ผบ.หมวด.426 กก.ตชด.42 จ.นครศรีธรรมราช ช่วยราชการ กก.ตชด.41 จ.ชุมพร กับพวกร่วมกันขู่รีดเงินยัดข้อหายาเสพติดแก่ผู้บริสุทธิ์ ป.ป.ส.ได้ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังถึงการจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติด ของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการของ ร.ต.อ.ณัฎฐ์ พบว่า ตชด.แก๊ง ร.ต.อ.ณัฏฐ์ได้ขอเบิกเงินรางวัลในการจับกุมคดียาเสพติดจากปปส.ทุกคดี

เบื้องต้นพบว่ามีการจ่ายเงินรางวัลให้แก่แก๊งของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ไปเป็นจำนวนมาก เพราะแก๊งของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ได้ดำเนินการจับกุมคดียาเสพติดมาแล้วหลายคดี คาดว่าเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 1,000,000 บาท ดังนั้น เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงภายหลังว่ามีการสร้างหลักฐานเท็จเพื่อยัดข้อหาให้แก่ผู้บริสุทธิ์ ป.ป.ส.จะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งถึงพฤติการณ์การจับกุม หากเป็นคดีที่ยังไม่มีการอนุมัติจ่ายเงินรางวัลจะสั่งให้ระงับการจ่ายเงิน แต่ถ้าเป็นคดีที่จ่ายเงินรางวัลไปแล้วก็จะเรียกเงินรางวัลนำจับคืน

ด้าน นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า โครงการคัดกรองเพื่อช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ที่ถูกคุมขังในเรือนจำของนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นโครงการที่ได้วางระบบไว้ค่อนข้างรัดกุม แทบไม่เหลือช่องว่างหรือโอกาสให้ผู้กระทำความผิดตัวจริง ฉวยโอกาสแอบแฝงมารวมอยู่ในกลุ่มผู้บริสุทธิ์ โดยขั้นแรกผู้ต้องขังจะต้องยื่นคำร้องพร้อมแสดงหลักฐานและเหตุผลต่อเจ้าหน้าที่เรือนจำว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ถูกทำร้ายร่างกายและยัดข้อหาจับกุมอย่างไร

จากนั้นกรรมการระดับเรือนจำจะกลั่นกรองข้อมูล พร้อมทำความเห็นเสนอมายังกรมราชทัณฑ์ เพื่อให้คณะกรรมการของกรมราชทัณฑ์คัดกรองอีกครั้ง และแยกเรื่องร้องเรียนออกเป็นกลุ่ม โดยแบ่งเป็น กลุ่มเอ ผู้ต้องขังที่มีความน่าเชื่อมากว่าอาจเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกยัดข้อหา จากนั้นจะไล่ลงมาเป็นกลุ่มบี และซี ไปจนถึงกลุ่มดี ซึ่งในกลุ่มสุดท้ายนี้กรมราชทัณฑ์เสนอให้ตัดชื่อทิ้งเพราะหลักฐานข้อมูลที่ร้องเรียนไม่น่าเชื่อถือ

ในวันเดียวกัน ที่ สภ.เมืองชุมพร นางเฉลิม รัตนพันธ์ อายุ 65 ปี พร้อมด้วยนายเยี่ยม เซียะเม้ง อายุ 47 ปีบุตรเขย ชาวจังหวัดชุมพรได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อแก๊ง ตชด.เพิ่มเติมโดยมี พล.ต.ต.ประพัฒน์ ศิริวัฒน์ ผบก.ภ.จ.ชุมพร ร่วมสอบปากคำ

นางเฉลิม ให้การว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.48 ส.อ.ชัยสิทธิ์ รัตนพันธ์ อายุ 27 ปี บุตรชายตนเอง ซึ่งเป็นทหารสังกัดจังทหารบกชุมพร ร.25 พ.2 ได้ถูกตำรวจ ตชด.ซึ่งกล่าวอ้างว่าเป็นชุด ฉก.ป.ป.ส.ของ ตชด.41 จับกุม ขณะอยู่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโอเชี่ยน ช็อปปิ๊งมอลล์ ในเขตเทศบาลเมืองชุมพร จากนั้นได้ถูกควบคุมตัวไปสอบสวนยังค่าย ตชด.41 ชุมพร ก่อนถูกข่มขู่บังคับให้รับสารภาพว่าเป็นผู้ครอบครองยาบ้าจำนวน 38 เม็ด จนในที่สุดศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษสถานหนักเพราะเป็นข้าราชการทหารโดยให้จำคุก 24 ปี รับสารภาพลดโทษเหลือจำคุก 16 ปี

นางเฉลิม กล่าวต่อว่า หลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุกบุตรชาย ตนได้ยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีและมีการร้องขอความเป็นธรรมตามหน่วยงานต่างๆ อยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นสำนักนายกรัฐมนตรี ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย แต่ก็ไม่เป็นผล จนมาทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่า ผบ.ตร.ให้ผู้เสียหายมาแจ้งความจึงได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.อ.เมืองชุมพรและหลังจากนี้จะได้ไปยื่นหนังสือต่อ ผบ.ตร.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันจันทร์ ที่ 4 ก.พ.นี้

ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) จะเดินทางไปยัง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อรับฟังข้อมูลพร้อมหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่จากสำนักอัยการฝ่ายช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด

ล่าสุด พล.ต.ต.พิสัณห์ จุลดิลก รอง ผบช.ภ.8 ระบุว่ามีประชาชนได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้วกว่า 20 ราย ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช กระบี่ ภูเก็ต และพังงา โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติการณ์ต่างๆ ตามที่ได้มีการร้องทุกข์ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อรวบรวมส่งให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ที่ได้รับมอบหมายให้สืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ดำเนินการต่อไป